x close

โตเป็นสาวแล้ว ! น้องณัชชา ลูกสาวพี่บ๊อบ เปิดใจ เหตุใดถึงเลิกทำรายการ น้องณัชชาฯ

            น้องณัชชา ลูกพ่อบ๊อบ บดินทร์ ปัจจุบันโตเป็นสาวแล้ว ยกครอบครัวมาเปิดใจ เผยสาเหตุเลิกทำรายการ น้องณัชชา ลูกสาวพี่บ๊อบ และเรื่องเศร้า พ่อแม่เสียลูกแฝดคนที่ 3
น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

            เป็นอดีตพิธีกรเด็กชื่อดัง ที่หลายคนยังคงจดจำกันได้ สำหรับ น้องณัชชา ลูกสาวพี่บ๊อบ สาวน้อยน่ารัก เจ้าของวลีเด็ด "ดูปากณัชชานะคะ" ที่เคยมีผลงานรายการกับทางช่อง 3 เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเธอคนนี้เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะเป็นทายาทของ พ่อบ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ หรือ บ๊อบ บดินทร์ พิธีกรและผู้ประกาศข่าวคนดัง นั่นเอง
 

            โดยล่าสุด (6 มกราคม 2564) น้องณัชชา ที่ตอนนี้เริ่มโตเป็นสาวแล้ว ก็ได้มาร่วมพูดคุยเปิดใจในรายการ "คุยแซ่บShow" ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์  เข็มเพชร และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล เป็นพิธีกร พร้อมด้วยครอบครัวสุดอบอุ่น นำโดย พ่อบ๊อบ แม่เฮี้ยง และน้อง ๆ เล่าถึงเส้นทางในวงการบันเทิงของน้องณัชชาในวัยเด็ก และชีวิตปัจจุบัน รวมถึงเรื่องเศร้าของครอบครัว กับการสูญเสียลูกแฝดคนที่ 3
น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

- น้องณัชชาไปทำรายการได้อย่างไร

            บ๊อบ : ณัชชาเขามีธรรมชาติของเด็กจริง ๆ แล้วคุณแม่เขาก็ชอบถ่ายคลิป แล้วคลิปเหล่านั้นพอมีคนเห็น มีผู้บริหารช่อง 3 เห็นก็เอาณัชชาไปออกรายการ นั่นคือต้นกำเนิดเลย เพราะเขาบอกว่าขอแบบนี้ไปอยู่บนทีวี

- แล้วทำรายการให้ช่อง 3 อยู่กี่ปี

            ณัชชา : ตอนนั้นรายการณัชชาทำอยู่ 2 ปี พอเริ่มเข้าปีที่ 3 เราควรจะทำอะไรใหม่ ๆ เพราะเราเริ่มโตแล้ว เริ่มไม่น่ารักเหมือนเดิมแล้ว

            บ๊อบ : คือถ้าเป็นเด็ก ๆ พอทำรายการคนก็จะรู้สึกน่ารักจังเลย แต่พอโตขึ้นวัยความน่ารักก็จะค่อย ๆ น้อยลง แต่ความเป็นมืออาชีพมันต้องมากกว่านั้น ก็เลยไปทำรายการ

- ตอนนี้น้องณัชชาเป็นสาวแล้ว ลูกสาวเคยมาปรึกษาเรื่องหนุ่ม ๆ หรือยัง

            บ๊อบ : อยากให้เร่งมีเพราะลูกสาวมีเพื่อนผู้หญิงน้อย มีเพื่อนผู้ชายเยอะ กลับมาก็เรื่องชกต่อยกันด้วย มีแขนเขียวกลับมา ซึ่งเราคิดว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตอนนี้ก็ห่วงว่าจะเป็นสาวช้าเหลือเกิน คืออยากให้เขาเป็นสาว เขาควรจะดูแลตัวเอง ดูแลผิวพรรณ แต่เขาไม่ได้เป็นลูกผู้หญิ๊งผู้หญิง แต่แบบนี้ก็ดี ความปวดหัวก็น้อยหน่อย เรื่องผู้ชายผมไม่ห่วง เพราะเขามีสเปกผู้ชายในอุดมคติ

- ผู้ชายในอุดมคติเราเป็นอย่างไร

            ณัชชา : ก็ต้องเรียนใช้ได้ ต้องไม่เรียนแย่กว่าเรา เล่นกีฬาเก่ง หน้าตาพอใช้ได้ นิสัยดี ส่วนเรื่องในวงการถ้าใครให้โอกาสณัชชา ณัชชาก็พร้อมที่จะลุยและทำให้เต็มที่ แต่ว่าตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องเรียนก่อน เพราะเรื่องเรียนมันมีผลต่ออาชีพของณัชชาในอนาคตได้

