ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวความรักที่ผ่านมา สำหรับ นิโคล เทริโอ ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Club Friday Show ซึ่งมีช่วงที่เล่าย้อนกลับไปถึงอดีตสามี แมว จิรศักดิ์ ทำเอาเจ้าตัวถึงกับน้ำตาไหล มองไปที่ น้องทิกเกอร์ ลูกชาย และยืนยันว่าทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่เคยคิดอยากกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรเลย พร้อมพูดถึง แหนว ภรรยาคนปัจจุบันของแมว อีกด้วย
เมื่อได้แต่งงานจริง ๆ ชีวิตแต่งงานเป็นไปอย่างที่คิดหรือเปล่า ?
นิโคล : เป็นค่ะ จนกี้ (น้ำตาคลอ) มีทิกเกอร์ การแต่งงานก็เป็นอย่างที่คิด เพราะทิกเกอร์เขาเป็นส่วนที่มาเติมเต็มหัวใจเรา นี่เป็นน้ำตาของความสุข เป็นอะไรที่ดีที่สุด คือหลาย ๆ คนมักถามเราว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะเปลี่ยนอะไรไหม เราไม่เคยมีความคิดนั้นแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าเราได้สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตมาก็คือลูก
ในวันที่ตัดสินใจว่าจะเดินออกมา เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คิดหนักไหม ?
นิโคล : คิดหนักค่ะ แต่เราก็พยายามเท่าที่ทำได้แล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกค่ะ เพราะว่าตอนนั้นเรามีสติ นึกถึงลูกเป็นหลัก ความรู้สึกของลูกสำคัญที่สุด ตัดความรู้สึกทั้งกี้และพ่อของเขาออกไปก่อนเลย ยิ่งตอนนี้ยิ่งรู้ว่าเราตัดสินใจถูกต้อง เพราะเราไม่ได้เป็นคู่ชีวิตของพี่แมว จริง ๆ แหนวกับพี่แมว คือเนื้อคู่กัน ซึ่งเรากับพี่แมว ตอนนี้เป็นเสมือนครอบครัวเดียวกัน ยังเป็นครอบครัวที่ดีต่อกัน
บางคนอาจจะรู้สึกแปลกที่กลับมาสามัคคีกันได้ เราใช้เวลานานไหมกว่าจะมาเป็นเพื่อนกัน ?
นิโคล : ไม่เลย ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกันเลย เป็นเพื่อนกันตลอดแม้แต่วันที่เซ็นใบหย่า คือถ้าเลือกได้ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้นกันอยู่แล้ว แต่ทุกคนมีชีวิตไม่เหมือนกัน อันนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ พี่แมวไปเจอเนื้อคู่ของเขาจริง ๆ กี้ไม่ใช่เนื้อคู่ของพี่แมว แต่ฟ้าลิขิตมาให้เราใช้ชีวิตร่วมกันระยะหนึ่ง แล้วก็ได้มีลูก คือ ทิกเกอร์ นี่คือฟ้าลิขิตมาและขอบคุณมาก ๆ
จำได้เลยวันที่ แจ๊สเปอร์ (ลูกแมวกับแหนว) เกิด กี้กับทิกเกอร์ตื่นเต้นมาก ขึ้นรถไปโรงพยาบาลกัน บางคนคิดว่ามันมีอะไรหรือเปล่า แต่เราไม่มีเลย แหนวเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก ดูแลพี่แมวดีมากและรักทิกเกอร์ เพราะฉะนั้นเป็นอะไรที่โชคดีที่เรามีครอบครัวใหญ่ขึ้นและรักกัน
นิโคล เผยอีกว่า วันที่ตัดสินใจเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว กลัวว่าเลี้ยงลูกยังไง เพราะเราเป็นศิลปิน ไม่รับงานหายไปเลย 5 ปี คนลืมกี้ไปแล้วและเราต้องมาเริ่มใหม่ ซึ่งลูกเป็นแรงบันดาลใจ เป็นพลังที่ขับเคลื่อนเรา ถ้าไม่มีลูกคงจะแย่ เพราะเราไม่ได้รักตัวเองเท่ากับรักลูก