x close

เมญ่า นนธวรรณ เตรียมโบกมือลา ! ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เพื่ออนาคตที่ดีของลูก

          เมญ่า นนธวรรณ รับเตรียมแพลนย้ายประเทศไปอยู่สเปน เผยทำเพื่ออนาคตของลูกอย่างจริงจัง แต่ยังไม่ทิ้งวงการแน่นอน
เมญ่า นนธวรรณ

ภาพจาก Instagram maeyagirl


          ขึ้นแท่นสวมมงเป็นดาวในโลกออนไลน์ไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับคุณแม่สุดแซ่บอดีตนางงาม เมญ่า นนธวรรณ บรามาซ ล่าสุดได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เผยถึงคลิปที่เธอทำว่ามาจากความตั้งใจของตัวเธอเองทั้งหมด แถมยังถ่ายเองตัดเองอีกต่างหาก พร้อมยังเผยแพลนในอนาคตที่วางไว้ว่าเตรียมตัวย้ายไปอยู่ต่างประเทศแบบจริงจังเพื่อลูก แต่ยังไม่ทิ้งวงการแน่นอน

         เป็นดาราสาวสุดแซ่บเจ้าแม่คอนเทนต์อีกคน สำหรับอดีตนางงาม เมญ่า นนธวรรณ บรามาซ ที่กลายเป็นเจ้าแม่ TikTok ติดเทรนด์ฮิต เพราะเธอไอเดียเก๋ไก๋สุดบรรเจิด สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่เห็นจนกลายเป็นรายได้ที่ตามมา ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ถึงเรื่องการทำคลิปและแพลนในอนาคตที่วางไว้ว่าเตรียมตัวย้ายไปอยู่ต่างประเทศแบบจริงจังเพื่อลูก

เมญ่า นนธวรรณ

ตอนนี้คือไป-มาระหว่างไทยกับสเปน แล้วเราใช้หลักอะไรว่าตอนนี้เราจะอยู่ที่ไหน ?

          เมญ่า : มันแล้วแต่สิ่งแวดล้อมมากกว่าค่ะ ตอนนั้นที่เลือกจะกลับมาที่ไทยเพราะว่าที่ไทยสงบกว่าในเรื่องของโควิด ตอนนั้นก็ไม่ค่อยจะมีเคสแล้ว แล้วบ้านโน้นวันละ 3-4 หมื่นคน เพราะฉะนั้นเราเลยคิดว่าเรากลับมาอยู่ที่ไทยดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของลูกด้วย เราก็ไม่กล้าพาเขาออกไปไหนเลย

เวลาที่ไปอยู่ไกลบ้านไกลเมือง เวลาที่มีคนโทร. ไปหาเราน่าจะดีใจ แต่เมญ่ากลับไม่ชอบเลยเวลาที่มีโทรศัพท์จากที่บ้านโทร. ไปหา ?

          เมญ่า : คือถ้าเป็นเพื่อนโทร. มารีบรับเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นครอบครัวโทร. มาเราจะใจไม่ดี มันจะมีความกลัวว่าเวลาที่เรารับสายที่บ้านจะเป็นอย่างนี้นะ มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า คือเรากลัวค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้ คือมันทำใจไม่ได้ถ้าเกิดมันเกิด แล้วพอเราเห็นเบอร์จากที่บ้านโทร. มาคือเราใจเต้นรัว ๆ ตลอดเลย แต่จริง ๆ แล้วเขาโทร. มาหาเราเพราะว่าเขาคิดถึง แล้วก็มีช่วงหนึ่งที่ลูกเกิดอุบัติเหตุที่หมากัดน้อง คุณยายเขาก็อยากคุยกับหลาน เขาก็จะวิดีโอคอล หนูก็แบบไม่อยากให้เขาเห็นเลยว่าหลานเจ็บ ซึ่งเราก็ต้องลงรูปหลานตลอด แต่เราก็แต่งก่อนลงด้วย

          โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่ได้เห็นช่วงที่เขากัดลูกเรา เพราะเราทำอาหารอยู่ แล้วคุณสามีอยู่กับลูกคุยโทรศัพท์ แล้วหมาก็เดินตามเข้าไปด้วย ซึ่งก็เป็นหมาของสามีที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เราก็ถามเขาว่าน้องไปตีน้องหมาไหม ก็ไม่ได้ตีหรือทำอะไร แต่หมาเขาอาจจะรำคาญ เขาก็เลยกัดที่หน้า แล้วเนื้อที่หน้าเขาเลย แล้วภาพที่เราเห็นคือเลือดเต็มหน้าลูกเราเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภาวนามาตลอดว่าเกิดอะไรขึ้นขออย่าให้เกิดขึ้นที่หน้าของลูกเราเลย

เมญ่า นนธวรรณ


แล้วเราไว้ใจหมาตัวนี้อีกไหม ?