น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

- ได้ข่าวว่าพอณัชชาอายุ 13 คุณบ๊อบจะปล่อยเลย

            บ๊อบ : จริง ๆ แล้วมันเป็นข้อตกลงตั้งแต่เขาเป็นเด็ก เพราะเราเคยไม่เข้าใจกัน แล้วณัชชาแกล้ง มีงอแง เชื่อฟังป๊าน้อยลง ผมเลยบอกเขาว่าถ้าเมื่อไหร่เข้า 13 ซึ่งเป็นช่วงวัยรุ่น พ่อจะทำหน้าที่เป็นพ่อที่เงียบที่สุดให้ลูก แต่ก่อนหน้านั้นพ่อบอกอะไรอยากให้ลูกฟัง เพราะหลังจากนั้นพ่อจะไม่แนะนำ จะไม่พูดจนกว่าลูกจะมีคำถามมา พ่อจะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ ซึ่งวันเกิดเขาจะเป็น 13 กรกฎาคม ซึ่งอีกไม่กี่เดือน ถามว่าผมทำใจได้ไหม ก็ต้องทำใจตามที่เคยบอกลูกไว้

            เฮี้ยง : เราก็ทำหน้าที่เป็นแม่คอยดูแล คอยบอกเขาเหมือนเดิม แต่อันนั้นเป็นคอนเซ็ปต์ของพ่อเขาที่อยากให้ลูกคิดเองตัดสินใจเองได้มากขึ้น

            บ๊อบ : คอนเซ็ปต์นี้มีที่มาที่ไป คือเราคิดว่า การอบรมความรู้ บุคลิกท่าทาง นิสัย ในช่วงวัยตั้งแต่เขารู้เรื่องตั้งแต่ 5-6  ขวบ จนเขาอายุ 12 ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เพียงพอแล้ว คือถ้าเขาฟังเขาจะได้ แต่ถ้าเขาไม่ฟังเขาก็คงไม่ได้ แล้วถ้าไปพูดตอนอายุ 13 เขาก็จะยิ่งไม่ฟังเรา

น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

- พ่อพูดแบบนี้เราโอเคไหม

            ณัชชา : เราก็รู้สึกว่าคุณพ่อเป็นคนที่ปล่อยให้เราทำอะไรอยู่แล้ว อยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าเราทำผิดพลาดท่านก็จะช่วยไกด์เราว่าเราควรจะทำแบบนี้ ควรปรับปรุงอย่างไร เราก็พยายามฟังท่านให้ได้มากที่สุด และนำคำที่ท่านพูดมาใช้ และนำมาปรับปรุงตัวเอง พอใกล้อายุ 13 แล้ว ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะเป็นผู้ใหญ่ คือเรารู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ เราก็ควรจะถามคุณพ่อแหละ คือปกติเราจะไม่ถาม เราจะรอให้คุณพ่อเป็นคนบอก แต่พอเรา 13 แล้ว เราก็รู้สึกว่าควรจะต้องถามคุณพ่อบ้างแล้ว

- ถ้าเขาเดินมาถามเราจะตอบเขาไหม

            บ๊อบ : ตอบครับ ผมยังมีลูกที่ต้องดูแลอยู่ ถ้าเขาทำอะไรผิดพลาดเราจะไม่เข้าไปแล้วบอกว่า ณัชชา ปะป๊าว่าอย่างนี้ไม่ถูก คือเราจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เราจะเป็นฝ่ายตั้งรับ จะเป็นผู้ปกครอง เป็นผู้ประคอง คือ ให้คำแนะนำ คอยอยู่เคียงข้าง แล้วเราจะลดบทบาทของผู้ปกครอง และผู้เฝ้ามอง อันนี้เป็นคอนเซ็ปต์ที่ผมได้พัฒนามาจากองค์ความรู้ต่าง ๆ คือถ้าเราทำตัวเป็นผู้ปกครองลูก ๆ ลูกก็จะไม่สามารถเป็นผู้นำได้ เราจะฝึกให้ลูกเป็นผู้ตามตลอดไม่ได้ เพราะเขาต้องเป็นผู้นำตัวเองในอนาคต นำชีวิตตัวเองให้ได้

น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

- คุณเฮี้ยงคิดเหมือนกันไหม

            เฮี้ยง : คิดเหมือนกัน เพราะเรามองว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญของเด็กยุคอนาคต ถ้าเราปล่อยมือเขาไม่ได้ เฮี้ยงเชื่อว่าถ้าวันหนึ่งเขาไม่มีเราเขาจะอยู่อย่างไร

- มาคุยเรื่องแฝดกันบ้าง

            บ๊อบ : คือตอนแรกที่เราทำอิกซี่ ก็ใส่ไข่ไป 2 ฟอง เพราะเราคาดหวังว่าลูกเราจะเกิดปีมังกร ปรากฏว่า 2 ฟอง แตกออกเป็นแฝดแท้อย่างละคู่ ทีนี้เป็นกระบวนการตามธรรมชาติ คือไปไม่รอดใน 12 สัปดาห์แรก ก็เหลือ 3 เราก็ประคองจนคุณเฮี้ยงคลอด แต่คลอดเร็วมาก ซึ่งเขาออกมาทีหลัง

