เริ่มปรับตัวกับสังคมใหม่ได้หรือยัง ?
แพท : ยังครับ กำลังพยายามอยู่ครับ ช่วงเวลาที่อยู่ข้างในมันนานมาก เทคโนโลยี สภาพสังคม ถนนหนทางมันเปลี่ยนไปหมด ภายในวันเดียวมันเร็วเกินไปตั้งตัวยังไม่ติด สิ่งที่แปลกใจที่สุดคือสมาร์ตโฟน แล้วก็พวกสื่อโซเชียล ทางครอบครัวเตรียมโทรศัพท์ไว้ให้ พยายามให้เราลองใช้ หลานชาย พี่เขย ก็ค่อย ๆ สอนเรา เริ่มเล่นไลน์ได้นิดหน่อย
ออกจากคุกวันแรกก้มกราบคุณแม่ ?
แพท : เป็นสิ่งที่เราตั้งใจอยากจะทำมานาน ลึก ๆ เรามีความรู้สึกผิดติดอยู่ในใจ เราอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวลำบากกับการกระทำของเรา ผมอยากจะขอโทษ แต่ก็ไม่มีโอกาสใกล้ชิดครอบครัวขนาดนั้น ตั้งใจไว้แล้วว่าพ้นโทษจะกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ พอถึงนาทีนั้นมันไม่ต้องคิดแล้ว คุณพ่อบอกว่าไม่ต้องร้องนะลูก ผมไม่เป็นคนร้องไห้ง่าย แต่อันนี้มันเป็นสิ่งที่เรารอคอย เราอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มันจุกพูดไม่ได้ คุณแม่ก็บอกว่ากลับไปอยู่ด้วยกันนะลูก คนอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะอวยพรเรา
ถึงบ้านแล้วเป็นยังไง ?
แพท : ออกจากเรือนจำครอบครัวพาไปวัด ถวายสังฆทาน รดน้ำมนต์ ไปเยี่ยมญาติ สักการะศาลหลักเมือง ก็ได้รับพรมาจากหลาย ๆ ท่าน รู้สึกอบอุ่นมากครับ อาหารมื้อแรกกับครอบครัวเป็นง่าย ๆ ข้าวแกง น้ำพริกปลาทูทอด น่องไก่น้ำแดง เวลาเดินทางเราจะมีปัญหาเรื่องการเมารถ ระยะสายตาในการมองเราเคยมองแต่ที่แคบ ๆ พอเห็นรถวิ่งมันเวียนหัว
ความตั้งใจที่อยากจะพูดกับพ่อแม่ แต่วันนั้นที่พูดไม่ออกคืออะไร ?
แพท : ผมอยากจะขอโทษทั้งพ่อและแม่ ผมอาจจะไม่ได้ปฏิบัติตัวเป็นลูกที่ดีที่ผ่านมา อาจจะทำให้ทุกคนลำบาก หลังจากวันนี้ไปจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผมจะชดเชยที่พลาดไปไม่ได้ทำไว้ จะกลับไปดูแลท่านในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไป
ย้อนไปสมัยพาวเวอร์แพท แล้วอยู่ดี ๆ เข้าคุก เกิดอะไรขึ้น ?
แพท : สมัยก่อนเป็นเด็กที่ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงพอสมควร เราเล่นดนตรี ชอบดนตรีร็อก มีไอดอลที่เป็นร็อกสตาร์ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแล้วเราชื่นชอบเขา เหมือนแยกแยะไม่ออก อยากใช้ชีวิตแบบเขา เรื่องความเกเร เรื่องยาเสพติด บวกกับความรู้สึกบางครั้งไม่มีใครเข้าใจเรา คุยกับใครไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะพูดคุยกับใคร เวลามีปัญหาใช้ยาเสพติดเป็นเพื่อน พอมีชุดความคิดแบบนั้นแล้วไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกมันยิ่งถลำไปเรื่อย ๆ จนชีวิตพังไป ตอนนั้นก็ทุกวัน ทุกเวลา ที่ลืมตาตื่นขึ้นมา มีทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ครอบครัวก็เป็นห่วง แต่เราไม่ฟัง เราค่อนข้างหัวดื้อแล้วมีความคิดที่ไม่ถูกต้อง
ขยับจากผู้เสพมาเป็นผู้ค้าได้ยังไง ?
