หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีเพจดังออกมาเผยข่าวของคู่รักสุดแนวอย่าง นางเอกหนังป้ายแดง กับนักร้องเสียงสูง ที่คบหากันมากว่า 7 ปี ถึงขั้นลองกินอยู่ด้วยกันแต่กลับไปไม่รอดจนต้องเลิกรากันไป งานนี้หลายคนก็พุ่งเป้าไปที่คู่ของนักแสดง ยูทูบเบอร์สาว ฟ้า ษริกา กับนักร้องหนุ่ม เฟิด คาริญญ์ยวัฒ นักร้องนำวง Slot machine
ล่าสุด (21 ธันวาคม 2563) ฟ้า ษริกา ก็ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ผ่าน ไนน์เอ็นเตอร์เทน และยอมรับว่า ได้เลิกรากับ เฟิด แล้วจริง โดยเลิกกันมาเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว ซึ่งตอนนี้จิตใจโอเคแล้ว แต่เลิกกันแบบยังคุยกันได้ ยอมรับว่าแอบใจสั่นพอเรื่องนี้เป็นที่รับรู้ในสาธารณะแล้ว ส่วนสาเหตุการเลิกรานั้นเป็นเพราะเป้าหมายทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งชีวิตคู่ ไม่ได้ไปทางเดียวกัน คุยกันมาหลายรอบ พยายามปรับแต่ไม่เวิร์ก จึงมองว่าคงไปต่อไม่ได้แล้ว
ฟ้า เผยว่า จริง ๆ ก็คุยเรื่องนี้มาตลอด คุยมาเรื่อย ๆ แต่มาคุยกันจริงจังตอนที่กลับมาทำงานหลังจากคลาย โควิด 19 และมีเวลาโฟกัสเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น และหลังจากที่ได้ลองใช้ชีวิตด้วยกัน พอมาอยู่บ้านได้เห็นกัน 24 ชั่วโมง ได้เห็นชีวิตประจำวัน คือมันอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้เห็นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไลฟ์สไตล์มันไม่ไปด้วยกัน พอมาคิดดูแล้วเราแยกกันใช้ชีวิตดีกว่า ปัญหาหลักไม่ใช่แค่เรื่องเวลา แต่ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่อง
นักแสดงสาวยังเปิดใจด้วยเสียงสั่นเครือขณะเล่าถึงตอนที่ตัดสินใจเรื่องความสัมพันธ์และหาทางออกว่าจะเอายังไงว่า ตอนนั้นก็คุยกันนานมาก เราตัดสินใจกันสองคน ตอนที่คุยกันไม่มีน้ำตา เพราะความที่เราคบกันมานานและรู้จักกันมานานมาก ทำให้เราเข้าใจว่าต่างคนต่างคิดอะไร เลยไม่ค่อยมีคำถามเพราะเข้าใจมาก ๆ แต่ช่วงที่มีน้ำตาคือช่วงที่แยกกันแล้ว เหมือนมันเป็นความคิดถึงกันมากกว่า เพราะตอนคุยกันเป็นฟีลแบบต่างคนต่างไปลองใช้ชีวิต
ถามว่าผิดหวังไหมกับรักครั้งนี้ คือเราไม่ผิดหวัง แต่เราเสียใจมากกว่า เขาเป็นคนดีคนหนึ่งในชีวิตเรา มันผูกพันกันหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่เราสองคน ครอบครัวเขา เรื่องต่าง ๆ ในชีวิตของเราเกี่ยวโยงกันไปหมดแล้วตอนที่คบกัน ถามว่ามียื้อไหม คือเขาก็เคารพการตัดสินใจของเรา สำหรับตัวเองแล้วไม่เคยคิดว่าเราจะมาถึงจุดเลิกรา เพราะตอนตัดสินใจอยู่ด้วยกันคิดแล้วมันโอเคมาก แต่พอมันถึงจุดของมันไม่ได้จริง ๆ เราก็คิดนาน คุยกับเขาหลายรอบ ไม่คิดว่าจะถึงจุดนี้ ทุกคนเต็มที่ แต่พอถึงเวลามันก็ต้องไป
ฟ้า ยังยืนยันว่า เราสองคนไม่ได้มีปัญหาเรื่องมือที่สามแน่นอน คือถ้ามีมือที่สามคงตัดใจง่ายกว่านี้ ยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่ลืม ยังไม่หายไปไหนจากชีวิต มันก็ยังมีคิดถึงบ้าง แต่มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วสำหรับทั้งคู่ เราก็มีเพื่อนคนรอบข้างคอยซัพพอร์ต แต่พอมานั่งพูดแบบนี้ทำให้คิดถึงบ้าง แต่ตอนใช้ชีวิตปกติก็อยู่ได้
ก่อนลากัน เขาก็บอกเราว่า เขาให้เราไปลองดูนะ เขาเข้าใจเรามาก ๆ ก็ไม่อยากให้เรารู้สึกผิด รู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ให้กำลังใจกันมากกว่า ไปลองดูลองสู้ ตอนครอบครัวรู้เรื่องก็ช็อก เพราะดูเราก็รักกันดี ความสัมพันธ์มันดี พอบอกเหตุผลเขาก็เข้าใจ เป็นกำลังใจให้มากกว่า ผู้ใหญ่เขามองว่าเป็นเรื่องของคน 2 คน เขาก็ไม่ได้ขัด ยอมรับว่าคิดถึง แต่ก็ยังทำอย่างอื่นได้ ยอมรับว่าเราเฮิร์ต แต่มันเป็นเรื่องของทัศนคติและเป้าหมายไม่ตรงกันมากกว่า
ส่วนตอนนี้เรายังโอเคต่อกัน เขาเป็นคนในชีวิตเรา รู้จักเรามาก ๆ ในหลายมิติ เรายังคุยกันได้ การไม่ได้ไปถึงการแต่งงานไม่ใช่จุดจบทุกอย่าง ความสัมพันธ์ก็สอนเราหลายอย่าง ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ได้เสียใจขนาดนั้น อาจเป็นช่วงนี้ พอมันผ่านไปก็แค่บทเรียนหนึ่งในชีวิต