เซรั่มยี่ห้อไหนดี 2023 ที่สาว ๆ ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาเนียนใส เปล่งปลั่ง งานนี้เราคัดเซรั่มหน้าใส ลดรอยสิว พร้อมกระชับรูขุมขน มาให้เลือกแล้ว
เมื่อผู้หญิงอย่างเรา ๆ เข้าสู่วงการสกินแคร์ นอกจากครีมบำรุงพื้นฐานที่ต้องมี ก็จะเริ่มมองหาสิ่งที่แอดวานซ์มากยิ่งขึ้นอย่าง “เซรั่ม” มาเป็นตัวช่วยฟื้นฟูและดูแลผิวหน้าแบบล้ำลึก เนื่องจากเซรั่มมีสารบำรุงเข้มข้นและเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก จึงสามารถซึมซาบสู่ผิวได้รวดเร็ว ช่วยแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุด ยิ่งใครที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลผิวพรรณ ลองหันมาซื้อเซรั่มหน้าใสสักขวดเป็นของขวัญให้ตัวเองบอกเลยว่าเวิร์ก ว่าแต่ เซรั่มตัวไหนดี และใช่สำหรับเรา ไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีเลือกพร้อมคัด 9 เซรั่มตัวเด็ดมาไว้ให้แล้ว
วิธีการเลือกเซรั่มบำรุงผิว
หลายคนมักจะประสบปัญหาในการเลือกใช้เซรั่ม ถึงจะอ่านรีวิวที่คนอื่นแนะนำมาแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ดังนั้นมาดูวิธีการเลือกเซรั่มที่ถูกต้องและเหมาะสมกับผิวหน้าของตัวเองกันดีกว่า
เลือกเซรั่มให้เหมาะกับปัญหาผิว
เซรั่มในปัจจุบันมีส่วนผสมและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อให้เลือกใช้ตามความต้องการ เช่น Brightening Serum เพิ่มความขาวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ, Pore Minimizing Serum ยกกระชับรูขุมขน, Anti-Acne Serum ช่วยป้องกันสิวและลดรอยดำจากสิว, Hydrating Serum กักเก็บความชุ่มชื้นให้คงอยู่บนผิว ดังนั้นการเลือกเซรั่มที่ตรงกับปัญหาผิวของเราจึงเป็นข้อแรกที่ควรนึกถึง
เลือกเซรั่มให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
-
ผิวแห้ง
ผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก เพราะจะช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้ใต้ชั้นผิวได้อย่างยาวนาน และควรเลี่ยงเซรั่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกว่าเดิม
-
ผิวแพ้ง่ายหรือผิวบอบบาง
ผิวแพ้ง่ายต้องการการปลอบประโลมเป็นพิเศษ ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ เพราะมีคุณสมบัติปกป้องเซลล์จากสิ่งแปลกปลอมภายนอก พร้อมช่วยกักเก็บน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้นานขึ้น และแน่นอนว่าควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีอย่างน้ำหอม แอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์ เป็นต้น
-
ผิวมัน
สาว ๆ ที่มีผิวมันควรเลือกเซรั่มที่มีเนื้อบางเบาและซึมซาบง่าย ไม่เหนอะหนะ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับน้ำมันบนผิว โดยไม่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ส่วนผสมในเซรั่มที่ควรมองหาคือ ซิงก์ ทีทรีออยล์ และกรดซาลิไซลิก เพราะจะช่วยลดปริมาณน้ำมันส่วนเกิน ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดการอักเสบในรูขุมขน
-
ผิวมีริ้วรอย
เมื่อเริ่มมีอายุ ผิวจึงเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้ง่าย ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของเรตินอลและเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เสริมความยืดหยุ่นให้ผิวกระชับ รวมทั้งมองหาเซรั่มที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระด้วย
เซรั่มยี่ห้อไหนดี 2023
เมื่อรู้วิธีเลือกเซรั่มแบบพื้นฐานกันไปแล้ว เชื่อว่าตอนนี้สาว ๆ หลายคนคงพอจะมีคำตอบอยู่ในใจว่าเซรั่มที่เหมาะกับตัวเองเป็นอย่างไร ทีนี้ก็ถึงเวลามาดูเซรั่มแบรนด์ดังที่เราคัดมาให้ ถูกอกถูกใจตัวไหนก็เลือกใช้กันได้เลย
1. Coreana AMPLE:N VC Shot Ampoule
เซรั่มที่มีหลายสูตรและสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว อย่างตัวนี้ก็จะช่วยเรื่องปัญหาผิวหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำ ตลอดจนรอยแดง รอยสิว ก็จัดการได้ พร้อมกับปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นด้วย สำหรับเนื้อเซรั่มจะเป็นสีขาวขุ่น เกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า ขนาด 100 ml. ราคา 850 บาท
2. Skinsista Vit C Extra Bright Booster
เซรั่มบูสเตอร์เนื้อบางเบา ช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ พร้อมกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ด้วยสารสกัดจากกรดไฮยาลูรอนิกและวิตามิน C ทำให้ผิวเกิดใหม่ดูเรียบเนียน เปล่งประกาย สุขภาพดี ลดการเกิดหลุมและรอยสิวใหม่ ส่วนใครที่กังวลว่าผิวแพ้ง่ายจะใช้ได้ไหม บอกเลยว่าหายห่วง เพราะอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ ซิลิโคน และสารกันเสีย ขนาดพกพาง่าย 15 ml. ราคา 490 บาท
3. Biotherm Aquasource AURA CONCENTRATE
แบรนด์ที่เน้นเรื่องการเติมน้ำให้ผิวดูสวยฉ่ำ มาพร้อมสูตรใหม่กับเซรั่มเข้มข้นสำหรับผิวแห้งหรือผิวมันแต่ขาดน้ำ เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ทาแล้วรู้สึกได้ถึงผิวอิ่มฟูและสดชื่น ที่สำคัญคือช่วยปลอบประโลมและฟื้นฟูผิวอักเสบ ถูกใจคนเป็นสิวไปอีก นอกจากนี้ใช้เป็นเซรั่มอย่างเดียวไม่พอ ยังหยดลงบนใบหน้าจุดที่แสงตกกระทบเพื่อเป็นไฮไลเตอร์ได้ด้วย ขนาด 50 ml. ราคา 1,800 บาท
4. BSC Time Defence Phytocelltec Nano Serum
เซรั่มที่ช่วยเรื่องผิวกระชับ เรียบเนียน ฟื้นบำรุงผิวให้มีชีวิตชีวา เห็นขวดแค่นี้แต่จุสารอาหารผิวมาไว้ให้เพียบ ทั้งพืชพรรณ ไข่ปลา วิตามิน และกรดอะมิโน จึงช่วยให้ผิวสวยสดใสได้ไม่ยาก แถมยังทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และชุ่มชื้นขึ้นด้วย ขนาด 30 ml. ราคา 2,500 บาท
5. La Roche Posay Hyalu B5 Serum
ใครที่มีผิวบอบบาง ระคายเคืองง่ายเป็นพิเศษ แนะนำเซรั่มที่ผสานไฮยาลูรอนและวิตามิน B5 ขวดนี้ ด้วยเนื้อเจลใส บางเบา ไม่เหนอะหน้า ช่วยคืนความอิ่มเอิบและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นตลอดวัน ลดปัญหาความหมองคล้ำ พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากขึ้น ช่วงไหนหน้าเริ่มโทรม ใช้ตัวนี้อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผิวที่อ่อนล้ากลับมาดูมีชีวิตชีวาขึ้น ขนาด 30 ml. ราคา 1,500 บาท
6. Fresh Vitamin Nectar Glow Juice Antioxidant Face Serum
เซรั่มที่มีกลิ่นหอม ใช้แล้วสดชื่น นอกจากจะอัดแน่นด้วยวิตามิน C และ E เข้มข้นจากผลไม้และผักนานาชนิดแล้ว ยังให้กลิ่นหอมของผลไม้ตระกูลซิตรัส เนื้อเซรั่มเป็นกึ่งออยล์บางเบา แต่ให้ความชุ่มชื้นสูง ทาแป๊บเดียวคือซึมไว พร้อมบูสต์ผิวเหนื่อยล้าให้สดใสขึ้นอีกครั้ง แถมบางคนใช้แล้วรู้สึกว่าหน้ามันน้อยลง และทำให้สิวอักเสบลดลงด้วย ขนาด 15 ml. ราคา 1,200 บาท
7. The Face Shop Yehwadam Revitalizing Serum
เซรั่มที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อย่างดอกบัวหลวงสกัด ดอกสายน้ำผึ้ง โสมเกาหลี โกจิเบอร์รี ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น เรียบเนียน กระจ่างใส และยังฟื้นบำรุงให้ผิวของสาว ๆ ดูอ่อนเยาว์กระชับ เปล่งปลั่งแบบมีสุขภาพดี เนื้อเซรั่มออกจะหนืด ๆ หน่อย แต่ไม่ทำให้หนักหน้า และยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ขนาด 45 ml. ราคา 1,599 บาท ใช้เพียงหนึ่งปั๊มก็ทาได้ทั่วหน้าและลำคอ
8. Anua Heartleaf 80% Soothing Ampoule
เซรั่มแอมพูลสุดเข้มข้น ซึ่งมีส่วนผสมหลักอย่าง Heartleaf ถึง 80% แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เหนียวหนึบ ซึมง่าย สบายผิว พร้อมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ลดการอักเสบระคายเคือง ผิวดูฉ่ำโกลว์ รูขุมขนเล็กลง หน้าเนียนขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวฉบับเร่งด่วน ขนาด 30 ml. ราคา 990 บาท
9. Kiehl’s Dermatologist Solutions™ Nightly Refining Micro-Peel Concentrate
ถ้ามองหาเซรั่มที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว แนะนำขวดนี้ โดยเป็นเซรั่มที่ใช้ตอนกลางคืน มีสารสกัดจากเปลือกเมล็ดควินัวที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและเปล่งออร่าขึ้น เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องจะสังเกตได้ว่ารูขุมขนเล็กลง ผิวดูละเอียด ส่วนคนที่มีปัญหาริ้วรอย ตัวนี้ก็ช่วยได้เช่นกัน ทั้งยังอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว ขนาด 30 ml. ราคาอาจแรงนิด 2,750 บาท แต่ใช้ได้ยาว ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ เซรั่มหน้าใส 2023 ที่เราแนะนำไป เลือกตัวที่ถูกใจกันได้หรือยังคะ แต่หลังจากบำรุงแล้วก็ต้องปกป้องผิวจากแสงแดด และอย่าลืมดื่มน้ำเยอะ ๆ กินอาหารที่มีประโยชน์กันด้วยนะคะ รับรองผิวจะสวยแบบคูณสิบไปเลย !