รายการ โหนกระแส วันที่ 1 ตุลาคม 2563 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ เฌอเอม พร้อมกับ เคน สิทธิชัย ถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น
เสียใจไหมถูกตัดสิทธิ์ ?
เฌอเอม : เสียดายมากกว่าค่ะ ถ้าเสียใจแสดงว่าเราไม่พิจารณาตัวเอง
ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ คิดว่าจุดสิ้นสุดของคุณ คุณจะได้รางวัลไหม ?
เฌอเอม : จริง ๆ ก็คิดว่าอาจจะได้หรือไม่ได้ เรามีหลายอย่างที่เราไม่ได้ดีเท่าคนอื่น
คู่แข่งคุณคือใคร ?
เฌอเอม : ถ้าเทียบในใจตั้งแต่ต้นมาคือ อะแมนดาค่ะ เราวางเขาเป็นที่หนึ่งมาตลอด
วีนาล่ะ ?
เฌอเอม : หนูก็ชอบเขาค่ะ แต่ถ้าถามเหมือนความรู้สึกส่วนตัวของเราว่า ในสเปกเรา คนแบบไหนที่น่าจะได้ ก็เป็นอะแมนดา
ถ้าอะแมนดาได้ คุณจะเจ็บใจมาก ?
เฌอเอม : เจ็บใจค่ะ เพราะเรากับเขามีอะไรที่คล้ายกัน เขาเป็นคนที่หนูพยายามเทียบด้วยตลอดเวลา แม้เราจะแข่งขัน เราอาจไม่คิดว่าเราต้องได้ที่หนึ่ง แต่เราต้องมีใครที่คิดว่าเป็นจุดสูงสุดที่เราต้องเทียบ ก็คิดว่าเป็นอะแมนดา
ถ้าวีนาได้คุณจะให้พระเจ้าพิพากษา ?
เฌอเอม : พิพากษาหนูนี่แหละค่ะพี่ ไม่ใช่เขาค่ะ พิพากษาที่หนูเคยอคติกับเขา
ทุกสิ่งที่ถามอยู่ในไลน์ 79 หน้า คุณสองคนรู้จักได้ยังไง ?
เคน : รู้จักจากน้องสนิทของผมคนหนึ่ง รู้จักประมาณ 2 ปี โดยปีแรกเราไม่เคยเจอหน้า แค่รู้ว่าน้องเป็นเพื่อนคนนี้ เริ่มเจอกันจริง ๆ ปีที่แล้ว หลังเจอมรสุมชีวิตปัญหาเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เดินมาพูดมาคุยกัน
เคยบอกกองไหมว่ารู้จัก ?
เคน : ไม่เคย
ทำไมถึงไม่บอก ?
เคน : บอกเพื่อ ? มันเป็นเรื่องทั่วไปที่รู้จักคนนั้นคนนี้ ก็คือคนที่เรารู้จัก
ดูแฝงไปไหม ?
เคน : ถ้าจะแฝงขนาดนั้น ผมว่าผมแอบให้มิดชิดกว่านี้ดีกว่า ไม่ต้องให้เกิดเรื่องดีกว่า
ใครส่งคุณเข้าประกวด ?
เฌอเอม : มีอยู่ในแชตค่ะ
ไม่กล้าเอ่ยชื่อเขาเหรอ ?
เฌอเอม : ก็เป็นชื่อคนค่ะ
คิทตี้ ใช่ไหม ?
เฌอเอม : ค่ะ ตามตัวอักษรก็ดูได้ค่ะ
คุณคิทตี้ ส่งคุณเข้าประกวด คิทตี้ ชิชา ?
เฌอเอม : ไม่มีสองพยางค์หลังค่ะ
เฌอเอม : รู้จัก 2 ปีแล้วค่ะ แต่รู้จักเฉย ๆ ไม่ได้ทำงานร่วมกันมากมาย เขาขายงาน แต่มันก็ไม่ได้ แล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ เอมอยู่ต่างประเทศเป็นหลัก บินไปบินมา
ตอนอยู่ในกองประกวด ไปเลือกเขามาดูแลคุณได้ยังไง ?
