x close

นุ๊ก สุทธิดา รับแยกกันอยู่กับสามี ปวดใจลูก 3 ขวบไม่ได้เจอพ่อ - เข้มแข็งได้แม้ป่วยมะเร็ง

          นุ๊ก สุทธิดา รับแยกกันอยู่กับสามี ปวดใจลูก 3 ขวบไม่ได้เจอพ่อ - เข้มแข็งได้แม้ป่วยมะเร็ง ชี้ ชีวิตตอนนี้ลูกคือสิ่งสำคัญ ยอมรับว่าสามีไม่ได้สำคัญอันดับ 1
          วันที่ 5 ตุลาคม 2563 รายการ ถามสุดซอย Weekend ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 22.40 น. ทางเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม ศรราม เทพพิทักษ์ ได้เปิดใจสัมภาษณ์ นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา กับมรสุมชีวิตที่ซัดไม่หยุด
นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไง ?

          "เข้มแข็งคูณสามค่ะ เพราะเรามีกำลังรบอยู่ 3 คนด้วยกัน คนโต 16 แล้วค่ะ คนที่สองอายุ 14 คนที่สามอายุ 3 ขวบครึ่ง"

รู้ได้ไงว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ?

          "จริง ๆ ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นุ๊กเป็นคนสังเกตตัวเองตลอดเวลา ไม่ว่าจะสภาพจิตใจหรือร่างกาย ทีนี้นุ๊กจะมีระบบที่เรียกว่าเป็นนาฬิกาชีวิต เรื่องการขับถ่ายหรือเข้านอนค่อนข้างตรงเวลา ทีนี้ตื่นเช้ามาเริ่มรู้สึกว่าการขับถ่ายมันเลตไป ไม่คงที่เหมือนแต่ก่อน ทั้งที่ตั้งแต่ 40 ปีผ่านมาเราไม่เคยไม่คงที่ เราก็ไปตรวจหาสาเหตุ ตอนนั้นคิดว่าเกี่ยวกับลำไส้ ไปหายังไงก็หาไม่เจอ ก็คิดว่าอายุคงเยอะเกิน เริ่มแก่แล้วหรือเปล่า พอเราหาไม่เจอ เราก็ปล่อยไป 2-3 ปี เราก็เริ่มคลำเจอก้อนเนื้อ เจอตรงไทรอยด์ก่อนเลย เป็นก้อนออกมา เราก็เลยไปตรวจ คุณหมอไม่ได้บอกว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่ครั้งแรก แต่หน้าคุณหมอบอก ระหว่างเราส่องกล้องเราได้ข้อมูลมาว่าคุณหมอท่านนี้เก่งมาก สามารถประเมินได้ตั้งแต่ครั้งแรกเลยถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่อัลตราซาวด์เลย ซึ่งเราเห็นหน้าคุณหมอเริ่มเปลี่ยนสี ใจวูบเลยนะคะ รู้เลยว่าใช่แน่ ๆ ก็เลยถามคุณหมอเป็นคำถามสุดท้ายว่าใช่ ใช่ไหมคะ แต่เราทำเสียงร่าเริง ไม่ให้คุณหมอรู้สึกอะไร คุณหมอก็ตอบกลับมาว่าคุณหมอไม่สามารถตอบได้ ต้องทำการเจาะชิ้นเนื้อและไปตรวจ นั่นแหละคือคำตอบที่ทำให้เรารู้ว่าใช่แน่นอน"
นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

วินาทีแรกที่ได้ยิน รู้สึกยังไง ?

