หลังจากที่นักร้องคนดัง นกน้อย อุไรพร ในฐานะหัวหน้าหมอลำคณะเสียงอิสาน ได้ออกมาไลฟ์เปิดใจกับมรสุมชีวิตระลอกใหญ่จากพิษโควิด 19 พร้อมเผยอาการป่วยของ พ่อหลอด สามีที่ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล จึงต้องออกมาประกาศขายบ้านตองห้า เพื่อเอาเงินมารักษา และเปิดรับบริจาคเพื่อต่อลมหายใจวงเสียงอิสาน ทำให้เกิดเป็นดราม่าขึ้นในโลกออนไลน์ มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าตอนโด่งดัง ทำไมไม่มีเงินเก็บ ทั้งที่รวยกว่าใครหลายคนด้วยซ้ำ
อ่านข่าว : ดราม่า นกน้อย อุไรพร รับเงินบริจาคช่วยสามีป่วย เจอทัวร์ลง ซัด รวยกว่าคนทั้งประเทศด้วยซ้ำ
อ่านข่าว : นกน้อย อุไรพร แจงแล้ว ตอนโด่งดัง ทำไมไม่มีเงินเก็บ หลังดราม่ามีทรัพย์สิน 100 ล้าน ยังขอรับบริจาค
ล่าสุด (3 กุมภาพันธ์ 2564) ฝน ธนสุนธร ในฐานะลูกศิษย์ที่เคยร่วมเดินสายกับ แม่นกน้อย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน วันบันเทิง เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ฝนเข้าใจในวิกฤตแบบนี้ แม่ก็ต้องเจอปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่มีเท่าเดิม แต่รายรับไม่มี แถมพ่อหลอดผู้ก่อตั้งวงก็ยังมาป่วยเข้าไอซียูกะทันหันอีก ทำให้ฝนรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องรีบเข้าไปช่วย ไปให้กำลังใจ ซึ่งจริง ๆ แล้ว แม่นกน้อยเป็นคนเข้มแข็งมาก ถึงเจอวิกฤตก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ยอมทิ้งวงเสียงอิสานเป็นอันขาด
ฝนเคยไปเดินสายกับคุณแม่อยู่หลายปี เห็นตลอดว่าวงต้องรับภาระค่าใช้จ่ายหนักมาก ยิ่งเป็นช่วงโควิด 19 แบบนี้ ถ้าเป็นฝนคงจะยุบวงไปแล้ว ในฐานะที่เป็นลูก ฝนเชื่อว่าคนที่เป็นแม่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก แม้กระทั่งจะต้องไลฟ์ขอเงิน ถามว่าแม่ผิดเหรอ ที่แม่ทำเพื่อความอยู่รอดของครอบครัวและลูก ๆ แต่คนที่มองเข้ามาแล้วคิดว่าดราม่า เอาเรื่องนี้มาหากิน ก็แล้วแต่คุณจะคิด แต่ถ้าจะขอเงินเพื่อที่เอามาเลี้ยงลูก ถ้าเป็นฝน ฝนก็ทำ หากมันไม่มีหนทางจริง ๆ
อีกอย่างแม่นกน้อยก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่ได้ไปฆ่าคนตาย หรือไปบีบบังคับเอาเงินจากใคร แค่ไลฟ์สดร้องเพลงแลกกับเงิน ถ้าใครจะมองในแง่ลบ คุณก็มีสิทธิ์มอง แต่ไม่มีสิทธิ์ไปด่าหรือไปว่า เพราะฝนมองว่านี่คือการใช้ชีวิตของแต่ละคน และนี่คือการดิ้นรนเพื่อครอบครัวและลูก ๆ นี่คือมรสุมชีวิตของจริงที่แม่เจอ จึงอยากให้เข้าใจและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จะได้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก วันบันเทิง - oneบันเทิง