แพท : พอเราเสพยาจิตใจไม่เข้มแข็ง มีความอ่อนไหวถูกชักจูงได้ง่าย โดยที่เรายังไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการขายทั้งสิ้น แต่ถูกชักจูงว่าเดี๋ยวเอาไปฝากนะแล้วก็ใช้ไปเลย เดี๋ยวผมมาเอา ซึ่งเราก็ติดยามีของเสพก็โอเค แล้วตำรวจก็ตามเข้ามาตอนที่เขามาเอา เดี๋ยวเขาจะมาเอา ตำรวจตามมาก็รวบ ตอนนั้นช็อกมาก วินาทีนั้นมันตกใจ มันเกิดขึ้นจริง ๆ หรือฝันไปหรือเปล่า
ตอนนั้นคิดอะไรอยู่บ้าง ?
แพท : คิดว่าพังแล้ว ทุกอย่างจบ จะยังไงต่อก็คิดไม่ออกแล้วมันตื้อไปหมด ตอนนั้นผมปฏิเสธคงลำบาก เพราะของกลางอยู่กับเรา พูดอะไรไม่ได้แก้ตัวไม่ขึ้น
อะไรที่เราเสียดายที่สุดตอนนั้น ?
แพท : ทุกอย่าง มันจบไปหมดเลย ตอนนั้นมีหน้าคนที่เราเตือนสติเรามา คำพูดที่เคยสอนมันตรงและมันจริง โทษในคดีของผมจะต้องตัดสินตลอดชีวิต 2 ครั้ง ให้การเป็นประโยชน์ต่อศาลในการรับสารภาพลดให้เหลือ 50 ปี ตอนนั้น 23 ย่าง 24 คุณพ่อคุณแม่น่าจะทราบตอนที่ออกข่าว เพราะว่าผมก็ไม่ได้อยู่กับครอบครัวแล้ว ออกมาอยู่เอง ไม่ได้ค่อยไปมาหาสู่กับครอบครัว พอรู้ข่าวเขาก็มา ถามเรื่องราว หาทนาย ผมเห็นแม่ร้องไห้ ผมก็รับสภาพนั้นไม่ได้ ทำไมเราเป็นลูกที่เลวขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าเรา ยิ่งเรารู้สึกผิดที่สุดเลย คุณแม่บอกทุกเรื่องสามารถช่วยได้ทำไมไม่มาปรึกษา
ก้าวแรกที่ไปในเรือนจำเป็นยังไง ?
แพท : มันค่อนข้างแตกต่างจากหนังโดยสิ้นเชิง วันแรกที่ผมเข้าไปอยู่เข้าไปตอนเย็นแล้ว มันเงียบมากไม่มีคนเลย ซึ่งผมไม่รู้ว่าเวลาที่ผมไปคือเขาเก็บผู้ต้องขังเข้าห้องขังหมดแล้ว ชั้นบนจะมีตะแกรงที่มองลอดมาได้ ผู้คุมพาผมเข้ามาใส่ตรวนก็มีคนมองลงมาเห็นผม ก็มีคนเฮรับ ผมตกใจว่ามันคืออะไร บนตึกคืออะไรทำไมมีเสียงออกมา แล้วก็ค่อย ๆ เรียนรู้ว่ามันคือตึกนอน เพื่อนผู้คุมทราบว่าผมเป็นนักร้อง เขาอาจจะคิดว่ามีนักร้องเข้ามาจะช่วยสร้างเอนเตอร์เทน แต่เราไม่พร้อมเลย
ปรับตัวนานไหม ?
แพท : วันแรกเราต้องไปทำประวัติ ตรวจสุขภาพ ตัดผม แล้วพอเสร็จผู้คุมบอกเดี๋ยวกลับไปร้องเพลงให้เพื่อนฟังหน่อยนะ เพื่อนรอเป็นร้อยแล้ว เราจะทำยังไง ไปถึงเห็นคนรอเราเป็นชั่วโมง เราก็ร้อง อันนั้นเป็นแดนบำบัด ใช้ดนตรีบำบัดผู้ต้องขังที่ติดยาเสพติด เราร้องเพลงก็สบายใจขึ้น ความเกร็งมันหาย ว่ามันไม่ได้น่ากลัว ทุกคนก็เป็นคนธรรมดา มีปรับทุกข์กันด้วยเป็นปกติ
มีคนมาจีบไหม ?
แพท : มีครับ เขาเขียนใส่กระดาษมา ฝากคนมาให้เรา ผมก็ฝากไปบอกว่าผมไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้ ก็ปฏิเสธเขาไปดี ๆ ก็เป็นเพื่อนกันได้ หลังจากนั้นเขาก็เงียบ ๆ ไป ทีนี้เขาก็จะรู้กันแล้วก็ไม่มีแล้ว
หลังต่อสู้ศาลตัดสิน 50 ปี รู้สึกยังไง ?
แพท : ก็ตกใจว่าเราจะอยู่ยังไง เราก็น้อมรับคำตัดสิน เราก็คิดว่าทำยังไงว่าจะอยู่ในเรือนจำให้ได้ มันต้องอยู่ เราต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ ไหน ๆ ก็ต้องอยู่แล้วเราต้องทำให้มันดีกว่าเดิม ให้คนภายนอกที่เขาเห็นภาพเราแบบนั้นให้รู้สึกกับเราใหม่ พัฒนาตัวเองทุก ๆ ด้านที่เราสนใจ ความรู้ เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ครอบครัวภูมิใจ เริ่มมองในเรือนจำอะไรที่เราสามารถพัฒนาตัวเองได้ เรื่องฆ่าตัวตายไม่เคยมีในหัวเลย เราต้องสู้เพราะเรามีครอบครัวที่คอยให้กำลังใจเราตลอด ผมก็ต้องยืนหยัดให้ได้ ไม่ให้ครอบครัวผมผิดหวัง คุณพ่อคุณแม่ก็ยังให้กำลังใจเราว่าอยู่ไปลูกเดี๋ยวเขาก็ลดโทษ ให้ประพฤติตัวให้ดี ให้อยู่ในระเบียบ อยู่ไม่ถึงหรอก
เริ่มต้นทำอะไรในนั้น ?
แพท : อันดับแรกเลยอยากจะเรียนให้จบปริญญา พอทราบด้านในมีศึกษาทางไกลในชั้นปริญญาก็สมัครเรียนเลย หนังสือจะส่งตามมา ครูที่จะเข้ามาสอนก็ดูตามที่ผู้ต้องขังลงเรียนตรงกันเยอะ ตอนนั้นจบสารสนเทศศาสตร์ เป็นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เรียนเหมือนเปิดโลกทัศน์ในด้านที่เราไม่ถนัดนัก แล้วก็เรียนต่อจิตรกรรม มีครูจากภายนอกที่เป็นจิตอาสามาสอนผู้ต้องขัง ก่อนเข้าไปเรียนลองหัดวาดเองแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เคยวาดเลย การเขียนภาพทุกภาพมันจะมีความรู้สึกนั้นอยู่ในภาพทุกภาพ เวลานั้นบรรยากาศแบบไหน ช่วงเวลานั้นรู้สึกแบบไหน
มีภาพในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วย ?
แพท : อันนี้เป็นภาพสีน้ำ สีน้ำเป็นสีที่ขึ้นชื่อว่าวาดยากมาก โดยธรรมชาติของน้ำมันไม่อยู่กับที่ควบคุมยาก แต่เราจะทำยังไงให้คนวาดไปในทางเดียวกัน
ออกมาแล้วจะเปิดร้านวาดเลยไหม ?
แพท : ก็อยากนะครับ
จะกลับมาร้องเพลงจริงจังไหม ?
แพท : งานเพลงมันเป็นชีวิตของผมอยู่แล้ว ผมเติบโตมากับเสียงเพลง เป็นคนที่รักดนตรี
มีคิดบ้างไหมว่าถ้ากลับมาสังคมอาจไม่ให้อภัยเรา ?
แพท : ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น เพราะผมเชื่อว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเมตตาและให้อภัย ผมก็ตั้งใจจริงที่กลับตัวเป็นคนดีและใช้ชีวิตต่อไปนี้เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเราจะสร้างแต่ความดี สร้างประโยชน์ให้สังคม ผมเชื่อว่าถ้าทุก ๆ คนได้เห็น ความคิดเหล่านั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.40-14.40 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama