เอ : สถานภาพมันเปลี่ยนไป มันเป็นเรื่องครอบครัว เรารักษาครอบครัวเอาไว้ แต่ละคู่มีปัญหาต่างกันและวิธีการแก้ปัญหาต่างกัน อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ 2 ปีกว่านิด ๆ
แตงกวา : ตอนที่เป็นข่าวกัน ก็ไม่เคยมีใครถามว่าเราต้องแยกออกจากกันหรือเปล่า
มีคนบอกสร้างกระแสว่าอยู่ด้วยกัน แต่จริง ๆ ไม่ ?
แตงกวา : แสดงว่าเขามองแคบไป อย่าเอาความคิดตัวเองมาตัดสินคนอื่น เพราะทุกคนไม่เหมือนกัน แต่หนูคิดดี ให้มันเป็นเรื่องดี ๆ ที่ไม่ทำให้เราแย่
เอ : เขามองจากมุมมองของเขา ทุกคนคิดต่างได้ เพราะทุกคนไม่ได้รู้ไม่ได้เห็น แต่คนที่เห็นครอบครัวของเรามากที่สุดคือลูกชาย รู้ทุกเรื่อง รู้ทุกอย่าง สัมผัสได้ถึงสิ่งที่เราทำให้เขาก็คือเขา สิ่งที่เกิดขึ้นมันอยู่ในชีวิตลูก ความรู้สึกของลูก
อยากฝากอะไรถึงคนอื่น เพราะถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ เลิกกันแล้วยังอยู่ด้วยกัน ?
เอ : เราไม่ค่อยได้สื่อสารออกไป รู้สึกว่าเราแตกต่างกับสิ่งที่เราทำ แต่ว่าเราไม่ได้ปกปิด ทุกคนก็จะตั้งคำถาม เพราะเราเป็นครอบครัว ไปไหนด้วยกัน กินข้าว ทำกิจกรรม มันก็เกิดคำถาม เราเป็นบุคคลสาธารณะก็มีหน้าที่ตอบในสิ่งที่เราเป็น
ยังกลับมารักกันเหมือนเดิมได้ไหม ?
เอ : มันเป็นเรื่องอ่อนไหว เรื่องของรสนิยมบางอย่างด้วย เรื่องฮอร์โมน เรื่องเคมีด้วย เรื่องเหล่านี้เปลี่ยนไปได้ตลอดในชีวิตคน มันเป็นวิทยาศาสตร์ เราให้เกียรติกัน เรามีข้อตกลง พอเราเปลี่ยนสถานภาพ คืนอิสระในการตัดสินเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตให้แก่กัน แต่เราก็คุยกันทุกเรื่อง
แตงกวา : ถ้าทอมจริง ๆ เขาไม่คบผู้ชาย
เอ : แตงกวาอยู่ในประเภทมีความหลากหลายทางความชอบส่วนตัว
วันที่เริ่มคบกันยังไม่รู้ตัวว่าชอบแบบนี้ ?
แตงกวา : รู้อยู่แล้วค่ะ พี่เอก็รู้อยู่แล้ว ก่อนรู้จักพี่เอตั้งแต่ประถมเลย แตงเคยแอบชอบเพื่อนผู้หญิง เพราะเขานิสัยดี เฟรนด์ลี่ แต่ตอนนั้นคงยังไม่รู้ตัวเพราะยังประถมอยู่ จะมารู้ตัวตอนไปเรียนผู้ช่วยมั้งคะ
เคยคบคนเพศเดียวกันมาก่อน ?
แตงกวา : เคยคบค่ะ แต่ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้น คบแบบช่วยเหลือกัน จุนเจือกัน แบบรักนะแต่ไม่มีหึงหวง
เอ : เขาก็เล่าให้ผมฟัง เรารู้ทุกเรื่องของกันและกัน คนเรามีทั้งดีและไม่ดีในหลาย ๆ มุม พอเรายอมรับกันได้ เข้าใจกันก็อยู่ร่วมกันได้
หลายกระแสบอกเปลี่ยนลุคเพราะอยากอยู่กับพี่เอ ?
