ตู่ นับเป็นหัวใจของคนที่บ้าน พอมีข่าวนี้ออกมาที่เราคบกันกับมาวิน มีแรงกระทบมาจากครอบครัวไหม ?
วิน มาวิน : เหมือนที่ผมพูดผมเหมือนมาปลดล็อกเขาจริง ๆ แต่ตอนนั้นตู่เขาก็บอกผมครับว่ามีใครมาจีบเขาบ้าง
ตู่ ปิยวดี : เพราะอย่างที่เราบอกว่าเราสลับอะไรแบบนี้ไม่เป็น แล้วพอมีเพื่อนเขาส่งข้อความมาถามว่าหลับแล้วหรือยัง เราอยู่กับเขาพอดี เราก็เอาให้เขาดูว่าเพื่อนเธอถามว่าฉันหลับหรือยัง
วิน มาวิน : ช่วงนั้นคือคู่แข่งเยอะมาก แต่ผมก็บอกเขาอยู่เสมอว่าสิทธิ์ในการเลือกอยู่ที่เขา ผมเลือกที่จะเข้ามาให้เขาเลือกเอง ถ้าเขาเลือกผมคือโชคดี ถ้าเขาเลือกคนอื่นผมก็ยินดีด้วย เพราะผมบอกว่าผมเป็นใคร เขาเป็นใคร จะให้ผมมานั่งหึงหวงเขาไม่ใช่ ผมต้องเจียมตัว
ตู่ ปิยวดี : แต่ก็มีช่วงลองคุยนะคะ 5 คน แต่เรารู้สึกเหนื่อยมาก ๆ เลย แล้วเราก็ไม่ได้ปิดด้วยนะคะว่าเราคุยกับหลายคน แต่เรารู้สึกว่ากว่าจะคุยวนมาจนครบทุกคนเรารู้สึกว่าชีวิตเราทำไมเหนื่อยแบบนี้ เราเลยตัดสินใจบอกอีก 4 คนว่าเราตัดสินใจว่าเราจะคุยกับคนนี้แล้ว แต่เราก็คบกันแบบเงียบ ๆ นะคะ เพราะ 8 ปีแรกที่บ้านไม่ถามถึงเขาเลยสักคำ ที่บ้านทำเหมือนเราโสด เหมือนเราไม่มีแฟน เหมือนเราไม่ได้มีเขา เขารู้แต่เขาไม่พูด
การไม่พูดเหมือนกับการไม่ยอมรับหรือเปล่า ?
วิน มาวิน : ใช่ครับ เขาไม่ยอมรับครับ ชัดเจนเลย
ตู่ ปิยวดี : ใช่ค่ะ เขาไม่ได้ห้าม แต่เขาไม่ถามถึง ไม่พูด ไม่ชวนไปกินข้าว ทริปครอบครัวไม่มี ถามว่าเราอึดอัดไหมที่เราต้องอยู่ตรงกลาง ต้องบอกว่ายังดีที่เขาเข้าใจด้วยว่ามันเป็นไปได้ เพราะตอนนั้นข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับเขามันแรงด้วย เขาก็เข้าใจว่าที่บ้านคงต้องใช้เวลา
วิน รู้ไหมว่าใน 8 ปี ที่ครอบครัวเขาไม่ถามถึงเราเลย แปลว่าเขาอาจจะมีอะไรในบางมุมแรกที่ไม่ยอมรับ ?
แต่ก็มีเหตุการณ์ที่เหมือนฟ้าเปิด เพราะที่บ้านอยู่ ๆ เอ่ยถึงชื่อมาวินขึ้นมา เกิดอะไรขึ้น ?
วิน มาวิน : สุดท้ายวันของผมก็มา ฟ้าก็เปิดสักที ไปงาน Outing กับบริษัทของตู่ พี่ลีนเขาเอาลูกไปด้วย ตอนนั้นเขาอายุ 6 ขวบ ก็ได้เล่นเกมกับเขา แต่เราโตกว่าเราเลยเล่นสกิลสูงกว่าเขาหลานเลยติด เบรธคือติดมาก ตอนนั้นเดินตามเป็นลูกเป็ดเลย พอหลังกลับจาก Outing หลานก็ถามถึงเราบ่อย พูดชื่อเราบ่อย อย่างไปเที่ยวหลานก็จะบอกว่าอยากให้อาวินมาด้วยจังจะได้มาเป็นเพื่อนเล่นกับเบรธ ก็เลยสนิทกันมากกับหลาน จนตอนนี้เขาเป็นหนุ่มแล้วก็ยังสนิทซี้กันเลย
ตู่ ปิยวดี : ที่บ้านก็จะได้ยินชื่อเขาตลอดเวลา พอได้ยินชื่อบ่อย ๆ ตรุษจีนปีหนึ่งค่ะ ลองชวนเขามากินข้าวกับที่บ้านไหม เราก็บอกเขาว่าพี่สาวฉันชวนเธอไปกินข้าวที่บ้าน
วิน มาวิน : ตอนนั้นเราบอกว่าจริงเหรอ กลัว ๆ เพราะว่ารวมญาติ ทุกโต๊ะคือ มาลีนนท์ ผมไม่รู้จะอยู่ตรงไหน ตอนนั้นไม่ได้เตรียมตัวเลยครับ แต่ใส่เสื้อสีแดงเข้าใส่อย่างเดียวเลย พอไปแล้วเราสวัสดีทุกคนเรียบร้อยก็นั่งที่โต๊ะไม่กล้าลุกอีกเลย ไม่กล้าคุยกับใครเลย กินของที่โต๊ะไม่เหลือเลย
ตู่ ปิยวดี : แต่วันนั้นกลายเป็นเรื่องที่บ้านพูดกันว่ามาวินมันกินได้ขนาดนี้เลยเหรอ แต่พอหลัง ๆ จากที่หลานถามถึงกลายเป็นแม่เริ่มถาม แม่เริ่มชวนเขามาสิ ปกติที่บ้านจะกินข้าวด้วยกันทุกวันอาทิตย์ค่ะ แม่ก็บอกว่าชวนเขามาสิ เกาหลีไม่มาเหรอ
การเตรียมการที่จะขอแต่งงาน เตรียมยังไงบ้าง ?
วิน มาวิน : ผมเป็นคนที่เซอร์ไพรส์อะไรไม่เป็นเลยครับ เพราะคบเขา ผมจะไม่โกหก ไอจีหรืออะไรต่าง ๆ ของผม เขามีพาสเวิร์ดหมด คือผมจะขยับตัวยากมาก กลางคืนจะมีเวลาอยู่บ้านก็มันมีเวลาไม่พอเตรียมตัว โชคดีครับไปถ่ายซีรีส์แล้วต้องไปหัวหิน 5 วัน 5 วันแห่งการเตรียมการ ลูกพี่เราเขาเป็นคนจัดการเตรียมการ แต่เพื่อนอีก 50 คนรออยู่ในห้อง VIP คือทุกคนที่อดทนรอไม่ออกไปไหนเลยอยู่ในห้องนั้น ผมนี่มือเย็น หน้าไม่นิ่งไปหมด แต่พอเขามาเราก็ต้องเก็บอาการ
พอกล่องมาวางปุ๊บ เปิดออกมาสิ่งแรกที่ผมมองก่อนเลยคือ แหวนอยู่ไหน มองไม่เห็นเลย เราก็นึกในใจเอาแล้ว แล้วตู่เขาก็ทักเราอีกว่าทำไมมือต้องสั่น เราก็เรียกเชฟมา นี่ปลาอะไร แต่เชฟป้อมก็ตอบจริงจังไปอีก แนะนำปลาไปอีก คือตอนนั้นที่เรากินปลาคือไม่รู้รสชาติอะไรล่ะ ห่วงแต่แหวน เราเลยเอามือลงไปจวกแหวนใส่สาหร่ายแล้วก็เลยหยิบมาให้เขาว่า นี่ ๆ เขามีของแถมมาให้ด้วย เป็นครั้งแรกที่เราทำเซอร์ไพรส์เขาสำเร็จ แล้วเราก็ส่งสัญญาณบอกให้เพื่อนออกมา
ตู่ ปิยวดี : เราร้องไห้จริงจังมาก เพราะเราไม่คิดเลยว่าเราจะมีวันนี้ แล้วไม่คิดว่าเขาจะทำเซอร์ไพรส์อะไรได้เลย เพราะว่าเขาทำให้ทุกวันเรามีความสุข มันก็เลยรู้สึกว่าอยู่แบบนี้มันก็โอเค ถ้าเลิกกับเขาไปอาจจะไปหาคนที่เขาพร้อม เราอาจจะไม่มีความสุขแบบนี้ก็ได้
วิน มาวิน : อย่าว่าแต่เขาไม่เห็นปลายทางเลยครับ ขนาดตัวผมยังมองไม่ออกเลย แต่ต้องขอบคุณเขาที่อยู่กับผมมาจนถึงในวันนี้
ได้ฤกษ์แต่งงานที่ชัดเจนแล้ว และพอเป็นนามสกุล มาลีนนท์ คนต้องคาดหวังว่าสินสอดจะต้องเป็นแบบพันล้านหรือเปล่า ?
ตู่ ปิยวดี : 20 ธันวาคมค่ะ หมั้น แล้วก็ฉลองแต่งงานคือปีหน้าเลย 28 กุมภาพันธ์
วิน มาวิน : มาแต่ตัวกับหัวใจเลยครับ ผมโชคดีที่สุดในชีวิตครับที่ได้เขามาเป็นแฟนและมาเป็นคู่ของผม สินสอดทำเท่าที่ทำได้ เพราะผมตัวคนเดียว ผมบอกที่บ้านเลยว่าให้พี่ชายกับพี่สาวไปเลย บ้านผมฐานะปานกลาง แล้วเราทำมาด้วยกัน 2 คน ผมอาจจะไม่ได้มีเท่าคนอื่นเขา แต่ในชีวิตของผม ผมให้เขาเต็มที่แน่นอน
ตู่ ปิยวดี : เราบอกเขานะว่าไม่ต้องซีเรียสนะเรื่องนี้ เพราะเป็นเหมือนสิ่งที่ทุกคนสนใจ เพราะว่าเราแต่งกับเขาไม่ได้เพราะเงินร้อยล้าน เราแต่งกับเขาเพราะรู้ว่าเขารักเรา