บี้ สุกฤษฎิ์ ไม่เอาบุพเพฯ ภาวนาเนื้อคู่อย่ามาเลย แก่แล้วจะไปอยู่บ้านพักคนชรา

          ตั้งแต่ที่นักร้องนักแสดงหนุ่ม บี้ สุกฤษฎิ์ หายหน้าหายตาจากวงการบันเทิงไป ก็เป็นเวลานานถึง 2 ปีแล้ว แถมช่วงที่ผ่านมายังขยันเข้าวัดทำบุญเป็นกิจวัตร ก็ทำเอาแฟน ๆ แอบคิดถึงผลงานของเจ้าตัวไม่น้อย ล่าสุด หนุ่มบี้หวนจับไมค์เตรียมออกเพลงใหม่อีกครั้งกับเพลง "มาละวา" ทางรายการ วันบันเทิง ก็เลยถือโอกาสดีดึงตัวมาจ่อไมค์สัมภาษณ์ถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาซะเลย

หายหน้าไป 2 ปี เข้าวัดค้นพบความสุข ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : หลัก ๆ ผมจะไปเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ ส่วนจันทร์-ศุกร์ ก็แบ่งเวลามาทำงานบ้าง หรือกลับบ้านเชียงใหม่บ้าง นอนเล่นบ้าง ออกกำลังกายบ้าง ที่คนบอกว่า "มันรวยแล้วนี่ มันก็เลยไปอยู่วัดได้น่ะสิ" ถามว่ามันจริงไหม มันก็จริงนะ ไม่รู้จะเถียงยังไง แต่ว่าคนเราเลือกความสุขได้ คุณมีความสุขอย่างไร คุณก็ใช้ชีวิตอย่างนั้น

สัจธรรมซุปตาร์ ความแน่นอน ล้วนไม่แน่นอน ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มันไม่แน่นอน บางเพลงพยายามทำแทบตายไม่ดัง แต่บางเพลงรีบ ๆ ทำ รีบ ๆ ปล่อย กลับดัง ถามว่าทำไมถึงไม่เหลิง หรือหลงระเริงไปกับความเป็นซุปตาร์ เราก็น่าจะมาถามตัวเองว่า ทำไมถึงต้องเหลิง ทำไมถึงต้องหลงระเริงกับความเป็นซุปตาร์อย่างนั้นมากกว่า ผมไม่ได้เป็นคนถ่อมตัว แต่ผมแค่รู้สึกว่าการเหลิงมันไม่มีประโยชน์อะไร มันอาจจะทำให้คนรอบข้างไม่ชอบหน้าเราซะมากกว่า

คิดอย่างไรเรื่องการมีครอบครัว ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : ผมไม่ได้นึกถึงเรื่องนั้นเลย ไม่ได้คิดอยากจะมีครอบครัวเลย เมื่อก่อนอาจจะนึกตอนมีแฟน แต่ ณ เวลานี้ เห็นเพื่อน ๆ มีครอบครัว บางครั้งเรามองว่ามันไม่ใช่ความสุขของเรา แต่เป็นความสุขของเพื่อน

ทำไมถึงไม่อยากมีครอบครัว ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : เคยไปเยี่ยมลูกเพื่อน แต่เล่นเฉย ๆ เวลาเล่นก็สนุกดี แต่ถ้าให้เลี้ยงก็ไม่ได้

แก่แล้วจะไปอยู่กับใคร ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : แก่แล้วผมก็อยู่บ้านพักคนชรา

35 แล้ว ไม่อยากมีความรัก ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : ก็อยากมีเหมือนกัน แต่เวลาผู้หญิงมาเจอเรา เขาก็มีความฝัน อยากแต่งงานและมีลูก แต่พื้นฐานของบี้คือไม่ได้อยากมีครอบครัว ฉะนั้นไม่เป็นไร เราอย่าเห็นแก่ตัวเลย เราไม่มีดีกว่า ไม่อยากมีแฟน ไม่อยากบวช อยู่คนเดียวมันเป็นอิสระ เวลาจะไปไหนมาไหน ไม่ต้องขออนุญาตใคร ไม่ต้องกลัวใครงอน ในใจผมไม่อยากมี แต่โลกนี้มันไม่แน่นอน หลายคนที่บอกว่าจะไม่มี ตอนนี้แต่งงานไปแล้ว ก็มีความเชื่อในศาสนาพุทธ อาจจะเคยเป็นบุพเพสันนิวาสกันมาในชาติปางก่อน ผมเชื่อเรื่องเนื้อคู่ แต่ผมคิดในใจว่า อย่ามาเลย

ไปกินข้าวกับ โม มนชนก รู้สึกยังไง ใจเต้นไหม ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : ไม่ใจเต้น แต่รู้สึกว่าครั้งหนึ่งเราเคยคุยกันมากกว่าเพื่อน แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งกัน ในความเป็นเพื่อนมันก็ยังมีอยู่ ก็เลยคุยกันสนุกสนาน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกัน ไม่คิดรีเทิร์น เพราะใจคิดแบบนี้ไปแล้ว เราอยู่คนเดียวแล้วเราไม่เหงา

เป้าหมายชีวิตคือ ?

          บี้ สุกฤษฎิ์ : เป้าหมายชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เราอยู่เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ทีมงาน หัวหน้า เจ้านาย บริษัท เพื่อน ๆ ครูบาอาจารย์ ตอบแทนคุณพ่อแม่แล้วก็เอาเงินสร้างบ้านให้ท่าน ใครมีคุณเราก็ตอบแทนคุณ มันก็มีความสุขดี เขาเคยให้เรามาเยอะ เราคืนให้กับเขาบ้าง หรือแฟนคลับที่เรียกร้องว่าเมื่อไรจะออกเพลง ก็จัดให้เลย