อัปเดตคดีคุณแม่ ?
นิต้า : ตอนนี้คุณแม่ก็คุยกับเจ้าหนี้และเริ่มไกล่เกลี่ยกันแล้วเรียบร้อย เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว
ก่อนหน้านี้ลูกหนี้ติดต่อผ่านเรา ?
นิต้า : ใช่ค่ะ หนูเป็นคนที่เขารู้สึกว่าหนูน่าจะเป็นคนที่ใจดีที่สุด ผ่านได้ง่ายที่สุด เลยติดต่อผ่านหนู
ตอนนี้เรามีความเครียดหรือกังวลอะไรไหม ?
นิต้า : ไม่อยู่แล้วค่ะ เพราะว่าด้วยความที่ทางบ้านเราเองก็ไม่ได้มีฐานะรวย การที่เคยเป็นหนี้ เราเคยเป็นอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกเครียด ตกใจไหมที่คนติดต่อมา ตอนแรกก็ตกใจค่ะ แต่หลัง ๆ เริ่มรู้ว่ามีปัญหาตรงนี้ ๆ ค่ะ
ได้คุยกับคุณแม่ไหม ?
นิต้า : ได้คุยเรียบร้อยแล้วค่ะ
ก่อนเป็นข่าวเราได้คุยกันในครอบครัวก่อนไหม ?
นิต้า : ไม่ได้คุยค่ะ เลยไม่ได้รู้เรื่อง มารู้เรื่องพร้อมพวกพี่ ๆ ตอนที่เป็นข่าว หนูก็เลยตกใจ
เรารู้มาก่อนไหมว่าแม่เขาทำธุรกิจแบบนี้ ?
นิต้า : หนูไม่รู้ค่ะ ปกติเวลาถามแม่ เราจะคุยกันเรื่องสบายดีไหม กินข้าวหรือยัง เราไม่ได้ก้าวก่ายในเรื่องของงานค่ะ
ตอนนี้เราซัพพอร์ตแม่ยังไงบ้าง ?
นิต้า : ตอนนี้ก็คุยกับคุณแม่และให้กำลังใจ เพราะด้วยปัญหาที่มันมีหลาย ๆ เรื่อง ก็ให้กำลังใจและคอยหาทางออกให้ท่านเท่าที่ช่วยได้
คุณแม่จะใช้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ?
นิต้า : ใช่ค่ะ แม่เขาบอกว่าเขาไม่ได้หนีอยู่แล้ว ขอเวลากับเจ้าหนี้นิดหนึ่ง เพราะเราต้องหาเงินมาใช้ค่ะ
กับแนท อนิพรณ์ ได้คุยกันไหม ?
นิต้า : คุยค่ะ กับแนทก็คุย เพราะเราจะเป็นตัวกลางผ่านไปบอกแม่ เพราะตอนแรก ๆ แม่กับน้องเขาไม่ได้คุยกัน น้องจะค่อนข้างเครียดกว่า แต่จริง ๆ เขาเป็นคนชิล ๆ นะคะ
ตอนนี้แนทคุยกับคุณแม่หรือยัง ?
นิต้า : ตอนนี้คุยกันแล้วค่ะ
ในส่วนของชั้นศาล มีส่วนเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยไหม ?
นิต้า : ไม่เกี่ยวกับชั้นศาลเลยค่ะ มีแค่แม่คุยกับเจ้าหนี้เท่านั้นค่ะ ไม่ได้เอาตัวน้องเข้าไปเกี่ยวข้องค่ะ
เราเองได้มีโอกาสเคลียร์กับเจ้าหนี้แทนแม่ไหม ?
นิต้า : ส่วนตัวนิต้าเองเจ้าหนี้เขาเคยโทร. มาหาหนูค่ะ ก็ด้วยความที่เราไม่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เราก็สามารถตอบได้เท่าที่เรารู้ค่ะ
เราตกใจไหมที่อยู่ดี ๆ คนก็โทร. มาทวงหนี้เรา ?
นิต้า : ตกใจค่ะ ตอนแรกคิดว่าเขาจะติดต่องาน (หัวเราะ) เพราะหนูขึ้นหัวไอจีเป็นเบอร์โทร. ตัวเองค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ คือหนูมั่นใจว่าทุกบ้านต้องมีปัญหาค่ะ แค่หาทางออกแค่นั้นเองค่ะ เรื่องการเป็นหนี้เป็นสินเป็นเรื่องปกติค่ะ เรายืมเขามาเราก็ต้องใช้ค่ะ ตอนนี้ก็กำลังหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ต้องขอเวลานิดหนึ่งนะคะ
ไม่ได้มีผลกระทบมาถึงตัวเรากับแนท ?
นิต้า : ไม่มีเลยค่ะ ด้วยความที่ปัญหาที่เกิดขึ้นคุณแม่เขาไม่ได้บอกให้เรารู้ก่อน เลยรู้สึกว่าเราแค่ตกใจ ณ จุดนั้น แล้วก็หาทางแก้ ไม่ได้เครียดอะไรมาก ไม่ได้ถึงขั้นยกเลิกงาน
ตอนนี้เราเป็นตัวกลางประสานทุกอย่าง ?
นิต้า : ใช่ค่ะ หนูเป็นคนที่อยู่ตรงกลาง ถ้าแม่บอกมา หนูก็บอกน้อง แต่หลัง ๆ เขาเริ่มคุยกันเองแล้ว
คุณแม่ขอโทษเราไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ?
