บิว กัลยาณี : จบ ม.ปลาย เราไปเรียนที่แม่โจ้ เชียงใหม่ เพราะรู้ว่าที่นั่นมีวงดนตรีลูกทุ่ง เราร้องเพลงได้เลยประกวดได้ถ้วยพระราชทาน เราไปคุยกับอาจารย์ว่าช่วยทำเดโม่ให้หน่อย ผ่านไปเป็นปีก็ยังเงียบอยู่ แล้วทีนี้กระแสของพี่บ่าววีมาเลยอยากได้นักร้องสาวใต้โจ๊ะ ๆ บุญก็เลยหล่นทับ ปี 2 เขาเรียกตัวมาทำเพลง เราก็ดรอปเรียนไว้ เพลงประสบความสำเร็จมาก ปล่อยไปเดือนกว่ามีงานเข้ามาเลย
- ดังแล้วลืมตัว จนถูกเรียกไปเตือนว่าจะปลด ?
บิว กัลยาณี : ด้วยความที่เป็นนักศึกษาอยู่ แล้วอยู่ ๆ มามีงาน มีเงิน มีชื่อเสียง ใครขอถ่ายรูปเราก็ใส่อารมณ์ จนหลาย ๆ ครั้งเข้าเบื้องบนก็เลยเรียกขึ้นไปสั่งสอน ถ้าไม่มีแฟนคลับเราก็อยู่ไม่ได้นะ เราเลยปรับเปลี่ยนทั้งนิสัย ทั้งการใช้เงินเลย เมื่อก่อนใช้วันหนึ่ง 5-6 หมื่น เพราะเราคิดว่าพรุ่งนี้ก็มีงานอีก เราเก็บเงินเองหมด ปีแรกผ่านไปมีอุบัติเหตุชีวิตรุนแรงมาก
- เจอผู้ชาย ?
บิว กัลยาณี : ใช่ค่ะ เจอกันตอนไปงาน เจอเพื่อน ๆ เขาก็แนะนำ ตอนแรกก็เป็นสายเปย์ ภายนอกภูมิฐาน ตอนแรกยังไม่รักแต่เขาดูแลดี ไปรับ-ไปส่ง วันเกิดพ่อซื้อทองให้ หลังจากที่ตกลงเป็นแฟนตอนนั้นอายุ 23 เป็นแฟนไม่นานเราก็เริ่มมารู้ว่าทองที่ซื้อให้พ่อไปแปะไว้ก่อน ตอนหลังมาขอเสนอขอดูแลเงินทองให้ได้ไหม จะทำสเตตเมนต์ให้โน่นนี่ เขาดูแลให้เราทั้งหมด จ่ายเราแค่ครั้งละพันเดียวเอง
- ทำไมถึงไว้ใจให้เขาดูแลการเงิน ?
บิว กัลยาณี : เขาบอกอยู่ด้วยกันแล้วนะ จะอยู่ด้วยกันไปตลอด เขาจะปูฐานะให้เราเอง เพราะว่าวันหนึ่งถ้าไม่เป็นนักร้องแล้วเราจะไม่เหลืออะไรเลย ก็จะเป็นหมาตัวหนึ่งนะ เราก็กลัวได้เป็นหมา สรุปได้เป็นควายเลยค่ะ (หัวเราะ)
บิว กัลยาณี : เกือบ ๆ 50 ล้าน มีที่ ไปซื้อที่ก็ไปซื้อแถวบ้าน เขามาบอกว่าไปดูดวงมาแล้วเราไม่มีดวงครอบครองปฐพี งั้นเป็นชื่อฉันก็แล้วกัน เงินที่เข้าบัญชีเรา เขาจะถอนเข้าบัญชีเขาหมดเพื่อจะได้รู้ว่าเงินได้มาเท่าไหร่ ถ้าเอามาถม ๆ กันเดี๋ยวจะเช็กไม่รู้ ทั้งหมด 7 ปี
- แล้วตาสว่างเมื่อไหร่ ?
บิว กัลยาณี : ก่อนที่จะคิดได้มันมีเรื่องก่อนหน้านั้น คือปีกว่า ๆ เริ่มตะหงิด ๆ เพราะมีข้อความแปลก ๆ มีโทรศัพท์เข้ามาว่าปล่อยให้เขากลับบ้านไปหาลูกหาเมียบ้างนะ รู้หรือเปล่าว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว เขาบอกเราว่าเมียคบชู้ เลิกกันไป 2-3 ปีแล้ว ฝั่งโน้นก็แบบ 2 ปีได้ไง ลูกคนเล็กเขาเพิ่งขวบเดียวเอง เขาบอกว่าเลิกจริง ๆ แยกกันอยู่ แล้วย้ายลูกมาอยู่ใกล้ ๆ กัน บอกไปเจอลูกอย่างเดียว
- ทางภรรยามีมาวีนเราไหม ?
บิว กัลยาณี : ไม่มีค่ะ เพราะทางนี้เขาจัดการดี เอาเงินเราไปซื้อเงินสด ซื้อรถเงินสด เขาบอกว่าคนที่เลี้ยงลูกดีที่สุดคือแม่ของเขานะ จ้างเลี้ยงลูกเดือนละ 15,000 เงินเราทั้งหมด ทางภรรยาเขาก็รู้ว่าเป็นเงินเรา
- เอาเงินให้พ่อแม่ตัวเองก็ไม่ได้ ?