เฌอเอม : ตอนนั้นหลังแยกย้ายจากคนที่ส่งคนแรก เราทำงานคนเดียว ซึ่งมันไม่ไหว มันหนักที่จะทำคนเดียว รถก็ไม่มี สปอนเซอร์ก็มีไม่เยอะ หลายคนคิดว่าเอมมีเยอะ แต่ความจริงแล้วคนที่จะทำงานเต็มเวลาให้เอมได้มันไม่มี เรารู้จักเขาในฐานะโบรกเกอร์มาก่อน สนิทสนมระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดเรื่องในกอง ถ้าจะเป็นคนนี้เราก็ต้องไปคุยกับกอง
มองโบรกเกอร์ พี่เลี้ยงนางงาม กับผู้จัดการส่วนตัว มองว่าต่างกันยังไง ?
เฌอเอม : โบรกเกอร์ขายงานให้ได้ทุกคนค่ะ ขายให้คนเยอะมากที่สาธารณชนไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เอมใส่เบอร์เขาไว้ เพราะเอมไม่ชอบดีลงานเอง เอมใส่ไว้หน้าไอจี และไม่เคยเอาลงตั้งแต่ก่อนประกวดค่ะ
เรื่องเพิ่งหลุดหลังคุณเข้าประกวดแล้ว ?
เฌอเอม : มันก็อยู่ตรงนั้นแหละค่ะ
เฌอเอม : เอมคิดว่าเป็นเรื่องความคลุมเครือ เรารู้สึกว่าเราไม่มีคนอื่นจริง ๆ อันนี้อยู่ที่คนจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ว่าไม่ใช่เราเหมือนคนรู้จักเยอะ แล้วทุกคนจะมาร่วมทำงานกับเราในเวลานี้ได้
คุณขึ้นเบอร์โทร. คุณเคนหน้าไอจีนานมากแล้ว ก่อนประกวด เป็นข้อยืนยันว่าคุณสองคนรู้จักกันมานานก่อนประกวด ย้อนกลับไปคำถามเดิม ทำไมไม่บอกกองประกวด ?
เคน : มันคือความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง ที่เราไม่ได้ปกปิด ถ้าจะปกปิดก็ปกปิดไปตราบนานเท่านาน และก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ตัวด้วยว่าเราจะได้เข้าไปทำงานในกองประกวดเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่
คุณคือคนของกองประกวดไหม ?
เคน : ไม่ใช่
เคน : ผมไม่เคยเซ็นสัญญากับกองประกวด ผมไม่เคยได้รับเงินค่าจ้างจากกองประกวดเลย ทั้งหมดทั้งมวลคือ การที่ผมรู้จักคนที่เขาบอกว่า ต่อแต่นี้เราคือคนเคยรู้จักกัน ความสัมพันธ์ที่ผมรู้จักเขาตั้งแต่ปี 2018 จากผู้จัดการนางงามท่านหนึ่ง และหลังจากนั้นเรามีการพูดคุยติดต่อกัน เธอทำอะไร ฉันทำอะไร ด้วยความที่เราเป็นผู้จัดการดาราอยู่แล้ว เราก็รู้จักคนค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้นจะมีช่วงปี 2019 เราพาพี่ที่เคยรู้จักไปของบสนับสนุนการประกวดจากหน่วยงานรัฐหน่วยงานหนึ่ง ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้ทำงานร่วมกันจริง ๆ ในฐานะกัลยาณมิตรให้ความช่วยเหลือกันมาโดยตลอด
คุณอั้มเป็นเพื่อนหรือเจ้านาย ?