          "ทุกอย่างมันนิ่งหมดเลย มันเคว้งคว้างมาก เหมือนเราถูกปล่อยไว้กลางทะเล ลอย ๆ แล้วเคว้ง ๆ ทุกอย่างเงียบหมด เสียงแอร์ดังมาก รู้สึกตัวอีกทีคือคำถามมาเป็นร้อย น้องปาแปง ปีโป้ อดัม จะอยู่ยังไง เริ่มเห็นตัวเองสติแตก ระหว่างหมออัลตราซาวด์อยู่ เราก็บอกว่ามันไม่ใช่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้เราจะตอบตัวเองไม่ได้สักคำถาม นุ๊กก็บอกตัวเองว่าใจเย็น ๆ แล้วถามตัวเองทีละคำถาม อะไรที่กลัวที่สุดถามมา เราจะตอบตัวเอง แล้วเราก็ค่อย ๆ ตอบตัวเองทีละคำถาม ๆ จนสุดท้ายเรารู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิดนะถ้าเราเตรียมตัวให้ดี"

เรามารู้ได้ยังไงว่ามะเร็งกระจายถึง 17 จุด ?

          "ก็ระหว่างอัลตราซาวด์เลยค่ะ คุณหมอบอกว่ามีก้อนเนื้ออยู่แล้วค่ะ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นมะเร็งหรือเปล่า แต่มันได้กระจายไปตามจุดต่าง ๆ เขาก็มาร์กจุดค่ะว่าตรงไหนบ้างเพื่อทำการเจาะไปตรวจ ก็เริ่มมาร์กจุดก็รู้ว่ากระจายไปหลายจุด"

ถ้าถามตรง ๆ มันอยู่ระยะที่เท่าไหร่ ?

          "มะเร็งไทรอยด์จะไม่เหมือนมะเร็งอื่น ๆ มะเร็งอื่น ๆ จะวัดตามขนาดชิ้นเนื้อ ถ้าใหญ่คือเข้าสเตตที่ลึกขึ้นไป แต่มะเร็งไทรอยด์วัดตามอายุค่ะ ถ้าเราเป็นตอนอายุน้อย ๆ ต่อให้ชิ้นเนื้อใหญ่ก็จะเป็นแค่สเตต 1 ซึ่งน่ากลัวค่ะ ถ้าหมอบอกว่าสเตต 4 ปุ๊บ หมอตายเลยนะคะ ไม่ใช่เรา โดนตบค่ะ (หัวเราะ) ก็บอกว่าคุณหมอบอกดี ๆ นะคะ สเตตไหนคะคุณหมอ (หัวเราะ)"
นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

ของนุ๊กเลือกวิธีการรักษายังไง ?

          "จริง ๆ กระบวนการรักษามะเร็งไทรอยด์จะไม่เหมือนมะเร็งชนิดอื่น การรักษาคือเขาตัดมะเร็งออกไปก่อนเป็นอย่างแรก พอตัดไปทั้งหมดแล้วเท่าที่เขาจะหาตัดมาได้เขาจะให้เรากลืนแร่ เรียกว่าแร่ไอโอดีนที่กระจายไปทั่วร่างกาย ทีนี้การกลืนแร่คือการกลืนไอโอดีน ที่ผสมกัมมันตภาพรังสี ที่เขาผสมเข้าไป เวลากลืนแร่เข้าไป เซลล์ส่วนไหนที่ดูดเอาไอโอดีนจากร่างกายเราไป มันก็อาจมีเซลล์มะเร็งติดไป ตรงนี้แร่ไอโอดีนจะกระจายไปพร้อมกัมมันตภาพรังสีที่จะไปช่วยฆ่าเชื้อมะเร็งในส่วนต่าง ๆ แต่กัมมันตภาพรังสี ต้องบอกก่อนว่ามันค่อนข้างรุนแรง ฆ่าคนได้ทั้งโลก ฉะนั้นเขาจะมีปริมาณจำกัดว่าในชีวิตคนเรากลืนได้แค่ 6 ครั้ง"

6 ครั้งคุณหมอรับประกันไหมว่าระยะห่างถี่แค่ไหน แล้ว 6 ครั้งเราหายไหม ?

          "1 ครั้ง ต่อ 6 เดือน จะหายไหม คุณหมอบอกว่าโดยปกติสูงสุดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ครั้ง แต่ครั้งเดียวก็เกินจะพอ"
นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

ครั้งแรกรู้สึกยังไง ?

          "เขาไปฆ่าเซลล์มะเร็ง แต่ก็ไปทำลายเซลล์อื่น ๆ ด้วย ฉะนั้นเวลาที่ไม่สบายตัว ป่วย ระดับเซลล์เรารู้สึกว่าทุกเซลล์มันไม่ปกติ มันปวดตัวและเหมือนมีไฟอยู่ในตัว ทรมานมาก จะอาเจียนตลอดเวลา ข้อเสียอีกอย่างคือ นอกจากป่วยกาย เราจะป่วยใจไปด้วย เพราะเราต้องแยกจากทุกคนในโลกใบนี้ ไปอยู่ในห้องห้องเดียว แล้วถูกกักตัวอยู่ประมาณ 4 วัน เพราะตัวเรามีกัมมันตภาพรังสี ก็เหมือนเราสามารถกระจายกัมมันตภาพรังสีให้คนอื่น คนที่เขาไม่เป็นมะเร็ง พอโดนกัมมันตภาพรังสีก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นมะเร็ง เราก็ต้องแยกตัวออกมาอยู่ในห้องของโรงพยาบาล ทุกอย่างเราต้องดูแลตัวเอง หมอจะไม่เข้ามาหาเราเลย เหมือนเวลาเราป่วยจะมีคุณแม่มาดูแล ป้อนข้าว ลูกกินนะ แต่พอถึงวันนั้นมันไม่มีใครช่วยเรา เราต้องอยู่คนเดียวจริง ๆ เราก็เหมือนอยากจะอาเจียนมาก แต่เราอาเจียนไม่ได้ เพราะถ้าเราอาเจียน เราต้องเช็ดอาเจียนเราเองค่ะ"

นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

เรื่องสุขภาพกายว่าหนักแล้ว สุขภาพใจก็หนักไม่แพ้กัน ตอนเป็นมะเร็งแรก ๆ สามีไม่เชื่อว่าเราเป็น ?

          "ใช่ค่ะ ไม่เชื่อ เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับการอธิบายกับเขาว่าเราเป็นอะไร คือพอนุ๊กกลับจากโรงพยาบาล นุ๊กเจอเขาคนแรก นุ๊กก็บอกว่า เฮ้ย ยู ไอเป็นมะเร็งนะ แล้วก็เดินผ่านเขาไปเล่นกับลูก เราพยายามทำให้เหมือนเป็นปกติ โดยที่เราไม่ได้คิดถึงใจเขาว่าต้องอธิบายอะไรหรือเปล่า ใจเราตอนนั้นไปที่ลูก เพราะเรารู้ว่าหลังจากเราเป็นมะเร็ง เราควรทำอะไร หนึ่ง สอง สาม สี่ เพื่อลูก เพราะอย่างสามี นุ๊กก็ต้องขอโทษด้วยที่เขาอาจไม่ได้อยู่ในลิสต์ของนุ๊ก เพราะเขายังเด็กมาก ในใจนุ๊กก็ไม่มีอะไรต้องห่วงเขา อย่างน้อยเราตาย เขามีครอบครัวใหม่แน่นอน เพราะเขาเด็กจริง ๆ แต่ลูกเราหรือคุณพ่อคุณแม่เรา เรามีลิสต์หรือมีความห่วงว่าลูกเรายังเล็กมาก คุณพ่อคุณแม่เราก็อายุเยอะแล้ว"

ลิสต์ที่ว่าเห็นบอกว่าคือทำพินัยกรรม ?

          "ใช่ค่ะ ไม่ถึงพินัยกรรมขนาดนั้น แต่ได้แจงคุณแม่ไว้บ้าง ว่าเรามีทรัพย์สินอะไร หนี้สินอะไร หนี้สินต้องใช้เขาตามปกติ อย่าทำให้คนเป็นเจ้าหนี้เดือดร้อน เราก็บอกว่าเรามีหนี้สินอะไร และมีทรัพย์สินตรงไหน ที่นุ๊กกลัวจริง ๆ คือนุ๊กไม่อยากทิ้งภาระให้คุณพ่อคุณแม่ เพราะคุณพ่อคุณแม่อายุเยอะแล้วนะคะ แล้วต้องกลับมาเลี้ยงลูกของเราอีก อันนี้เป็นเรื่องที่เราต้องเคลียร์ดี ๆ เราก็บอกคุณแม่ว่าของทั้งหมดไม่มีอะไรที่นุ๊กรักเลยนะ สามารถผันเป็นเงินได้ อย่าให้พ่อแม่ลำบากกับการเลี้ยงเด็ก อะไรที่เป็นค่าใช้จ่าย เป็นการเรียนของเขา ก็ผันได้เลย ไม่มีอะไรที่เรารัก"
นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

สามีและนุ๊กได้แยกกัน และสามีขอกลับประเทศเขา ?

          "แยกกันโดยเหตุบังเอิญ เพราะตอนมีโควิด-19 พาสปอร์ตเขาหมดอายุ แล้ววีซ่าก็หมดอายุเช่นกัน พอหมดอายุปุ๊บ เขาต้องกลับประเทศ คือกฎหมายจะอัปเดตทุกเดือน เขาก็ให้กลับภายในเดือนที่ผ่านมา กลับเสร็จวีซ่าจะเดินกลับเข้ามาด้วยท่องเที่ยวไม่ได้แล้ว ก็จะต้องไปทำวีซ่าที่ติดตามลูก ส่วนวีซ่าตรงนี้เราก็ไม่รู้ว่ามันจะได้หรือเปล่า หรือจะนานแค่ไหน เหมือนกับว่ากลับไปแล้ว เราไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกเมื่อไหร่ ส่วนของเรา ก็อย่างที่บอก พอเป็นความรักที่โตแล้ว บางทีเราไม่ได้เจ็บปวดกับการไม่ได้อยู่ด้วยกันหรืออะไร เพราะสุดท้ายเรารู้ว่าเจอเพื่อจากอยู่แล้ว

          แต่ว่าลูกมากกว่าที่เราเจ็บปวดมาก ๆ จนนุ๊กรู้สึกว่าทำใจยาก นุ๊กต้องบอกลูก 3 ขวบว่าเขาตื่นมาไม่เจอพ่อเขายังไง เขาไม่เข้าใจ นุ๊กว่าทุกคนเป็นพ่อแม่น่าจะรู้ได้ เขาไม่เข้าใจ ต่อให้เราบอกขนาดไหน แต่เราก็รู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น เขาจะตื่นมาแล้วไม่เจอพ่อ เขาจะใช้ชีวิตปกติใน 2-3 วันแรก แต่ผ่านไปสัก 3-4 วัน เด็กจะเริ่ม เพราะเขาอยู่กับพ่อตลอด เรากลัวลูก Broken Heart จริง ๆ ต้องบอกว่าด้วยเทคโนโลยีตอนนี้เราสามารถวิดีโอคอลได้ แต่เราก็ยังรู้สึก Broken Heart ไปกับลูกเรา แล้วก็มีให้เห็นจริง ๆ สมมติรับโทรศัพท์พอบอกให้เซย์บ๊ายบาย เขาจะเซย์ฮัลโหล นุ๊กก็ถามว่าทำไมยูไม่เซย์บ๊ายบาย เขาบอกว่าเขาไม่อยากเซย์บ๊ายบาย สิ่งที่เขาพูดมันบาดเรามาก ตายแล้ว พอมันนานขึ้น ทุกเช้าเขาตื่นมาก็จะบอกว่าคอลหาแด๊ดดี้ คอลไปเสร็จ ก็ร้องเพลงให้พ่อ โห แม่จะตาย"

นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตที่เล่ามาทั้งหมด ทำให้เราเกิดการที่เราจะเป็นโรคซึมเศร้าไหม ?