นิต้า : ใช่ คุณแม่บอกว่าจริง ๆ ไม่อยากให้หนูกับน้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พอเห็นมีข่าว แม่ไปออกรายการกับพี่หนุ่ม กรรชัย แม่ก็พูดชัดเจนเลยค่ะว่าเราสองคนไม่ได้รู้เรื่องด้วย แต่เราสองคนเป็นลูกค่ะ เราก็ต้องรับรู้ และช่วยแก้ปัญหา คือเขารู้สึกผิดมาก เพราะว่าตอนแรกธุรกิจมันไปได้ดี ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องเจอโควิด แต่เราจะโทษโควิดไม่ได้ เราทำอะไรเราก็ต้องวางแผน มันเป็นเหตุสุดวิสัย ทำธุรกิจเกิดเรื่องขึ้นมาก็ไม่เป็นไร เราก็หาเงินใช้หนี้
คุยกับแม่ไหมว่าหลังจากนี้แม่จะเดินหน้าธุรกิจนี้ต่อไหม ?
นิต้า : อ๋อ หนูคุยกับแม่แล้วค่ะ ด้วยตอนนี้คุณแม่มีการไกล่เกลี่ยกับทางชั้นศาล และหนูถามว่าจะเอายังไงต่อ คุณแม่ก็บอกว่าเขาจะสู้ค่ะ เพราะว่าเงินหาได้ ยังไงเขาก็หาได้
ก่อนหน้านี้หลายคนจับตามองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแนทกับคุณแม่ที่มีปัญหางอน ๆ กัน ?
นิต้า : ตอนนี้เขาคุยกันแล้วค่ะ ไม่มีปัญหา ชิล ๆ แต่ก่อนหน้านี้มีปัญหากันจริง น้องไม่รับรู้ คือด้วยความที่เราไม่รับรู้อะไรเลย และน้องเขาก็มีปัญหาก่อนหน้านั้นแล้วค่ะ เขางอนกัน ด้วยความที่แม่กับน้องเขานิสัยคล้ายกัน ใจร้อนทั้งคู่ น้องเป็นคนพูดเร็ว แม่ก็พูดเร็วค่ะ แล้วเขาคุยกันฟังกันไม่รู้เรื่อง อารมณ์ร้อนทั้งคู่ ที่บ้านมีหนูคนเดียวค่ะที่ฟังทั้งสองฝ่าย
พอเหตุการณ์นี้เข้ามาทำให้เรารักกันมากขึ้นไหม ?
นิต้า : หนูรู้สึกว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตทำให้หนูเก่งขึ้น แกร่งขึ้น เพราะว่าหนูด้วยความเป็นเด็กที่อยู่ในโลกของดิสนีย์ พอเริ่มประกวดนางงาม รับรู้ปัญหา ก็รู้สึกว่าหนูเก่งขึ้น
เราเป็นคนกลางรู้สึกลำบากใจบ้างไหม ?
นิต้า : ไม่เลยค่ะ ด้วยความที่หนูเป็นผู้ชอบฟัง เวลาใครเล่าอะไรมาเราก็ฟังและสรุปใจความสำคัญให้เขา แล้วมาบอกอีกทีหนึ่งว่าแบบนี้ เรามีการเชื่อมโยงที่เก่งค่ะ เลยชิล ๆ
หนี้จะเคลียร์หมดภายในกี่ปี ?
นิต้า : หนูไม่แน่ใจว่าจะสามารถหมดในกี่ปีนะคะ แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มใช้บางส่วนแล้วนะคะเท่าที่เขาหาได้
จากร้อยเปอร์เซ็นต์ตอนนี้เหลืออีกเท่าไหร่ ?
นิต้า : 90 แหละค่ะหนูว่า น่าจะยังเยอะอยู่ เพราะเราไม่กล้าตอบว่าตอนนี้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าสมมุติว่าถ้าเจ้าหนี้เขามาได้ยินแล้วบอกว่ายังไม่ได้ใช้ฉันเลย
อย่างน้อยเคลียร์หนี้หมดแม่ก็เดินหน้าธุรกิจต่อ ?
นิต้า : ใช่ค่ะ คุณแม่หนูเป็นนักสู้อยู่แล้วค่ะ ครอบครัวหนูถูกเลี้ยงมาเป็นนักสู้ มีปัญหาก็แก้ เดินหน้าต่อไปค่ะ ไม่เครียด
ความเชื่อมั่น เราบอกแม่ยังไง ?
นิต้า : ความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาทำงานด้วยเหรอคะ เรื่องนี้หนูว่ามันเป็นความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่ เวลาเราทำธุรกิจ ถ้าเราคุยกันดี เวลามันล้ม เราก็สามารถปรับความเข้าใจได้ แต่ธุรกิจที่แม่ทำ ตอนที่เขาพูดเขาไม่คิดว่ามันจะพับลงมาแบบนี้ค่ะ
ทิศทางดีขึ้น ?
นิต้า : ใช่ค่ะ ทิศทางดีขึ้น แต่จ้างงานหนูกับน้องได้นะคะ (ยิ้ม)
ตอนนี้ที่บ้านเหมือนเดิม ?
นิต้า : เหมือนเดิมค่ะ ด้วยความที่มีคุณตา คุณยาย มีน้า ที่คอยคุยกันตลอดเวลา ทำให้บ้านเราสนิทกันมากขึ้น จากที่สนิทกันอยู่แล้วก็สนิทกันมากขึ้นค่ะ