เคน : เป็นรุ่นพี่ครับ เขาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท สตาร์ดอม ทำพีอาร์และมาร์เกตติ้งให้กองประกวด
คุณอยู่ในส่วนคุณอั้มหรือเปล่า ?
เคน : ไม่ครับ เพราะเราไม่ได้เป็นเงินเดือน เราไม่ได้เป็นลูกจ้าง เราเข้าไปช่วยเขาทำเพราะแพสชั่น
พูดตรง ๆ อยากเสนอหน้า อยากเข้าไปดูในกองประกวด เพราะเราชื่นชอบ ?
เคน : ใช่ เท่านั้น
เคน : ด้วยคอนเน็กชั่นในการขายของเราค่อนข้างเยอะ เพราะเรารู้จักคนเยอะ ตอนแรกเราช่วยเขาขายแพ็ก ขายสปอนเซอร์ ก่อนหน้านั้นที่เราประชุมกันแรก ๆ เป็นก่อนช่วงโควิด เราเข้าไปรับรู้ในส่วนที่ว่าทางสตาร์ดอมจะทำพีอาร์และมาร์เกตติ้งให้กองประกวด และหลังจากนั้นรอบที่สอง มาดูทิศทางว่าใครขายอะไรได้บ้าง ใครยื่นขายอะไร ใครมีสปอนเซอร์อะไรในมือ ใครเป็นลูกค้าใครบ้าง หลังจากนั้นโดนโควิดก็ปิดหายเงียบไปเลย
จนกระทั่งผมก็พยายามติดตามว่าลูกค้าที่ไปเสนอข่าวครั้งนี้มีใครได้บ้าง สรุปแล้วผมขายอะไรไม่ได้เลย จนคิดว่าขายไม่ได้เลยคงไม่ได้เข้าแล้ว ก็เป็นเราปกติทั่วไป นั่งดูชื่นชมหน้าทีวี จนสุดท้ายหลังจากกองประกวดแถลงข่าว จากนั้นเกือบ 1 อาทิตย์ มีการติดต่อว่าอยากได้โปรดักต์ผมดูแลเส้นผมนางงาม ผมก็เอาโปรดักต์ไปให้ และช่วยดูตรงนั้น เพราะหน้าที่ของคนที่ขายงานได้
เป็นไปได้ไหม เขามองว่าคุณอยากเข้าไปต้องการเอาข้อมูลให้เฌอเอม ?
เคน : โห เห็นอยู่ว่าน้องฉลาดกว่าผม สติปัญญาแบบนี้ ผมจะไปสอนอะไรน้องได้
ไลน์กลุ่ม 79 หน้าที่ถูกแฉ เริ่มตั้งแต่ 11 กรกฎาคม กลุ่มนั้นมีกี่คน ?
เฌอเอม : 7-8 ค่ะ
เคน : ในบริบทประกวดนางงาม คำถาม 30 วินาที โดยมาตรฐานแล้วทุกเวทีใช้เหมือนกันหมด เราเอาคำถามนางงามเก่า ๆ แต่ละปีมาเป็นต้นเรื่อง ว่าถ้าคำถามแบบนี้ จะตอบยังไง เหมือนไกด์ไลน์ว่าคำถามนางงามจะเป็นประเภทนี้ บริบทเวทีนางงามจะเป็นแบบนี้ เพราะสุดท้ายแล้ว เขาไม่เคยประกวดมาก่อน เขาจะไม่รู้ว่าโลกนางงามคืออะไร
คุณเอาข้อสอบมาจากไหน ?
เฌอเอม : ยูทูบค่ะ เปิดดูเวทีเก่า ๆ
แล้วคุณก็ไปเทรนเลยว่าบุคลิกแบบนี้ ต้องทำแบบนี้ ต้องตอบให้ได้แบบนี้ภายใน 30 วิ ?
เฌอเอม : ไม่ค่ะ ไม่มีใครเทรนเอมได้
คุณมีบอกเขาไหม ?