แตงกวา : อย่าคิดแทนหนูสิคะ อยู่ด้วยกันอยู่แล้วพอเลิกกันก็อยู่ด้วยกัน มันไม่ได้แยกกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่ได้ปิด
เอ : ทุกอย่างที่คนสงสัยเข้าใจผิด มันเป็นเรื่องของการเดินทาง รู้จักตัวเอง รู้จักเป้าหมายสิ่งที่อยากทำ ความชอบอะไร ถนัดอะไร จนมาวันนี้เขาเจอแล้วว่าเป็นความสามารถทางการถ่ายภาพ ทุกอย่างชีวิตมันมีจุดเปลี่ยน ผมคิดว่าการยอมรับในธรรมชาติของเขามันทำให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น เพราะเขาคือครอบครัว
ถ้าต่างฝ่ายต่างไปชอบใคร ?
แตงกวา : เรื่องของพี่เขาค่ะ (หัวเราะ) เรื่องส่วนตัวเราจะไม่ค่อยยุ่งกัน แต่ปรึกษากันได้
ก่อนหน้านั้นมีข่าวพี่เอมีคนคุยแล้ว ?
เอ : ผมคุยกับคนเยอะไปหมดเลย เพราะว่าเราทำงานในวงการนี้ พอโฟกัสเรื่องเวลาเราไม่สามารถเอาเวลาไปแชร์กับเขาได้ ทุกวันนี้อยู่ที่ไหนก็อยากกลับบ้านมาเจอลูก เพราะพัฒนาการของลูกเปลี่ยนไปแทบจะทุกวินาที อันนี้คือแหล่งพลังงานของผู้ชายที่ดีที่สุด เราจะเอาเวลาไปเสียข้างนอกทำไมกลับมาบ้านดีกว่า ผมไม่มีที่ไป บ้านก็เป็นบ้านที่ร่วมกันสร้างให้เขา เราเลยมีเป้าหมายเดียวกันว่าอย่างแรกที่อยากจะทำมากที่สุดไม่ใช่เรื่องเงินทอง แต่เป็นเรื่องครอบครัว
แตงกวา : ใครมาดีก็คุย ใครเข้ามานิสัยดี ช่วยเหลือเราดี ไม่เอาเปรียบ อันนี้ไม่พูดถึงเพศนะคะ ทุกคนจะเข้ามาเป็นผู้ใหญ่ ทีแรกก็มาเป็นงานเป็นการก่อน แต่ก็ยังไม่มีใครคบค่ะ สเปกคือชอบคนที่ดูโต มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้ยังไม่ได้โฟกัสตรงนี้ คิดแค่เรื่องธุรกิจกับงาน
เอ : โฟกัสเรื่องลูกกับเรื่องงาน อยากให้เขามีบ้านที่แข็งแรง ซัพพอร์ตสิ่งที่เขาอยากจะทำจริง ๆ เพราะว่าตอนเด็ก ๆ เราอยากทำหลายอย่าง แต่เกรงใจพ่อแม่
ใครจะเข้ามาต้องผ่านด่านซึ่งกันและกัน ?
เอ : ใช่ครับ เพราะเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราและของลูก มันเป็นไปไม่ได้ที่ถ้ารู้จักเราจะไม่เจอลูก ไม่เจอแตงกวา มันเป็นเรื่องของอนาคต หลายคนที่เข้ามาไม่ผ่านก็เป็นเพื่อนกัน
เข้ามาในชีวิตคืออยู่ในบ้านหลังเดียวกันหมด ?
เอ : ไม่ใช่ครับ บ้านหลังนี้เป็นสิ่งแวดล้อมของลูกชาย เพราะฉะนั้นสิ่งแวดล้อมของลูกชายมันคือครอบครัวที่มีเรา
แตงกวา : ให้มาเห็นว่าความสัมพันธ์เรามันชัดเจนนะว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน ให้เขามารู้แล้วให้เขาสบายใจ
ในอนาคตถ้าไม่มีใครเลยแล้วมีคนเชียร์ให้อยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยา ?
เอ : มันก็แล้วแต่เคมี วันหนึ่งผมอาจจะเปลี่ยนก็ได้นะคะใครจะไปรู้ ปัจจุบันเราแฮปปี้มากเลย เราคุยกันเข้าใจไม่เคยทะเลาะกันเลย และเราก็มีเป้าหมายเดียวกันคือลูก ก็อยู่กับปัจจุบันดีกว่า
แตงกวา : รักอยู่แล้วค่ะ
เอ : ต้นกำเนิดมันมาจากความรัก ความรักไม่ได้มาจากความฉาบฉวย มันคือความเข้าใจ ความเมตตา อีกเลเวลหนึ่งแล้ว
เวลามีใครมาคุยกับอีกฝ่ายมีอารมณ์หึงบ้างไหม ?