บิว กัลยาณี : ไม่ได้เลยค่ะ ไม่ให้เรียนหนังสือ ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้ เราไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมยอมถึงขนาดนั้น จนหลัง ๆ ถ้าเราอยู่บนเวทีแล้วจับมือแฟนคลับผู้ชายคือโดนบาทาพ่นไฟ มีทุกอย่าง ทำร้ายร่างกาย เราก็ทนมาตลอด เราเป็นผู้หญิง พออยู่กับใครปุ๊บเราก็อยากอยู่ยาว ๆ ไม่อยากมีใหม่ อดทนถึงที่สุด เดี๋ยวเขาดีเดี๋ยวเขาร้าย พอดีเราก็เคลิ้ม
บิว กัลยาณี : แล้วแต่บุคคลนะคะ ที่เล่าคือเจอมากับตัว วันนั้นกลับบ้าน ให้กลับ 40 นาที จำกัดเวลาเขาจะโทร. ตาม วันนั้นพาแม่ไปตลาดเอาหลานไปด้วย เขาโทร.มา ได้ยินเสียงหลานก็โกรธว่าเราโกหก ไหนบอกว่าไปกับแม่สองคน โน่นนี่ ๆ เขาก็บอกถ้าไม่ไหวก็เลิกกันไปเลย เรานี่แบบไชโยเลยเลิกก็เลิก แล้วก็บอกแม่ว่าเรารู้สึกกลัวเขามากผิดปกติ แม่เอาผ้าถุงครอบหัวให้หน่อยได้ไหม แล้วเอาน้ำผ้าถุงให้เรากิน คือมันอ้วกออกมาเป็นสีเขียวปนม่วง
- เลิกกันแล้วเขาปล่อยเรา ?
บิว กัลยาณี : ไม่ปล่อยค่ะ ตอนแรกก็ตามราวีเหมือนกัน เราเอาพ่อแม่ไปด้วยเลย เอาเสื้อผ้าแล้วขึ้นมากรุงเทพฯ เลย เขาก็ตามเรามาถึงกรุงเทพฯ มีทั้งขู่ ทั้งคุยดี ขอเคลียร์ บอกว่าถ้ามึงไม่กลับไปกูปล่อยคลิปนะ แต่ก็ไม่มีนะ
- ทรัพย์สินล่ะ ?
บิว กัลยาณี : ตอนแรกเลิกกันใหม่ ๆ เขาก็อยากกลับมา จะขายให้แล้วก็แบ่ง พอเวลาผ่านไปไม่ได้อะไรเลยสักบาท เราเลยโทร. ไป ไม่ให้ไม่เป็นไรน้า แต่ทุกครั้งที่นึกขึ้นได้จะจุดธูปแช่ง เพราะทุกบาททุกสตางค์ที่ได้คือน้ำพักน้ำแรงของฉัน ที่เอาไปแล้วไม่คืนคือ มีที่ มีบ้าน มีรถ ธุรกิจ แต่แม่บอกว่าไม่เป็นไร ถือว่าชาติที่แล้วเราไปเอาของเขามา
- ทุกวันนี้ชีวิตเขาเป็นยังไงพอทราบไหม ?
บิว กัลยาณี : ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น แต่มีคนบอกว่าขายที่ขายทางหมดแล้ว
- เขาตามตื๊อนานไหม ?
บิว กัลยาณี : ไม่นานค่ะ 3-4 เดือน เพราะว่าเราก็หนีด้วย
- ถ้าเขาดูอยู่จะบอกอะไร ?
บิว กัลยาณี : ยังไงก็ตามไม่อโหสิให้ ทุกครั้งที่นึกได้ก็จะแช่งในใจ ทรัพย์สินที่เอาไปขอให้ใช้ทุกข์ทรมานกับครอบครัว อะไรที่เคยทำกับเราขอให้ไปเกิดกับคนรักของเขาทั้งหมด แค้นจริง แต่เราไม่ฟ้อง เพราะว่าเวรกรรมมันตามทัน เราเชื่อว่ามีจริง
- ความเสียใจเยียวยาตัวเองนานไหม ?
บิว กัลยาณี : ไม่เสียใจเลยค่ะ เราไม่มีความสุขเลยตลอดเวลาที่อยู่กับเขา มีแต่ความกลัว ความทุกข์ทน
- จะเอาเงินไปให้พ่อแม่ต้องแอบ ?
บิว กัลยาณี : น่าเวทนามาก บอกว่าอย่าเอาไปให้เลยเนี่ยเดี๋ยวเขาเอาไปให้คนโน้นคนนี้ผลาญ อยากเรียนต่อก็อย่าไปเรียนเลย เราเอาเงินแอบใส่ตามรองเท้า เป็นเงินจากทิปที่เราได้หน้าเวที
- จากวันนั้นถึงวันนี้ ?
บิว กัลยาณี : เป็นบทเรียนราคาแพง เรื่องผู้ชายไม่เข็ดนะคะ (หัวเราะ) แล้วที่เสียไปวันนั้นหาคืนมาได้หลายเท่าแล้วค่ะ
- ไม่เข็ดกับความรัก ?
บิว กัลยาณี : ไม่ค่ะ พักไปเกือบ ๆ 2 ปี เจอคนใหม่ เป็นคนรู้จักของเพื่อน เราไปชอบเขาก่อน เขาดูเป็นผู้ใหญ่ ให้คำปรึกษาได้ เป็นแนวของเพื่อนคุยกันรู้เรื่อง แต่ไม่ยุ่งกับเงิน ตอนนี้ทำกำแพงสูงมาก ซื้อทุกอย่างเป็นชื่อเรา กระเป๋าตังค์แยกกันเลย เขาแก่กว่า 7 ปี เรื่องแต่งงานอาจจะอีกสักพักหนึ่งเดี๋ยวค่อยคุยกัน เพราะค่อนข้างมีโลกส่วนตัวทั้งคู่ เราไม่อยากให้เอาไปเสียกับอะไรแบบนั้น เก็บเงินมาทำประกันเพื่ออนาคตดีกว่า