เคน : สิ่งที่บอกคือ ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ที่เขาบอกว่าจะลงประกวด เราบอกว่าลงไม่ได้หรอก เขาบอกว่าทำไมเขาลงไม่ได้ เขาเป็นผู้หญิง เขาอยากประกวด เราบอกว่ายูมีความลุย ๆ ห้าว ๆ เป็นผู้ชาย ไม่เหมาะ ไม่ใช่นางงาม ยูไปก็เท่านั้น
เคน : โอ้โห ไม่ได้เอาออกมาเลย ถ้าจะให้พูดก็ต้องขอบคุณแชตหลุดที่หลุดออกมา ถ้าอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกจนสุดท้าย จะเห็นว่าผมไม่ได้เอาข้อมูลความลับมาบอกใครเลย
ตัวงูนั่นเป็นคุณ ?
เฌอเอม : ใช่ค่ะ
ทำไมลงเป็นรูปงู เหมือนมีพิษเหรอ ?
เฌอเอม : ไม่ใช่ค่ะ มีคนเดียวในโลก ที่มีเบอร์โทรศัพท์เอมเป็นอีโมติคอนรูปงู
ถ้าอยากรู้ว่าไลน์นี้หลุดมาจากไหน ก็ให้ดูว่าเขาเมมเป็นอะไร ของคุณเจ้าของไลน์เมมชื่อคุณเป็นงู เพราะเขามองคุณเป็นอสรพิษเหรอ ?
เฌอเอม : ผิดค่ะ เพราะเราสนิทกันมาก จนเขารู้ว่าสัญลักษณ์รูปสัตว์ของเอมคืองู เพราะเมื่อก่อนเราแทนตัวเองเป็นสัตว์ แล้วเอมชอบงู เอมเลยใช้งู เขาเลยเมมเป็นรูปงู
มีอันหนึ่งที่น่าสงสัย มีเจ้าของเพจเพจหนึ่งอยู่ในนี้ แล้วบังเอิญเขาอยู่ในรอบออดิชั่น และเขาถามคุณเรื่องคำพูดของคุณว่าทำไมพูดลักษณะแบบนี้ รู้จักเขาไหม ?
เฌอเอม : รู้จักค่ะ อยู่ในกลุ่มไลน์ค่ะ
เฌอเอม : ต้องบอกว่าตอนที่เรามีกรุ๊ปแชต มันยุบไปในวันที่ 23 หลังจากนั้นไม่มีการใช้งานอีก เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครจะไปทำอะไรกับกอง ในฐานะที่เขาอยากซัพพอร์ตเรา เพราะเขาเตะตาเราตั้งแต่ต้น ตอนนั้นเราก็พูดคุยกันได้
เข้าใจได้ไหมว่า เขาอาจจะรู้กับคุณ คุณอยู่ในกรุ๊ปเดียวกัน อวยกัน ตั้งคำถามชงให้ตอบ ขยี้ให้ตอบ ตรงนี้จะตอบยังไง ?
เฌอเอม : หนูว่าแทนที่จะคิดว่าขยี้ให้ตอบ หรือชงให้ตอบ ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าเอมพูดไม่ชัด และเห็นอยู่แล้วว่าเอมไม่มีความตั้งใจเปลี่ยนน้ำเสียงหรือบังคับปากให้สวยขึ้นหรือว่าอะไร เอมว่าเขาน่าจะถาม เพราะอยากรู้จริง ๆ ว่าเอมจะตอบยังไงมากกว่า
พูดไม่ชัดนานหรือยัง ?
เฌอเอม : ตั้งแต่เกิดค่ะ
หลายคนสงสัยว่าก่อนหน้านี้ เดอะเฟซ 4 ปี คุยแซ่บShow 3 ปี วันนั้นคุณดูพูดชัดกว่าตอนนี้ คุณเพิ่งพูดไม่ชัดหรือเปล่า ?
เฌอเอม : ห้ะ ไม่เคยมีคนเห็นเอมพูดเยอะเท่าในมิสยูนิเวิร์ส นานเท่ามิสยูนิเวิร์ส ติดต่อกันเท่ามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ถ้าเอมพูดกับพี่ตั้งแต่วันนั้นก็จะมีคำที่ชัด เพราะเมื่อก่อนเราออกกล้องน้อย หนูเค้นพลังทั้งร่างกายเพื่อให้พูดชัด ตอนนี้พูดชัดไหมคะ ก็เหมือนกันค่ะ แต่ที่เอมรู้สึกคือ เมื่อก่อนหน้าเราเต็มกว่านี้หรือเปล่า ไม่รู้เกี่ยวไหม
โครงสร้างเหรอ ตอนนั้นผอมลงทำให้พูดชัดเหรอ หรือยังไง ?
เฌอเอม : ไม่เกี่ยวค่ะ หมายถึงเรื่องรูปปากเราค่ะ
แต่ที่ดูเมื่อกี้ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าคุณพูดชัด 3 ปีที่แล้ว ไป ๆ มา ๆ วันนี้พูดไม่ชัด หลายคนเลยมองว่าเป็นกลยุทธ์หรือเปล่า ?
เฌอเอม : ขอถามพี่แบบอาจจะดูกวนประสาทนิดหนึ่ง ปีหนึ่งมีกี่วันคะ แล้วคลิปนั้นกี่วันคะ มันวันเดียวช่วงเดียวของเวลาทั้งหมด แล้ว 26 ปีที่ผ่านมา ต้องถามคนที่อยู่ในช่วงชีวิตเอมว่าตลอดเวลาพูดชัดหรือไม่ชัด ไม่ใช่แค่ดูช่วงเวลาเอมออกกล้อง เพราะในกองประกวดมีบางช่วงชัดมาก แต่บางช่วงไม่ค่อย โดยเฉพาะโฟกัสในช่วงที่เราใช้สมองหนัก ๆ ใช้ร่างกายเกร็งทุกส่วน เพื่อให้ยืนอยู่อย่างสง่างาม
คุณไปคุกเข่าอะไรกับคุณปุ้ย ?
เคน : วันนั้นเข้าไป หลังน้องตกลงปลงใจว่าไม่ไหว จะเอาพี่ไปได้ไหม เราบอกว่าเราเป็นคนทำงานเดินอยู่ในนั้น เราเป็นคนดูแลสปอนเซอร์ ถ้าเข้าไปก็ต้องไปหาไดเรกชั่นว่าควรต้องทำยังไงหลังจากนี้ แต่ไม่ได้คำตอบ แต่ถามว่าเข้าไปคุกเข่า โดยนิสัยเคนไม่ได้ยืนค้ำหัว จะพูดว่านอบน้อมก็ได้ เคนเป็นคนมารยาทดี ที่บ้านสอนมาดี
ไม่ได้แซะนะ ?
เคน : ไม่ได้แซะ ก็บอกว่าถ้าเคนจะทำในหน้าที่นี้จะต้องยังไงต่อ ก็ไม่ได้คำตอบ หันไปถามคุยเรื่องสุขภาพของน้อง
เฌอเอม : ยังไม่ได้ติดต่อกับพี่ปุ้ยโดยตรง ถ้ามีโอกาสวันใดวันหนึ่งจะเข้าไปกราบค่ะ หนูจะแสดงความเสียใจที่เข้าใจผิด เพราะความไร้ประสบการณ์ของหนูและทำให้มันเกิดขึ้น
ปัญหาหลัก ๆ คุณจะบอกว่าคุณไม่ได้ส่งเขาเข้าประกวด โชคดีที่ไลน์หลุดออกมา ?