          "พี่หนุ่มรู้ไหม การเป็นมะเร็งไม่ได้ร้ายแรงเท่าการเป็นซึมเศร้าเลยนะ มะเร็งกินแค่เนื้อเรา แต่โรคซึมเศร้ากินความสุขของเรา จริง ๆ โรคซึมเศร้ามันเริ่มจากความฟลุก คือนุ๊กไปทานยาโดยหมอสั่งนี่แหละแต่ผิด ไม่ควรทาน เราก็ไปปรึกษาหมอที่เกี่ยวกับโรคซึมเศร้า เขาบอกว่ายาตัวนี้มันส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้า ซึ่งตอนนี้ก็เป็นซึมเศร้า รักษาไปปีนึง"

วิธีการรับมือกับโรคซึมเศร้าเป็นยังไง ?

          "ตรงนี้นุ๊กยินดีมาก อยากให้เป็นวิทยาทานกับหลาย ๆ คน เรื่องโรคซึมเศร้าจริง ๆ ต้องแบ่งเป็น 2 กรณี อย่างแรกคือ ส่วนตัว ดูแลตัวเอง อย่างที่สองคือ คนรอบข้าง แพทย์ด้วย พอเราป่วยเรื่องนี้เราต้องบอกทุกคนรอบข้าง กับลูกอาจไม่รู้ว่าซึมเศร้าเป็นอะไรเพราะลูกเป็นเด็กวัยรุ่น เราแค่บอกลูกว่าแม่ป่วย แม่ไม่ปกตินะคะช่วงนี้ อย่าดื้อ เพราะอารมณ์จะสวิงมาก บอกสามีกับคนรอบข้าง เพื่อนทุกคน ว่ามีอาการนี้นะ ทุกคนต้องช่วยกันพยุง สุดท้ายคือหากิจกรรม บางคนบอกว่าให้ออกกำลังกาย แต่บางทีคนปกติยังออกกำลังกายยากเลย แต่พอเข้าสเตตของการเป็นซึมเศร้า ออกกำลังกายจะยากมาก เราต้องหากิจกรรมอะไรที่เราได้ขยับแข้งขยับขา และหาความสดชื่นให้ร่างกาย และทำให้เราไม่ต้องกลับไปรับประทานยาอีก"
นุ๊ก สุทธิดา

ภาพจาก รายการถามสุดซอย Weekend

วิธีการจัดการโลกโซเชียล บางทีมีคอมเมนต์ไม่ดี ตำหนิเข้ามาในพื้นที่ของเรา มีวิธีการจัดการยังไง ?

          "เราเป็นดารายุค 90 เราอาจไม่ถนัดกับโลกโซเชียลเท่าไหร่ (หัวเราะ) การที่นุ๊กมาเล่นอินสตาแกรมก็ยากแล้วนะคะ นุ๊กก็มีแต่รูปลูก หรือเฟซบุ๊ก นุ๊กไม่ค่อยได้เล่น แต่มีคนบังคับให้นุ๊กเล่น ยูต้องเล่น ต้องรู้จักมัน เราก็ปฏิญาณว่ามันคืองาน มันต้องทำ แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ ฉะนั้นเวลานุ๊กเสพโซเชียลเลยไม่สนใจสักเท่าไหร่ สอง นุ๊กรับมือโดยการที่คำชม คำด่า คำติเตียน นุ๊กไม่รับทั้งหมดเลย เวลาเป็นคำชมนุ๊กก็ขอบคุณมาก ๆ เลย เพราะนุ๊กว่าสิ่งที่นุ๊กทำอาจไม่ถูกต้อง แต่ถูกใจเขา พอเราไม่ได้รับคำชมเข้ามาในหัวใจเขามากขนาดนั้น คำด่าเลยไม่มีผลไปด้วย แต่ถ้าเรารับคำชมมาก ๆ เวลาเราโดนคำด่า มันก็จะมีผลกระทบกับเราแรง ๆ ทั้งคำด่า คำชม มันไม่ได้ทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเราสักเท่าไหร่ ถ้าหากมีอะไรเกินเลย เรื่องนี้เรารับไม่ได้จริง ๆ ส่วนมากนุ๊กแค่บอกไง"

ถ้ายุ่งกับลูกจะเป็นไหม ?