- ตอนที่เราเสียคนที่ 3 เป็นอย่างไร

            เฮี้ยง : มันเป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต เพราะเด็ก 2 คนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่รอด เขาจำเป็นจะต้องได้นมจากแม่เท่านั้นเพราะลำไส้เขายังไม่แข็งแรง ด้วยการที่เราคลอดก่อนกำหนดน้ำนมแทบจะไม่มา มายากมาก สอง คือความเครียดที่เราเสียอีกคนไป พี่บ๊อบบอกคำเดียวว่าเราไม่มีทางได้เขากลับคืนมา ดังนั้นเราจะต้องเดินหน้าเพื่อให้ลูก 2 คนนี้รอด ช่วงนั้นเราก็จะปั๊มนมไปร้องไห้ไป

น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

- ทำใจนานไหม

           เฮี้ยง : 2 ปีแรกยังพูดถึงไม่ได้ พูดถึงแล้วเราจะร้องไห้เลย ที่เราไม่เคยออกมาเล่าเรื่องนี้เพราะมันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจเรามาตลอด ดังนั้นเราขอให้เราแข็งแรงที่จิตใจก่อนแล้วเราจะเล่า คือเล่าเมื่อไหร่เราก็ร้องไห้เมื่อนั้นทุกครั้งไป ทุกวันนี้ก็โอเคแล้ว

- แล้วคุณพ่อเหมือนแม่ไหม

            บ๊อบ : คือผมอาจจะแตกต่างนิดหน่อย คือความเสียใจผมอาจจะไม่มาก เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราจมไปกับความรู้สึกนั้นแล้วใครจะเป็นคนที่ทำให้ทุกคนเดินไปข้างหน้าได้ ผมจึงต้องเป็นผู้นำที่จะทำให้ทุกคนมองไปข้างหน้า ตอนผมเห็น 2 คนนี้ในตู้อบ หนึ่งโมเมนต์คือคนหนึ่งได้จากไปแล้ว ซึ่งผมก็อยู่กับเขาจนวินาทีสุดท้าย ก็สวดมนต์เพื่อให้เขาไปในภพภูมิที่ดี ส่วนสองคนนี้ยังใส่เครื่องช่วยหายใจ พะงาบ ๆ บนตู้ออกซิเจน ใน ICU คือคนหนึ่งอยู่ 3 เดือน อีกคนหนึ่งอยู่ 5 เดือน

- ตอนนั้นณัชชาเป็นอย่างไร

            ณัชชา : คือตอนน้องเพิ่งเกิดหนูยังเด็กมาก เราไม่เข้าใจอะไรเลย พอโตขึ้นก็ได้ยินคุณแม่เล่าให้ฟัง เราก็รู้สึกว่าเรามีน้องที่เราไม่ได้มาเหรอ เราก็รู้สึกเสียใจ

น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

- แล้วพุฒกับพร้อมล่ะ รู้สึกอย่างไรเพราะเราเกือบจะไม่รอดเลยนะตอนนั้น

            พร้อม : ตอนนั้นคือจำอะไรไม่ได้เลยครับ

- เห็นลูกในตู้อบแอบหวั่นไหมว่าเขาจะไม่รอด

           เฮี้ยง : คือเฮี้ยงเจอสภาวะนี้ทุกวัน จนเฮี้ยงเข้าใจคำของหมออย่างคำว่าวันนี้ทรง ๆ มันไม่ได้แปลว่าดี คำคำนี้มันทำให้หัวใจเราลุ้นทุกวันว่าเราจะมีวันพรุ่งนี้สำหรับเขาไหม คือคุณหมอจะต้องจดอาการเป็นรายชั่วโมง แต่ถ้าดี คุณหมอจะพูดว่าวันนี้ดีมากนะครับคุณแม่

- ทำไมถึงทำวิทยาศาสตร์

           เฮี้ยง : คือตอนแรกเราทำธรรมชาติแล้วติดยาก อาจจะเพราะเราทำงานเยอะ เราก็เลยคิดว่าลองดูแล้วกัน

น้องณัชชา พ่อบ๊อบ

ภาพจาก รายการ คุยแซ่บShow

- รู้ไหมว่าสมัยก่อนเรามีพี่น้องเป็นแฝด

            พุฒ : ตอนแรกที่คลอดออกมาไม่รู้ แต่พอโตขึ้นมายายบอก ก็เลยทราบว่าเรามีพี่น้องอีกคนหนึ่งที่สูญเสียไปแล้ว

- ค่าใช้จ่ายตอนที่ลูกอยู่โรงพยาบาลหลายเดือน เสียเงินเท่าไหร่

            บ๊อบ : ก็ประมาณ 5-6 ล้านครับ ถามว่าเสียดายเงินไหม เสียดาย แต่พอลูกรอดออกมาเราก็โอเค

            ติดตามบทสัมภาษณ์ น้องณัชชา พ่อบ๊อบ และครอบครัว แบบเต็ม ๆ ได้ใน คุยแซ่บShow และติดตามรายการได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.30 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โตเป็นสาวแล้ว ! น้องณัชชา ลูกสาวพี่บ๊อบ เปิดใจ เหตุใดถึงเลิกทำรายการ น้องณัชชาฯ อัปเดตล่าสุด 7 มกราคม 2564 เวลา 11:09:12 27,110 อ่าน
TOP