เคน : ขอบคุณแชตหลุดที่ทำให้เราได้ไขข้อข้องใจ ไขความกระจ่างว่าเราไม่ได้เป็นคนส่ง แล้วแชต 79 หน้า ไม่มีคำถามหรือประโยคไหนที่บอกว่าเป็นความลับของกองประกวด
อาจไม่อยู่ในนั้น มาทำข้างหลังหรือเปล่า ?
เคน : โอ้โห
อย่างต้องใส่ชุดไทยจิตรลดา กองเขาให้ใส่สีพาสเทล คุณไปใส่สีแดงคนเดียว แบบนี้รู้มาก่อนหรือเปล่า ?
เฌอเอม : พี่มิลินพูดเองว่าใส่สีอะไรก็ได้ ชอบ มั่นใจ เขาบอกสีลูกกวาด ลูกกวาดคือสีลูกกวาด ไม่ใช่พาสเทล
เฌอเอม : หนูไม่ได้บอกว่าไม่ไปนะคะ หนูบอกว่าหนูมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งเพื่อนหลายคนที่ป่วยก็อาจลาครึ่งวันและขอไปโรงพยาบาล ซึ่งวันนั้นเอมก็ไป เอมบอกว่าเอมจะทำเท่าที่ทำไหว ถ้าเรายืนกลางแดดไม่ไหว อาจจะเข้าร่มนิดหนึ่งแล้วออกมา แต่ถ้าถึงขีดจำกัด เราจะรีบบอกว่าสละสิทธิ์ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นในกอง มันจะทำให้กองดูไม่ดี
กลัวเขาเอาหลักฐานมาโชว์อีกไหม ?
เคน : หลักฐานอะไรล่ะครับ
เขาบอกคุณเข้าประชุมมากกว่า 3 ครั้ง ?
เคน : หลักการทำงานการประชุม ต้องมีเซ็นชื่อก่อนเข้าประชุม หลังประชุมเสร็จ ต้องมีวาระการประชุมที่สรุปมาแล้ว ทำให้ทุกคนเห็นเหมือนกันว่ามีอะไรขาดตกบกพร่องไปบ้าง ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ต้องรู้ทุกอย่าง แต่ผมไม่รู้ ไม่ได้เข้า ยืนยัน 3 ครั้งแน่นอน ไม่เกิน
ยืนยันไม่ใช่คนของกองประกวด ทางโน้นบอกว่าคุณเป็นคนของกองประกวด ?
เคน : ไม่ใช่ครับ ถ้าผมทำงาน ผมต้องได้ค่าตอบแทน
ถ้าไม่ใช่ แล้วเขาจะตัดสิทธิ์เฌอเอมได้ยังไง กฎเขามีว่านางงามถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในกอง แต่คุณไม่ใช่ ?
เคน : ส่วนเกี่ยวข้องต้องถามก่อนว่าเกี่ยวข้องยังไง ถ้าแค่รู้จักมักคุ้นหรือเคยเจอกัน ผมว่าน้อง ๆ หลายคน ผมพาความซวยไปถึงน้องเลยนะ เพราะมีน้องหลายคนที่รู้จัก และเป็นผู้ร่วมประกวดครั้งนี้เหมือนกัน ถ้าการทำงานผมต้องได้ค่าจ้าง ได้ค่าตอบแทน ซึ่งการทำงานครั้งนี้ทำด้วยใจปรารถนาที่อยากทำ แพสชั่นที่อยากทำ เราไปทำงานด้วยเพราะคนที่เรานับถือเป็นพี่เรา ทำอยู่ตรงนั้น เรายื่นมือไปช่วยซึ่งกันและกันประหนึ่งกัลยาณมิตร
ได้คุยกับคุณปุ้ยไหม ?
เคน : ยังครับ ถามว่าติดต่อไปไหม กระแสถาโถม เราเป็นเด็ก เกิดเรื่องอะไรก็อยากให้ตรงนี้คลี่คลายก่อนแล้วค่อยเข้าไปพูดคุย พร้อมเข้าไปเสมอ
กลัวจะส่งผลถึงเวทีอื่นด้วยไหม ?