          "ไม่เป็น ถ้าเป็นเรื่องพื้นฐาน ส่วนตัวดารา นุ๊กจะไม่เป็น ถ้าเรื่องลูก นุ๊กมองว่าเขาอาจเป็นห่วง แต่บางทีเราอาจไม่ถูกใจไง เพราะเราก็คิดว่าเราเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดในแบบของเรา พ่อแม่แต่ละคนก็เลี้ยงลูกให้ดีในแบบตัวเอง เขาคงเป็นห่วงเราแหละเขาถึงแนะนำ เราคิดในเชิงบวก อะไรที่ไม่พอใจ อ่านไปก็อย่าไปคิดมาก ให้คิดว่าหลัก ๆ เขาเป็นห่วงแหละ เขาสนใจเราแหละ เขาถึงมาเสียเวลาคอมเมนต์ (หัวเราะ)"

ขอถามคำถามส่วนตัว ตอนนี้วีจิขวบกับห้าเดือน ลูกชายนุ๊กคนโต 16 แล้ว ?

          "พี่จะดองเหรอคะ (หัวเราะ)"

ไม่ใช่ดอง จะถามว่าวิธีการดูแลลูกแต่ละปีให้เขาผ่านไป ให้มีสิ่งดี ๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะการเลี้ยงดู อบรม การศึกษา หนักแค่ไหน ให้กำลังใจตัวเองยังไง ?

          "หนักมาก นุ๊กเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา 10 ปีนะคะ ก่อนแต่งงานใหม่ เราต้องเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ เราก็ต้องมีพาร์ตเข้มแข็งกับลูก แต่นุ๊กเลี้ยงลูกเหมือนเพื่อน นุ๊กไม่เคยเป็นแม่ของเด็ก 14 วันที่เขาเป็นเด็ก 14 วันที่เขาเป็นเด็ก 15 นุ๊กก็ไม่เคยเป็นแม่ของเด็ก 15 เหมือนกัน ฉะนั้นเราก็โตไปกับลูกพร้อม ๆ กัน นุ๊กก็ทำให้ลูกเห็นในเรื่องที่เพอร์เฟกต์ของนุ๊กด้วย เพื่อให้เห็นว่าแม่ก็เป็นมนุษย์ เวลาที่แม่เสียใจ แม่ก็ร้องไห้ค่ะ มีเรื่องที่เสียใจแล้วไปร้องไห้กับเขา และให้เขาปลอบเราบ้าง ให้เขารู้ว่าจริง ๆ มันธรรมดามากนะที่เราจะทำน้ำหก แล้วตั้งแก้วขึ้นมาใหม่ หรือแค่เช็ด แต่ว่าก็ธรรมดานะที่เราจะล้มและเราก็ลุกขึ้นมาใหม่แค่นั้นเอง แต่ถ้าทำให้เขาเห็นว่าแม่เก่งเหลือเกิน เพอร์เฟกต์ไปหมด เขาจะรู้สึกว่าเขาผิดไม่ได้ เขาพลาดไม่ได้ เวลาพลาดแล้วไปไม่เป็น เราทำให้เห็นว่าชีวิตเราปกติ เรามีพลาดได้ แค่ลุกขึ้นมาใหม่ และเรียนรู้ไปกับลูกจนกว่าจะโต แต่สุดท้ายแล้วแต่ละบ้านก็มีแนวทางไม่เหมือนกัน แต่คิดว่าทุกบ้านเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกแล้ว"

ขอบคุณข้อมูลจาก รายการ ถามสุดซอย Weekend

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นุ๊ก สุทธิดา รับแยกกันอยู่กับสามี ปวดใจลูก 3 ขวบไม่ได้เจอพ่อ - เข้มแข็งได้แม้ป่วยมะเร็ง อัปเดตล่าสุด 5 ตุลาคม 2563 เวลา 16:24:19 50,681 อ่าน
TOP