
ภาพจาก Instagram kalamare

ล่าสุด (28 มกราคม 2564) กาละแมร์ พัชรศรี ได้เข้าชี้แจงกับคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ. สาธารณสุข ในการประชุมครั้งที่ 40 หลังถูกเรียกให้เข้าพบเพื่อชี้แจงข้อมูล โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อภายหลังชี้แจงดับ กมธ. ว่า ทาง กมธ. เชิญมาให้ข้อมูลในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้แสดงความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควรจะทำอย่างไรดี เพราะตนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องประกาศ อย.
แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ไปศึกษาว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้บ้าง ปรากฏว่ามีรายละเอียดของกฎหมาย จึงต้องมาหาทางออกให้กับผู้ประกอบการทุกคน ตอนนี้ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเราไม่สามารถพูดในแง่ความรู้สึกของเราได้ เพราะคิดว่าเราสามารถพูดได้ตามประสบการณ์ตรงและความรู้สึกของเรา รวมถึงรีวิวประสบการณ์ตรงของลูกค้าที่มีตัวตนจริงว่ารับประทานแล้วรู้สึกอย่างไร
ตนไม่มีเจตนาหลอกลวง แต่เป็นการขาดความรอบคอบ ว่าการโฆษณาลักษณะนี้ผิดกฎหมาย เพราะเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน และทำผลิตภัณฑ์ที่ดีให้คน แต่ไม่ทราบกฎหมาย วันนี้จึงมาพบกมธ. และได้ความรู้มากขึ้น รวมถึงได้เสนอแนะการทำโครงการต่าง ๆ ไปด้วย และยินดีให้ความร่วมมือกับ อย. และ สคบ. เพราะมีประสบการณ์ และไม่อยากให้ใครมาโดนแบบที่ตัวเองโดน

ส่วนเรื่องคดีความตั้งแต่มีหมายเรียกมายังไม่เคยได้รับโทรศัพท์ แต่ให้ทนายความติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตลอด ซึ่งวันนี้ก็บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่าติดภารกิจมาให้ข้อมูลกับ กมธ. จึงขอเลื่อนการพบเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปก่อน ยืนยันว่าไม่ได้เพิกเฉย และการที่มา กมธ. ก่อนไปพบตำรวจก็เพราะอยากชี้แจงในส่วนของตัวเอง เพราะในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีทนายความพูดคุยอยู่ตลอดแล้ว
สำหรับประเด็นสังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่อ้างว่าอาหารเสริมรักษาโควิด 19 ได้นั้น กาละแมร์เปิดเผยว่า มีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งรีวิวบอกเล่าเรื่องสามี เมื่ออ่านแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นจึงอยากรู้รายละเอียดและได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าตัวจริง ๆ ที่เขามีตัวตนจริง ๆ และเล่าเหตุการณ์ว่าเขาป่วยไม่สบาย และเมื่อรับประทานแล้วค่าต่าง ๆ ลดลงจนสามารถกลับบ้านได้ ซึ่งด้วยความตื่นเต้นดีใจทำให้ขาดความรอบคอบ และต้องการบอกเล่าเท่านั้น และยืนยันว่าจะเดินหน้าทำผลิตภัณฑ์ต่อไป และจะนำข้อผิดพลาดไปปรับปรุงให้ดีขึ้น

ภาพจาก Instagram kalamare
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์