          เมญ่า : ไม่เลยค่ะ เราบอกเขาว่าถ้าอยากเลี้ยงเรากลับบ้านเลยนะ เขาก็แบ่งเขตในบ้านให้ เพราะคุณพ่อเขาเป็นคนที่เลี้ยงรวมกับคน แล้วคือเด็กมันค่อนข้างจะคุมยาก

ที่บอกว่าไม่สามารถให้คุณยายรู้ได้เพราะว่าคุณยายรักหลานมาก ไม่เคยตีเลย ?

          เมญ่า : ใช่ค่ะ เพราะด้วยความซนของลูกหนู คือสามารถหล่นลงมาแล้วไหปลาร้าหักได้ คือซนแบบลิงเรียกพี่ จนเราต้องยกมือไหว้ลูกแล้วบอกเขาว่าขอร้องเถอะลูก พอก่อน ซึ่งเวลาที่เราอยู่ที่สเปน คือถ้าเขาดื้อเราจะบอกให้เขาไปสงบอยู่ในห้อง หรือเข้ามุม ซึ่งพอมาที่ไทย แม่บอกเราว่าเราเอาลูกไปขังไว้ แต่คือทุกครั้งที่เราให้เขาอยู่ในห้อง เราก็นั่งอยู่กับเขารอจนกว่าเขาจะสงบนะคะ วิธีการเลี้ยงของเรากับแม่ไม่เหมือนกัน เราก็เลยต้องปล่อยให้แม่ทำแบบเอาที่เขาสบายใจที่จะทำไปเลย แล้วค่อยไปปรับใหม่ที่โน่นค่ะ

แต่เร็ว ๆ นี้เรากำลังย้ายไปอยู่ที่สเปนแล้ว จะเรียกได้ว่าเมญ่ากึ่ง ๆ ที่จะลาวงการบันเทิงเลยไหม ?

          เมญ่า : ไม่ได้เชิงจะลาวงการค่ะ ดูงานมากกว่า เราก็พยายามรับงานที่จะแบบว่าไม่ผูกมัดตัวเองมาก งานที่เราสามารถบินไปบินกลับได้ แต่ ณ ตอนนี้เราก็ต้องวางแผนไว้ก่อนว่าน้องกำลังจะ 3 ขวบแล้ว เราก็เริ่มที่จะวางแผนดูที่ดูทางเรื่องของการเรียนแล้วก็อยากให้น้องเรียนที่โน่น อาจจะต้องวางแผนว่ายังไงให้การเรียนของลูกโอเคแล้วไม่กระทบกับงานแม่ แต่แม่ก็ต้องเน้นทางโน้นเป็นหลัก มันเหมือนการวางแผนล่วงหน้า เพราะว่าเราไม่รู้ว่าตอนไหนจะเกิด เพราะขนาดที่เราใช้ชีวิตกันอยู่ดี ๆ แล้วโควิดก็เข้ามา ชีวิตพังกันก็เยอะ

          แต่ถ้าเราไปอยู่โน่น สิ่งที่เรากังวลที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องสุขภาพของพ่อกับแม่ เราไปอยู่โน่นคือคนในครอบครัวเราต้องอยู่แบบโอเคนะ พี่สาว พี่ชาย สามารถดูแลท่านแทนเราได้ในระหว่างที่เราอยู่ที่โน่น วางแผนเรื่องการเงินว่าเขาต้องใช้เท่าไหร่ ที่เรากลับมารอบนี้คือเราก็พยายามหาเงินเพื่อที่จะได้เก็บไว้ตามแผนที่เราวาง ซึ่งมารอบนี้เรากลับมาก็ผิดแผนจากที่ว่าเรามาหลายเดือนน่าจะมีงานเยอะ แต่ปรากฏว่า 3 เดือนคือไม่มีงานเลย ที่มาในรายการ ต้มยำอมรินทร์ คืองานแรกในรอบ 3 เดือนเลยค่ะ  

          ตอนนี้ก็อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนเลย เพราะเมญ่าเชื่อว่าในสถานการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้มันเกิด สิ่งที่ทำได้คือทำใจแล้วก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับมันให้ได้มากที่สุด หาโอกาสเท่าที่เราจะทำได้ ขอให้สถานการณ์แย่ ๆ นี้ผ่านไปโดยเร็ว ทำให้เราทุกคนกลับมาใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขโดยเร็วกับครอบครัวค่ะ

เมญ่า นนธวรรณ

ภาพจาก Instagram maeyagirl


อยู่ดี ๆ เข้าสู่วงการ TikTok ได้ยังไง ทำไมถึงเลือกที่จะมาอยู่เป็นดาวในวงการนี้ จะมาโดดเด่นในนี้ ?

