จา พนม จากสตั๊นต์แมน สู่นักแสดงฮอลลีวูด - เผยลูกสาวทั้ง 2 คน มีแววเหมือนพ่อ

             จา พนม เปิดใจจากสตั๊นต์แมน สู่นักแสดงนำหนังฮอลลีวูด พร้อมเผยต้องห่างลูก น้องเรือนแก้ว น้องจอมขวัญ สุดคิดถึง แย้มเด็ก ๆ มีแววเหมือนพ่อ
 จา พนม

              กว่าจะขึ้นแท่นมาเป็นดารานักบู๊เบอร์หนึ่งของไทยนั้นไม่ง่ายเลย สำหรับ จา พนม ซึ่งล่าสุด (23 ธันวาคม 2563) เจ้าตัวได้มาเล่าจุดเริ่มต้นตั้งแต่เป็นสตั๊นต์แมนอยู่เบื้องหลัง จนก้าวมาอยู่เบื้องหน้าและมีชื่อเสียงในระดับโลก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร
 จา พนม

สมัยเป็นนักแสดงหนังบู๊ ?

               จา : 18 ปีแล้วเรื่ององค์บาก ก่อนหน้านั้นทำมาทุกอย่าง ทำงานในกองถ่าย ความฝันตอนเด็กอยากเป็นนักแสดงแอ็คชั่น ก็ทำตามความฝันโดยไปสมัครเป็นสตั๊นต์แมนมาก่อน เริ่มต้นตอนอายุ 14 แต่พอ 18-19 เราเริ่มเห็นทางของตัวเอง ไปแคสต์ภาพยนตร์ของต่างชาติที่มาถ่ายที่เมืองไทย มีโอกาสได้ไปเป็นสตั๊นต์แมนพระเอก ผู้กำกับอยากได้เตะสูง เราเป็นนักตะกร้อมาก่อนก็ทำได้ จากนั้นอีก 2-3 ปี เรารู้สึกว่าเป็นแค่เงา เพราะอยู่แต่เบื้องหลัง เราอยากเอาความสามารถของเราไปอยู่เบื้องหน้า เลยทำเดโม่ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดความสามารถของเราให้นักลงทุนเห็น เรามาฝึกฝนด้วยตัวเองบวกกับศิลปะการต่อสู้ของไทย มวยไทยมันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก จนได้มาเล่นองค์บาก คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเลยจากสตั๊นต์มาเป็นนักแสดงนำ

ชีวิตเปลี่ยนขนาดไหน ?

               จา : ก็มีคนรู้จักมากขึ้น เราก็ต้องเข้าสังคม ออกงาน มีงานเข้ามา ปรับตัวตามสภาวะ กว่าจะมาถึงจุดเปลี่ยนก็มีเรื่องท้อ เพราะว่าคนเราไม่ได้เพอร์เฟกต์ เรามีสมาธิในเป้าหมายขอเราคือการเดินไปข้างหน้า

ช่วงที่โด่งดังมาก ๆ หายหน้าไปพักหนึ่ง ?

               จา : เป็นช่วงวิบาก เราเก็บเกี่ยวพลังสมาธิที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า หลังจากจบต้มยำกุ้ง มันเป็นการเตรียมตัวที่จะไปฮอลลีวูด สิ่งที่เราตัดสินใจไปสร้างหาประสบการณ์ ครอบครัวเราก็ซัพพอร์ต ตอนนั้นเราพยายามคิดบวก รู้จักเรื่องสมาธิ ความต้องการและเป้าหมายของเราจริง ๆ คืออะไร

 จา พนม

ไปที่โน่นโชว์เตะต่อยค่ายหนังเยอะมาก ?

               จา : ใช่ครับ มันไม่ได้ง่ายเลย ต้องไปทำให้เอเจนต์ทุกค่ายเชื่อ ผมไปโชว์ความเป็นไทย ศิลปะมวยไทย ความแอ็คชั่นแบบไม่ใช้เทคนิคของเรา มันได้ใจเขา เขาชอบ ความกล้ากับความกลัวมันเป็นของคู่กัน ตัดความกลัวออกกล้าที่จะไป

ตอนที่พุ่งไปหาเป้าหมายต้องทิ้งอะไรไหม ?

               จา : ไม่ตัดอะไรเลย เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและคนรอบข้างเข้าใจเรา ภาษาไปตอนแรกก็งู ๆ ปลา ๆ ก็มีไปเรียนภาษา พอได้มาเล่นฮอลลีวูดเป็นนักแสดงนำ มันคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตที่ผมอยากทำ

อุบัติเหตุกลางกอง ?

               จา : ฉากแอ็คชั่นเตะต่อย ข้อเท้าพลิกแบบเสียงดังเลย ส่งไปโรงพยาบาลเลยปิดกอง คุณหมอตรวจเอกซเรย์ มันเป็นช่วงข้อต่อพลิกนิดหน่อยไม่หักไม่ฉีก แต่เขาใส่เฝือก

 จา พนม

ทำไมไม่บอกเมีย ?

               จา : เราไม่อยากให้เขาเป็นห่วง ไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วง ถ้าเราบอกเขาข่าวมันต้องไปเยอะ เราก็ใส่เฝือกไปถ่ายต่อ เมียก็ไม่รู้ กลัวเขาเป็นห่วง

ทำไมไม่เคยเปิดตัวภรรยา บุ้งกี๋ ในสื่อ ?

               จา : ในโซเชียลคนก็จะรู้ ภรรยาไม่อยากออกสื่อ เขาบอกอยู่แบบนี้สบายใจกว่า มีลูกสาว 2 คน เรือนแก้วกับจอมขวัญ เหมือนเราทั้ง 2 คนเลย เขาก็มีแวว เคยเอาไปดูที่ญี่ปุ่น จีน แต่ที่ฮอลลีวูดไม่เคย ถ้าหากเขาอยากเราก็สนับสนุน ดูที่เขาชอบหรือไม่ชอบไม่ได้บังคับ เวลาไปถ่ายงานต่างประเทศเราก็มีโซเชียล คิดถึงมาก

มองหนทางตัวเองยังไง ?

               จา : เราไปปักธง เราภูมิใจแล้ว ผมได้เห็นโลกภาพยนตร์เยอะมาก เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพราะฉะนั้นอะไรที่เราสามารถสร้างทีมในเมืองไทยได้มันจะเกิดขึ้นได้

               ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จา พนม จากสตั๊นต์แมน สู่นักแสดงฮอลลีวูด - เผยลูกสาวทั้ง 2 คน มีแววเหมือนพ่อ อัปเดตล่าสุด 24 ธันวาคม 2563 เวลา 11:14:36 12,756 อ่าน
TOP
x close