ภาพจาก เฟซบุ๊ก Anne Jakrajutatip
กลายเป็นดราม่าฟาดฝีปากกันไป-มา หลังจากที่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล โพสต์ข้อความในทำนองที่ว่า ขอแบนคนดังข้ามเพศ รณรงค์ใช้ น.ส. แต่บูลลี่คนอื่น แถมยังอวดเรื่องเซ็กส์ออกสื่อ ร้อนถึงนักธุรกิจพันล้านที่เพิ่งจะมีดราม่าร้อน ๆ อย่าง แอน จักรพงษ์ จนต้องออกมาโพสต์ฟาดกลับแรงว่า ให้หยุดวิจารณ์คนอื่นแล้วไปแปลงเพศ เพื่อจิตใจจะแจ่มใสขึ้น อย่าฉวยโอกาสเอาประเด็นคนอื่นมาสร้างกระแส ทั้งที่แอนเป็นลูกค้าที่อุดหนุนมานาน แต่ยังมาทำอย่างนี้ งานนี้ทำเอาขาเผือกขาเมาท์อยู่ไม่สุข เพราะดูท่าจะดราม่าจะร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ
อ่านข่าว : ณวัฒน์ ลั่น ขอแบนคนดังข้ามเพศ รณรงค์ใช้ น.ส. แต่บูลลี่คนอื่น-อวดเรื่องเซ็กส์ออกสื่อ
อ่านข่าว : แอน JKN ฟาดกลับคุณ ณ แนะไปแปลงเพศ - ขอแบนคนอื่น ใครอยากคบคุณ !?
ภาพจาก ไนน์เอ็นเตอร์เทน
ล่าสุด (8 กุมภาพันธ์ 2564) ไนน์เอ็นเตอร์เทน จ่อไมค์สัมภาษณ์ ณวัฒน์ เปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การสนับสนุนการเป็นสปอนเซอร์ เป็นการทำข้อตกลงผลประโยชน์ต่างตอบแทน เราทำงานเต็มความสามารถของตัวเองแล้ว แต่ไม่เคยได้รับความสะดวกในการทำงาน พูดถึงเรื่องการมีบุญคุณ ถ้าใครเป็นสปอนเซอร์ แล้วถ้าเขาจ่ายเงินช้ามาก ๆ จะรู้สึกเหนื่อยและล้าหรือไม่ ทุกอย่างที่พูดมีหลักฐานชัดเจน
การทำงานร่วมกันยอมรับว่าสายป่านขาดตั้งแต่ปี 2562 เพราะบริษัทจะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ จะต้องมีการยกหนี้ข้ามปี แต่เพราะมีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน ทำให้ฝ่ายการขายและที่ปรึกษาในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทแนะนำให้ยุติการค้าการขายโฆษณากับบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เรื่องการตามเงินมีหลักฐานการตามเงินทุกอย่าง ซึ่งการคุยกับอีกฝ่ายมักจะถูกอ้างจากตัวลูกน้องเสมอว่า เจ้านายยังไม่สะดวก หลังจากที่เคลียร์ครั้งนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย ไม่เคยเจอกัน ส่วนใหญ่จะติดต่อกันไม่ได้
ส่วนที่ถูกตอกกลับมาให้ไปศัลยกรรมแปลงเพศ ไม่ได้รู้สึกอะไร ตราบใดที่เราวิจารณ์คนอื่นได้ คนอื่นก็วิจารณ์เราได้ เรื่องที่ว่ามาอย่างนั้น ไม่รู้สึกโกรธ ถามว่าสิ่งที่เราโพสต์ต่าง ๆ คิดว่าจะหยุดพฤติกรรมของเขาได้ไหม ก็ไม่ อย่างมากก็ได้แค่ทำให้รู้สึกไตร่ตรอง แต่จะไตร่ตรองได้มากแค่ไหนไม่รู้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล ยังเห็นโพสต์อะไรก็แท็กมาอยู่เรื่อย ๆ ไม่ได้ตอบโต้เลย
ถามว่าสถานะตอนนี้คือเพื่อนหรือไม่ เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ปัจจุบัน 2564 ไม่เป็นไร ถึงแม้เราไม่ได้ทำงานด้วยกัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดถ้าเจอแล้วจะไม่คุยกัน แต่เราจะไม่คุยเรื่องงาน ทำไม่ได้จริง ๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ร่วมงานด้วยไม่ได้ แต่ถ้าเป็นแบบเดิม เป็นคนทำงาน ก็ยินดีจะทำให้
ณวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากนี้คงไม่มีการโพสต์อะไรถึงเขาแล้ว ฝากให้ใจเย็น ค่อย ๆ คิด ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ทุกอย่างจะค่อย ๆ ผ่านไป วันหนึ่งหากทุกอย่างมันผ่านไปอาจจะต้องกลับมาขอบคุณตน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Anne Jakrajutatip
ขณะที่ แอน จักรพงษ์ ก็ขอออกมาไลฟ์สรุปความทั้งหมด 5 เรื่อง ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเรื่องแรกคือ จากคำพูดของคุณณวัฒน์ที่บอกว่า เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน มันหมายถึงการลงทุนร่วมกัน แต่สำหรับแอน แอนคือลูกค้า เป็นผู้อุปการะคุณ ฉะนั้นคำว่ากตัญญูสำคัญมาก
เรื่องที่สอง คุณณวัฒน์ บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลสาธารณะเลยต้องใช้พื้นที่สื่อเพื่อเล่าข่าว ก็เป็นเรื่องดี ไม่ได้มีใครว่า แอนก็มีสำนักข่าว จะเป็นคนดังระดับไหนมันไม่สำคัญ แต่กระแสสำคัญกว่า ตอนที่เกิดเรื่องแอนได้ขอโทษกับทุกฝ่ายไปหมดแล้ว แต่ทำไมต้องมาซ้ำเติมกันอีก ด้วยการปล่อยข่าวในวันรุ่งขึ้นว่าขอแบน ยอมรับว่ารู้สึกตกใจมาก ที่เพื่อนซึ่งรู้จักและทำงานร่วมกันมาเป็นสิบ ๆ ปี ซ้ำเติมกันแบบนี้ ทำให้รู้สึกว่าเราเคยเป็นลูกค้าเขาจริง ๆ หรือเปล่า
เรื่องที่สาม การจ่ายเงินช้า JKN ไม่ได้จ่ายเงินช้า เราอุดหนุนคุณมาโดยตลอด ถ้าคุณไม่พอใจจริง ๆ ทำการค้ามา 4 ปี คุณคงเลิกตั้งแต่ปีที่ 1 แล้ว อยากให้เข้าใจว่าทุกบริษัทมีวันวางบิล ทำงานเสร็จต้องมีสัญญา เอกสารต้องครบ หลังจากนั้นค่อยมารับเช็ก ถ้าเอกสารไม่ครบก็ต้องมาวางบิลในเดือนถัดไป มันเป็นกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ การที่คุณหมุนเงินไม่ทันก็ไม่ใช่ความโกรธแค้นที่จะมาบอกว่าทำไมเร่งเงินให้ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นวันหลังยืมเงินส่วนตัวแอนได้ แอนสะดวก แต่บริษัทแอนทำให้ไม่ได้จริง ๆ
เรื่องที่สี่ ที่บอกว่าแอนต้อนรับนางงามจากสังกัดคุณณวัฒน์ไม่ดี จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ควรพูดเลย เดี๋ยวคนจะมองว่านางงามในสังกัดของคุณเรื่องมาก เพราะทางบริษัทแอนก็ดูแลศิลปินทุกเบอร์เหมือนกันหมด แต่ห้องมันมีแค่เท่านั้น พื้นที่มีจำกัด ก็พยายามบรรจุห้องแต่ละคนไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องที่ห้า เกี่ยวกับการโพสต์ทางโซเชียลมีเดีย แอนยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่คุณณวัฒน์มาโพสต์ รู้สึกเหมือนถูกแทงที่หลังทั้งที่รู้จักกันมาเป็น 10 ปี จึงเรียนคุณณวัฒน์ทางไอจี ซึ่งมันเป็นข้อความที่ส่งหาเขาแค่คนเดียว ไม่ใช่ส่งถึง LGBT ทั้งประเทศ มันคือความโกรธ ความไม่แฟร์ที่เกิดขึ้นกับแอน ไม่อยากให้คนในกลุ่ม LGBT เข้าใจผิด