          เมญ่า : เอาจริง ๆ มันไม่ได้เริ่มจากการตั้งใจจะโดดเด่นค่ะ แต่เป็นความไม่รู้จะทำอะไรในช่วงโควิดปีแรก มันเป็นความว่างของคนที่ไม่รู้จะทำอะไรนอกจากเลี้ยงลูก เราก็คิดว่าว่าง ๆ เราก็แก้เครียด ยังไงเราก็มีความสามารถอยู่เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นความสุข เป็นทางเดียวที่เราจะสามารถทำให้คนอื่นได้ เพราะว่าเราไม่ได้มีเงินเยอะ ก็เลยคิดว่าเปลี่ยนให้คนมีความสุขในการได้ดูคลิปเราดีกว่า

           เริ่มจากไม่ได้ทำอะไรมาก จนมันมีบางคลิปที่เริ่มดัง คงเป็นคลิปพี่เจ้ย ที่ดังแรก ๆ เลย ซึ่งคลิปนั้นเราทุ่มเทมาก ถ่ายจนถั่วงอกในจานคือทานหมดเลย คือเราเป็นคนที่ทำอะไรเราจะทำให้สุดเพื่อให้คนดูสนุก แล้วเราก็ไปดูคลิปต้นฉบับเขาทำอะไร เขาพูดอะไร แล้วก็มานั่งคิดว่าเราจะทำอะไรให้มันคล้ายกับเขา หรือว่าเราจะทำอะไรตรงไหนให้มันเปลี่ยนให้มันต่างจากเขา เพราะว่าไม่ใช่ทุกอันเราจะมาก๊อบปี้ให้เหมือนเขาทุกอันก็ไม่ได้ เหมือน 1 คลิป 1 คำพูด มันสามารถแสดงได้หลายแบบ เราจะเห็นได้ว่าครีเอเตอร์แต่ละคนก็จะมองภาพไม่เหมือนกัน

มีกำหนดไว้ว่าต่อ 1 อาทิตย์จะต้องทำคลิปออกมาให้ได้กี่อัน ?

          เมญ่า : มีค่ะ ช่วงที่เราอยู่ที่ไทย มีลูกค้าเริ่มสนใจให้เรารีวิว เราก็ต้องมานั่งคิดจะขายยังไงให้ลูกค้า คุยกับลูกค้าว่าอยากได้แบบไหนคะ ก็คิดไอเดียแล้วไปเสนอ แล้วเราก็ทำกราฟให้เขาดู ต้องจริงจังเลย เราให้เขาเลือกว่าชอบแบบไหน อันไหนลูกค้าโอเคที่สุด ก็ต้องวางแผนว่าถ้าลูกค้าเป็นสีนี้ เราก็ต้องไปหาชุดที่ใส่แล้วเข้ากับแบรนด์ของเขา ส่วนเวลาถ่ายเมญ่าก็ไม่ได้มีทีมหรือว่าอะไรค่ะ คนเดียวเลยค่ะ เราก็ตั้งกล้องเอาค่ะ แล้วก็ตัดต่อเอาค่ะ เหมือนบางคลิปเรามีไอเดียว่าอยากจะแต่งตัวแบบนี้ แต่งตัวชุดไทย เราก็ต้องไปประสานหาชุดไทย แต่งหน้า ทำผมเอง แล้วให้คนที่บ้านถ่ายให้ค่ะ จะมีบางคนว่าทำแบบนี้ไร้สาระ เปล่าประโยชน์ เปลืองเวลา แต่บางคนไม่รู้นะว่าจริง ๆ แล้วงานแบบนี้คือเป็นตัวที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้นะ

มาอัปเดตกันต่อกับคุณลูก ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้วเอ่ย ?

          เมญ่า : ตอนนี้ 2 ขวบ 9 เดือนแล้วค่ะ ตอนนี้ถ้าถามว่าแฮปปี้กับชีวิตระดับไหน ก็ระดับหนึ่งนะคะ ด้วยความที่อยู่ไทยด้วย ตอนที่อยู่สเปน เราก็จะมีความอยากหลายอย่างที่แบบว่าทำไม่ได้ คิดถึงเพื่อน อยากจะไปกินอันนี้ก็ไปไม่ได้ ทำไม่ได้ ซึ่งก่อนที่เราจะกลับมาไทยเราก็จะจดไว้เลยว่าเราอยากจะทานอะไร

ภาพจาก Instagram  maeyagirl

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมญ่า นนธวรรณ เตรียมโบกมือลา ! ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เพื่ออนาคตที่ดีของลูก อัปเดตล่าสุด 2 กรกฎาคม 2564 เวลา 15:13:47 21,523 อ่าน
TOP