แตงกวา : เฉยอะค่ะ
เอ : มันเป็นความห่วงใยมากกว่า
หมดรักในเชิงครอบครัว เป็นรักแบบเพื่อน ?
แตงกวา : มันมากกว่าเพื่อนธรรมดา คือตายแทนกันได้ประมาณนั้น
เอ : คำว่ารักมันไม่ได้ฉาบฉวยขนาดนั้น มีอะไรหลายอย่างที่เราไม่สามารถสื่อสารออกมาได้
น้องเลโก้รู้ไหมว่าเราทั้งคู่เป็นแค่พ่อแม่ ?
แตงกวา : หนูเคยบอกค่ะว่าแม่กับปาป๊าเป็นเพื่อนกันแล้วนะ แต่เป็นเพื่อนที่รักกันมาก เขาโอเคมากค่ะ ถามน้องเลยก็ได้ค่ะ เพราะว่าเราก็ตอบแทนไม่ได้
ถ้าคุณแม่หรือคุณพ่อมีเพื่อน เลโก้โอเคไหมครับ ?
เลโก้ : โอเค
เลโก้รู้ไหมครับว่าพ่อกับแม่ไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ?
เลโก้ : รู้ครับ
เลโก้หวงใครมากกว่ากันพ่อหรือแม่ ?
เลโก้ : หวงแม่
อธิบายให้ลูกเข้าใจยังไงระหว่างความเป็นเพื่อนกับความเป็นแฟน ?
เอ : ผมพยายามสอนให้เขารักแม่ เพราะมีไอดอลคือน้องนาย ลูกแม่หมู เขากตัญญูต่อแม่ เขาเป็นสุภาพบุรุษ อยากให้เขาเป็นแบบนั้น
จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน ?
แตงกวา : หนูคิดแค่ว่ารอเลโก้ให้บรรลุนิติภาวะ มีความคิดที่สตรองก่อน เดี๋ยวเขาจะคุยกับเราเอง
เอ : เดี๋ยวนี้เด็กเป็นวัยรุ่นก็ใช้เหตุผลคุยกับเราได้แล้ว เพราะว่าเขารู้ทุกมุมในชีวิตของเรามาตลอดอยู่แล้ว
คิดว่าลูกเข้าใจแบบที่เราอยากให้เข้าใจไหม ?
เอ : แน่นอนครับ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้เด็กรุ่นใหม่มีคือธรรมะ เราอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของโลก อยู่กับการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ ผมพยายามปลูกผักให้ลูกเรียนรู้ธรรมะพร้อมศิลปะ พ่อแม่ยังเข้าใจกันเลย แล้วทำไมลูกจะไม่เข้าใจในเมื่อเขาอยู่ตรงกลาง
ถ้าวันหนึ่งน้องไม่เข้าใจจริง ๆ วางแผนสำรองไว้ยังไงบ้าง ?
เอ : ไม่ได้วางแผนครับ เพราะว่าวันนั้นมันยังมาไม่ถึง แต่เรามีความเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำให้เขาเข้าใจได้ และเขาจะมีความสุขกับความเข้าใจนั้นเหมือนที่เรามี
แตงกวา : หนูเป็นคนไม่คิดมากอยู่แล้วค่ะ ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต หนูคิดแค่วันนี้ทำให้ดีที่สุด
จะสอนให้ลูกรับมือกับสภาพแวดล้อมสังคมกับการเป็นลูกดาราแล้วมีข่าวแบบนี้ ?
เอ : วิธีเดียวของครอบครัวเราคือต้องเชื่อมั่นในตัวเขา เพราะผมก็รับได้ แตงกวาก็รับมาได้ ผมเชื่อมั่นว่าเขาสตรอง เพราะเขาเป็นลูกเรา
แตงกวา : ก็บอกตรง ๆ ไปเลยค่ะ ในวันที่เขารู้เรื่องแล้ว
อยากบอกอะไรซึ่งกันและกันเรื่องอนาคตข้างหน้า ?
เอ : ผมยังยืนยันกับเขาว่าผมเคยรับปากคุณพ่อเขาจะไม่ทิ้งเขาตลอดชีวิต ทุกวันนี้ก็ยังรักษาสัญญา
แตงกวา : ไม่ว่าจะยังไง พี่เอเขาดูแลหนูอย่างดี ดีมาก หนูจะเป็นเด็กดีให้เขา จะเชื่อฟังเขาให้มากขึ้น
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.30 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama