x close

แคทรียา อิงลิช ย้อนเล่ารักสุดช้ำ เจอคนเจ้าชู้-โดนหลอก-รักสามเส้า ลั่นชีวิตนี้ไม่คิดแต่งงาน

          แคทรียา อิงลิช ย้อนเล่าเส้นทางความรักสุดช้ำ เจอแต่ผู้ชายเจ้าชู้ ซ้ำยังเคยตกอยู่ในสถานะรักสามเส้า ยอมทนเป็นโลกอีกใบถึง 4 ปี ใครเตือนก็ไม่ฟัง ลั่นชีวิตนี้ไม่คิดแต่งงาน
แคทรียา อิงลิช

          ไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องหัวใจสักเท่าไร สำหรับสาวแคท แคทรียา อิงลิช นักร้อง นักแสดงมากความสามารถ ซึ่งล่าสุด (17 พฤษภาคม 2564) สาวแคทรียาได้ออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร

ถามเรื่องความรัก อายุ 13 ก็มีคนมาขายขนมจีบแล้ว ?

          แคท : ใช่ค่ะ ช่วงเข้าวงการใหม่ ๆ เลย

แต่คนนี้ไม่ได้เรื่อง เพราะว่าเขาจีบซ้อน ?

          แคท : เป็นพระเอกคนแรกในชีวิตที่จีบ เราก็มีความรู้สึกปลื้ม ตอนนั้นคุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัว เขาก็คอยเตือนตลอด เขาซื้อดอกไม่ให้เราทุกเช้า แต่หารู้ไม่เขาก็ซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงอีกคนทุกเช้าเหมือนกัน

แล้วคู่นั้นเขาได้คบกันไหม ?

          แคท : ได้คบแป๊บหนึ่ง คือจะบอกว่าแคทคบกับเขาแบบแฟนหรือเปล่าก็ไม่เชิงนะ เหมือนแค่จีบ ๆ แต่คนนั้นเขาก็จีบแล้วก็คบกันแป๊บหนึ่งเหมือนกัน

สรุปไม่ได้คบกับพระเอก ได้คบกับนักร้อง ได้คบกันระยะหนึ่งแต่ต้องเลิกไป ตอนนี้ถ้าได้เจอกันได้ร่วมงานกันคุยกันปกติไหม ?

          แคท : คุยกันปกติค่ะ จริง ๆ แล้วสนิทกับภรรยาเขามากกว่า

ตอนนั้นคบกันกี่ปี ?

          แคท : 5 ปีค่ะ

แล้วเลิกกันเพราะอะไร ?

          แคท : ไม่หยุดที่เรา

แสดงว่าเจอผู้ชายเจ้าชู้คนที่ 2 แล้ว ?

          แคท : ใช่ แต่ว่าตอนนั้นก็ยังวัยรุ่นกันอยู่ อาจจะเป็นช่วงที่กำลังเห่อความมีชื่อเสียงของตัวเอง แล้วก็ยังไม่พร้อมที่จะหยุด

แสดงว่าตอนนั้นที่อายุ 20 สำหรับเราอาชีพการงานสำคัญกว่าความรัก ?

          แคท : พอ ๆ กันมั้งคะ

ตอนนั้นตัดง่ายไหม ?

          แคท : ไม่ง่าย แต่ว่าแคทเป็นคนที่เด็ดขาด คือถ้าเราจับได้คาหนังคาเขาคือจบ

อะไรคือที่ทำให้เราตัดสินใจสุดท้ายเลยว่าขอเลิก ?

          แคท : ก็นั่นแหละค่ะ จับได้ ทางมือถือด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ก็คือจบ แคทเป็นคนที่ไม่พูดคำว่าเลิก แต่คือเดินออกมาเลย ไม่ต้องคุยกันเลย ไม่ต้องสื่อสารกันอีกแล้ว

แล้วไม่คุยกันนานไหม จนกลับมาร่วมงานกัน ?

          แคท : 15 ปีค่ะ

ถ้าเจอหน้าช่วง 15 ปีทักไหม ?

          แคท : คือหลีกเลี่ยง เขาก็พยายามติดต่อมาเหมือนกันก่อนที่เขาจะแต่งงาน เขาก็พยายามติดต่อมาช่วงหลังที่เลิกกันแล้ว จริง ๆ 2 ครอบครัวทั้งของแคทและของเขาสนิทกันมาก ๆ เลย อย่างที่บอกว่าตอนนั้นก็ช่วงวัยรุ่นเราก็ไม่ถือสา ตอนนี้เราก็โต ๆ กันแล้วก็ผู้ใหญ่แล้ว พอเขาแต่งงานมีครอบครัวมันเหมือนกับว่าเราสามารถที่จะกลับมา คือยังไงเราก็อยู่วงการเดียวกัน เพราะฉะนั้นมันก็ต้องเจอกันบ้าง เราก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนตอนเป็นแฟนแล้ว คือเราเป็นพี่น้องกันได้ เราก็มีความรู้สึกว่าครอบครัวเขาก็น่ารักกับเรา แล้วเราจะเสียเพื่อนไปทำไม เรามาสนิทกับภรรยา ให้ภรรยาเขาสบายใจว่าไม่ต้องห่วงเลยนะ จริง ๆ มีงานที่ถามมาทางเขาว่ามาร้องเพลงด้วยกันได้ไหม แต่เป็นภรรยาเขาโทร. มาหา แล้วก็มีงานที่พยายามจะติดต่อมาทางเขา เราก็โทร. ถามภรรยาเขาเหมือนกัน

ภรรยาเขารู้ไหมว่าเราคือแฟนเก่า ?

          แคท : รู้ค่ะ

แคทรียา อิงลิช

หลังจากเรื่องนี้ผ่านไปพี่แคทก็มาเจอกับเรื่องรักสามเส้าอีก เกิดขึ้นได้ยังไง ?

          แคท : เขาเหมือนชื่นชมมานานก็เลยมาจีบ เราก็คิดว่าเขาก็โสดก็เลยติดต่อกันคุยกัน คอนเสิร์ตเขาก็มาดู ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คิดว่าเพื่อนกันไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ทำไปทำมาก็จีบ

คบกันนาน 5 ปีเลยเหรอ ?

          แคท : คบกัน 5 ปีค่ะ

แล้วแคทไปรู้ตอนไหนว่าเขามีอีกคนหนึ่ง ?

          แคท : ประมาณปีนึง

แล้วที่เหลืออีก 4 ปี ?

          แคท : เราอยู่ของเรา

อะไรทำให้เรายอมรับได้ตอนนั้น ?

          แคท : คือจริง ๆ แล้วเรามีความรู้สึกว่าไม่น่าเลย เราน่าจะถอยออกไปเลย แต่มันเหมือนกับว่าถ้าคนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ไม่ได้อยู่ในจุดนั้นอาจจะไม่เข้าใจ ทนอยู่อย่างนั้นทำไม เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนอบอุ่น นิสัยดี จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนดี แต่ว่าคือเราก็ไม่รู้ว่าเขามีอีกคนหนึ่ง

ใน 4 ปีเรียกว่าหลอกตัวเองไปวัน ๆ ได้ไหมพี่แคท ?

          แคท : ก็หลอกตัวเองนะ แต่ไม่ได้หวังว่าเขาจะมาเป็นของเรา เราก็มีความรู้สึกว่าเขาก็มีปมของเขาเหมือนกัน ขาดความรัก ขาดความอบอุ่น เราเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นมาก คือเราพร้อมที่จะให้คนที่ขาด แล้วมันมีความรู้สึกว่าเราซ่อมเขาได้ มันกลายเป็นว่าซ่อมไปซ่อมมา แต่เหมือนเขารับในสิ่งที่เราให้เขาไม่เป็น หรือสิ่งที่เราให้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรือเปล่า แต่เราพร้อมที่จะให้ เราศรัทธาในความรักมาก ๆ เป็นความรักที่โอลด์สคูลมาก ๆ

เชื่อว่าช่วงนั้นคนรอบข้างเตือนเยอะมาก ๆ ใครเตือนบ้าง ?

          แคท : เยอะค่ะ ไม่ว่าจะเพื่อนหรือครอบครัว ออกมาเหอะ อย่าเจ็บกว่านี้เลย ถามว่าเจ็บไหม มันมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกเสียใจมาก ๆ ทำไมเขาไม่ปกป้องเรา ไม่ต้องถึงขนาดออกตัวปกป้อง แต่คืออย่างน้อยก็ไว้หน้าเราบ้างหรือให้เกียรติเราบ้าง เราไม่ได้เป็นคนที่เข้าหาเขา เขาเป็นคนที่เข้าหาเรา ในเมื่อคุณมาจีบเราแล้วทำไมไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นของเรา อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนที่ให้อย่างเดียวจนรับไม่เป็น

ตอนที่มีคนเตือน เพื่อนก็เตือน คนในวงการก็เตือน นอกวงการก็เตือน ?

          แคท : ถามว่าเรารับฟังไหม  รับฟัง แต่พร้อมที่จะตัดไหม เราก็แบบทนอีกสักหน่อยเหอะ เดี๋ยวเขาก็กลับมาเป็นคนเดิมที่เรารักตอนนั้น แล้วมันเป็นการหลอกตัวเอง คือจะเรียกว่าช่วงโปรโมชั่นก็ได้ที่เรามีความรู้สึกว่าเขาจะกลับไปเป็นช่วงนั้นเหมือนเดิม มันก็เลยหลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ พอถึงลิมิต มีแต่คนบอกว่าโคตรอดทน เราเป็นคนที่อดทนมาก ๆ แต่เพื่อความรักที่เรามีให้เขาเราก็ทนไปเรื่อย ๆ พอถึงลิมิตตัดเลย

แล้วจุดแตกหักคืออะไร ?

          แคท : ไม่ให้เกียรติแคท ต่อหน้าแคทเลยแล้วต่อหน้าคนอื่นด้วย ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยแต่ครั้งนี้คือหยามใจเรามาก ๆ จนเราแบบ โอเค พรุ่งนี้ไม่ต้องเจอกันแล้ว แล้วเราก็ไม่ได้บอกเขาด้วยนะ เราเดินออกมาของเราเองเลย เขาก็ถามถึงว่าหายไปไหน พี่คนนั้นเขาก็บอกว่าแคทไปแล้ว

งั้นแสดงว่าแคทไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย คือหันหลังแล้วเดิน ?

          แคท : ใช่ คือเราออกเลย ออกจากชีวิตเลย

ทางเขาง้อเราไหม ?

          แคท : ไม่ แต่รู้ว่าเขาถามถึง แต่เราก็ถึงลิมิตแล้วจริง ๆ

จากวันนั้นที่เราเดินออกมาจนถึงวันนี้นานเท่าไหร่แล้ว ?

          แคท : ประมาณ 2 ปีกว่า

ทำใจได้ยัง ?

          แคท : ทำใจตั้งแต่วันนั้นเลย ก็คุยกันได้ แต่ถ้าจะกลับมาคบกันอีกทีต้องเคลียร์กันเยอะ ค่อยว่ากันอีกที แต่ปกติแคทถ้าเลิกก็คือเลิกเลย แล้วไม่ต้องกลับมาคบกันอีกเลย

แต่แคทบอกว่าถ้าจะคุยกันจริง ๆ ต้องเคลียร์หลายอย่างมาก แสดงว่ายังเปิดใจอยู่ ?

          แคท : ค่อยว่ากัน (หัวเราะ)

ตอนนี้ถอยออกมาแล้วใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองได้แล้ว อยากให้พี่แคทบอกอะไรกับคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน ?

          แคท : เข้าใจเลยนะ คือมีเพื่อน ๆ หรือคนรอบข้างพยายามเตือนเรา ถามว่าเราฟังไหม รับฟัง แต่ก็อยู่ที่ตัวตนของคนคนนั้น คือถ้ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่ออนาคตของตัวเอง ไม่ได้ทำให้อนาคตของเราดี ก็พยายามตัดใจ พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ตัดวันนี้อาจจะตัดไม่ได้ ตัวของคุณรู้อยู่แล้วว่าลิมิตของคุณแค่ไหน จุดไหน ทำใจได้ปุ๊บ ถ้าไม่มีอนาคตกับคนนั้นหรือมันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่าเสียเวลา ชีวิตของเราสั้น เราจะอยู่อีกนานแค่ไหนไม่รู้ เราควรที่จะกอบโกยความสุขให้ตัวของเราเอง

แคทรียา อิงลิช

ปัจจุบันปิดตายเรื่องความรักหรือยัง ?

          แคท : ไม่ เราเจอเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดี เราก็ถือเป็นประสบการณ์ของเราก็แล้วกัน ถามว่าทำเราเปลี่ยนไหม เราก็ไม่เปลี่ยน ถ้าถามว่าจะแต่งงานไหม เรามีความรู้สึกว่าอายุขนาดนี้แล้ว มันเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง ปัจจุบันความสำคัญของชีวิตคู่มันเปลี่ยนไปเยอะจากสมัยก่อน การแต่งงานมันไม่ใช่ทุกอย่าง การที่เราอยู่เป็นชีวิตคู่ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เคียงข้างกันไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้ายอะไรก็แล้วแต่ เราจะอยู่เคียงคู่กัน

แล้วถ้าอนาคตมีคนที่ใช่สำหรับเรามากเลย แล้ววันหนึ่งเขาคุกเข่าขอแต่งงาน แต่งไหม ?

          แคท : ไม่ปิด ไม่ปิดว่าจะไม่แต่งงานเลย แต่อย่างที่บอกว่าสิ่งที่สำคัญคือจิตใจของเราสองคน มันไม่ใช่แค่มีงานแต่งงานแล้วอีกปีสองปีหย่ากัน คู่ของเราต้องเป็นเหมือนเพื่อนของเรา ไม่โกหกกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง

ยังทุ่มเทกับความรักอยู่ไหม ?

          แคท : ทุ่มเทค่ะ

หนุ่มแบบไหนที่จะจีบแคทได้ ?

          แคท : ขอความจริงใจ ไม่ชอบคนอวดโน่นอวดนี่ จริงใจ ตรง ๆ ไม่เอาโปรโมชั่น

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แคทรียา อิงลิช ย้อนเล่ารักสุดช้ำ เจอคนเจ้าชู้-โดนหลอก-รักสามเส้า ลั่นชีวิตนี้ไม่คิดแต่งงาน อัปเดตล่าสุด 18 พฤษภาคม 2564 เวลา 11:48:19 11,515 อ่าน
TOP