เฌอเอม : เอมไม่คิดจะไปเวทีอื่นอีกแล้วค่ะ
ไม่ประกวดอีกแล้ว ?
เฌอเอม : ค่ะ มันไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรารู้สึกว่าเราเต็มที่แล้วทุกอย่าง เราต้องกลับมาคิดว่าเราชอบจริงไหม เราเหมาะหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเราผูกใจเจ็บกับตรงนี้ เราไปดันทุรังทำกับสิ่งที่อาจไม่ได้เหมาะกับเรา
กรณีชุดว่ายน้ำ คุณดึงเอมไปสัมภาษณ์สื่อคนเดียว ?
เคน : ตรงนี้สามารถพูดได้ว่าถ้าวันนั้นสื่อมวลชนทั้งหมดที่อยู่หน้าแบ็กดรอป ผมเดินผ่านกองทัพนักข่าวไป น้องถูกสื่อรุมสัมภาษณ์อยู่ 10 กว่ากล้อง และไม่มีสตาฟฟ์ประกบซ้ายขวาเลย ด้วยสัญชาตญาณ น้องถูกรุมอยู่เราต้องวิ่งไปชาร์จน้องหรือเปล่า เพราะน้องถูกรุมสัมภาษณ์นานมากแล้ว
ไม่ได้ขายซีนนี้ให้เฌอเอม ?
เคน : ถ้าขายผมไปขายงานให้ผมได้เงินไม่ดีกว่าเหรอ น้องฉลาดขนาดนี้ จะไปให้เขามีซีนทำไม
ช่วงเข้าสู่รอบลึก ๆ คนชื่นชอบเรามาก พอวันนี้มีส่วนหนึ่งกลับหลังหันเลย ?
เฌอเอม : มีพบต้องมีจาก แล้วการพบกัน จริง ๆ เป็นการพบจริงหรือพบในอุดมคติ เพราะตอนกระแสตีกลับครั้งแรก เรารู้อยู่แล้วว่าอดีตเราเป็นยังไง เราไม่ได้ปฏิเสธเลย สิ่งแรกที่เอมทำ คือขอโทษวีนา ไลน์ไปส่วนตัว แล้วงงที่คนคิดว่าถ้าเอมดีก็ต้องดี 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าแย่ต้องแย่ 100 เปอร์เซ็นต์ กลับกันเขาลืมไปแล้วว่าเรามีความเป็นคนอยู่ ในพื้นที่กับคนสนิท เรามีสิทธิ์แสดงด้านแย่ ทุกคนคิดว่าด้านดี ต้องอยู่กับคนสนิทที่สุด แต่จริง ๆ ไม่ใช่นะคะ ด้านดีคือกาลเทศะ มารยาทในสังคม การที่เอมแสดงด้านไม่เพอร์เฟกต์ให้ใครเห็น แสดงว่าเอมไว้ใจคนนั้นมาก ๆ
เขาบอกว่า นักข่าวไปบอกคุณปุ้ยว่าคุณแนะนำให้เอาเฌอเอมไปสัมภาษณ์คนเดียว ?
เคน : เอานักข่าวคนนั้นมายืนยันเลยตรงนี้ดีกว่า แน่ใจ เอาเลย ไม่มี
เฌอเอม : หนูรู้สึกว่าตอนนั้นหนูยืนเป็นชั่วโมงเลยค่ะ เราเจ็บเท้าจนชา ไม่สมควรที่หนูจะไปแบบพี่ก่อนค่ะ ๆ เพราะพอเขาขอคิวเราก็เลือกไม่ได้ ให้เขาสัมภาษณ์แล้วไปเรื่อย ๆ เอมโดนเอาไปวางหน้าแบ็กดรอปแล้วยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใคร
คุณเป็นคนบาปหรือเปล่า ?
เคน : พรหมพิราม หรือพระราม 4 เขาบอกว่าผมเป็นคนบาปกรรมอะไรก็แล้วแต่ ผมว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากความคลุมเครือในหน้าที่การงาน และคลุมเครือในการรู้จักน้องว่าสถานะผมกับน้องคืออะไรมากกว่า มันเลยสร้างผลกระทบถึงน้องในวันนี้ สุดท้ายทุกอย่างก็หันมาหาเราพร้อม ๆ กัน หลังจากนี้ถ้าเราจะทำอะไร เราต้องเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวในโพสิชั่น ประกาศไปเลยว่าใช่หรือไม่ใช่ ทำหรือไม่ทำ
เรื่องวีนา จริงหรือเปล่าที่คุณพูดคุยในกลุ่มไลน์ คุณไปหัวเราะเยาะเย้ยเขา บูลลี่เขากลาย ๆ วันหนึ่งสนิทเขา แล้วบอกว่าเป็นฐานเสียงให้คุณ 1.5 หมื่นฟอลโลของคุณ ก็มาจากเขาต่าง ๆ นานา ?
เฌอเอม : ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเอมต้องเพิ่งเล่นอินสตาแกรม แต่เอมมีคนฟอลอยู่แล้วหลักหมื่น แต่ที่แคปไปคือ เอมไปวันนั้น เอมจำได้เพราะวีนากลับมาฟอลเอม เอมฟอลเขาก่อนแล้วเขาฟอลกลับ โดยเราไม่คิดว่าเขาจะฟอลกลับ ก็แคปว่าขอบคุณนะ เอมยอมรับ ไม่มีข้อแก้ตัว คือเราเคยอคติกับเขา เรามีช่วงที่คิดว่าต้องแข่งแบบนี้ มีช่วงที่เราเปิดมุมมองใหม่ คือตอนนี้คนคิดว่าเอมเป็นยังไงก็ต้องเป็นอย่างนั้น เอม 10 ปีที่แล้วก็ต้องเป็นอย่างนั้น มันเหมือนว่าการพัฒนาที่ผ่านมาของเราไม่มีความหมายเลย
คุณจะบอกว่ากองประกวดทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับเฌอเอม ?
เคน : แล้วแต่คนจะมอง ผมว่าความไม่ยุติธรรมอันนี้เกิดจากความคลุมเครือของผม ที่ไม่แสดงให้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าผมคือใคร ทำงานหรือไม่ทำอะไร มีหน้าที่หรือไม่มีหน้าที่อะไรมากกว่า สำหรับความคลุมเครือในครั้งนี้ เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนเข้าไปช่วยทางกองประกวด และการดูแลน้อง ความผิดพลาด ความคลาดเคลื่อนเข้าใจผิดในครั้งนี้จะจำไว้เป็นบทเรียน จะไม่ทำให้ใครเสียใจและเดือดร้อนแบบคราวนี้อีก
ฟ้องไหม ?
เคน : ผมจะฟ้องใครครับ ฟ้องกองประกวดไม่ได้ ไม่ได้มีอะไรกับเขา
อยากพูดอะไรกับแฟนคลับที่ผิดหวังกับเรื่องนี้ ?
เฌอเอม : ก่อนอื่นขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่สิ่งที่เอมอยากบอกคือคนเราไม่ได้มีด้านเดียว และ 1 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคยดี 100 เปอร์เซ็นต์ คุณต้องจำได้เสมอว่าเอมเป็นมนุษย์ ถ้าเอมทำอะไรผิดพลาด ผิดหวังได้ สิ่งไม่ดีของเรา เราต้องเรียนรู้ แต่สิ่งที่ดีของเราก็เก็บเอาไว้แค่นั้น
ประกาศตรงนี้ไม่ประกวดนางงามอีกแล้ว ไม่ว่าเวทีไหน ?
เฌอเอม : ปีนี้พอใจแล้วค่ะ จะไม่ได้เห็นอีกแล้วค่ะ