ช่องคลอดมีกลิ่นไม่พึงประสงค์
เกิดจากอะไรบ้าง
รู้หรือไม่ว่า กลิ่นที่ออกมาจากน้องสาวเรามีหลายกลิ่น แต่ละกลิ่นมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- กลิ่นปลาเค็ม
กลิ่นนี้เป็นการส่งสัญญาณแล้วว่าระบบร่างกายภายในไม่ปกติ เป็นอาการของภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย หรืออาจจะเกิดจากการหมักหมมเนื่องจากไม่ได้เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ และอีกสาเหตุคือติดเชื้อไตรโคโมแนส ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กลิ่นแบบนี้อันตราย ต้องรีบพบแพทย์ด่วน
- กลิ่นเปรี้ยว
กลิ่นเปรี้ยวนี้เป็นปกติเมื่อร่างกายได้รับอาหารที่เป็นกรดเข้าไป เพื่อสร้างแลคโตบาซิลัส ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีต่อช่องคลอด ดังนั้น ถ้ามีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อยก็ไม่ต้องตกใจ เพราะไม่เป็นอันตรายค่ะ
- กลิ่นทองแดง
หรือกลิ่นคล้ายโลหะ ช่องคลอดมักจะมีกลิ่นแบบนี้ขณะที่เป็นประจำเดือน เพราะเลือดของเรามีธาตุเหล็กผสมอยู่ กลิ่นแบบนี้ถือว่าร่างกายเป็นปกติ ไม่มีอันตรายเช่นเดียวกัน แต่หากมีกลิ่นนี้อยู่หลังประจำเดือนหมด และมีเลือดออกนอกเหนือจากช่วงรอบเดือน ประกอบกับมีอาการคัน ควรปรึกษาแพทย์
- กลิ่นฉุนคล้ายเคมี
กลิ่นฉุนเหล่านี้เรียกง่าย ๆ ว่ากลิ่นแอมโมเนีย ที่ประกอบอยู่ในปัสสาวะ ซึ่งถ้าปัสสาวะมีกลิ่นแอมโมเนียแรงเกินไป อาจเป็นสัญญาณของภาวะขาดน้ำ หรือภาวะช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย
- กลิ่นคล้ายกลิ่นตัว
จะเป็นกลิ่นเหม็นแบบเดียวกับกลิ่นใต้รักแร้ สาเหตุอาจจะมาความเครียดและส่งผลไปยังต่อมเหงื่อ ร่างกายของคนเรามีต่อมเหงื่อ 2 ประเภท คือ Apocrine และ Eccrine ซึ่งจะช่วยผลิตเหงื่อเพื่อให้ร่างกายเย็นลงและลดความเครียด เจ้าต่อมนี้นอกจากที่รักแร้แล้วยังอยู่ที่ขาหนีบด้วย จึงส่งผลให้มีกลิ่นออกมาจากน้องสาวนั่นเอง
น้องสาวเหม็นทำไงดี
เมื่อจุดซ่อนเร้นเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เราก็ต้องรีบหาวิธีแก้ไข ทำยังไงได้บ้าง มาดูกันค่ะ
- ปรับเปลี่ยนอาหาร - อาหารบางชนิดส่งผลต่อกลิ่นในช่องคลอดได้ โดยเฉพาะอาหารแปรรูป หากใครกินอาหารแปรรูปหรือของหมักดองบ่อย ๆ แล้วรู้สึกว่าน้องสาวมีกลิ่น ลองปรับมากินพวกผักและผลไม้ให้เยอะขึ้นเพื่อดีท็อกซ์ กลิ่นไม่พึงประสงค์จะค่อย ๆ หายไป
- ใส่กางเกงชั้นในที่สะอาด - เลือกกางเกงชั้นในที่เป็นผ้าฝ้ายที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ใส่กางเกงชั้นในที่รัดมากจนเกินไป และทำความสะอาดกางเกงชั้นในให้ดี ๆ จะช่วยทำให้ไม่เกิดการอับชื้น อันเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นของน้องหนูค่ะ
- เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังออกกำลังกาย - บริเวณขาหนีบนั้นมีต่อมเหงื่อที่จะส่งผลให้น้องสาวมีกลิ่น ดังนั้นควรทำให้ขาหนีบแห้งที่สุด และวิธีที่ดีที่สุดคือหลังออกกำลังกายจนเหงื่อซ่กก็ควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
- อย่าสวนล้างช่องคลอด - ช่องคลอดของเรามีกรดด่างและแบคทีเรียตามธรรมชาติอยู่ การล้างน้ำเปล่าแค่ภายนอกก็เพียงพอแล้ว ห้ามฉีดน้ำเข้าไปในช่องคลอดเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสียสมดุลที่ละเอียดอ่อนได้ เผลอ ๆ ช่องคลอดอักเสบอีกต่างหาก
- หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ - อย่างที่บอกว่าช่องคลอดมีแบคทีเรียดีอยู่แล้ว และสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ตามธรรมชาติ การใช้สบู่อาจทำให้แบคทีเรียดีเสียสมดุล ทำให้เกิดกลิ่นหรือติดเชื้อได้
- เปลี่ยนผ้าอนามัยและแผ่นอนามัยบ่อย ๆ - ผ้าอนามัยและแผ่นอนามัยนั้นดูดซับของเหลวจากร่างกาย ซึ่งเป็นต้นเหตุของความอับชื้น หากหมักหมมนาน ๆ ก็จะก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นควรเปลี่ยนทุก ๆ 2-4 ชั่วโมง เพื่อความแห้งสะอาด ปราศจากกลิ่น
- ปรึกษาแพทย์ - หากลองมาหลายวิธีแล้วแต่ยังมีกลิ่นจากน้องสาวอยู่ อาจจะมีปัญหาเรื่องระบบภายใน ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการรักษาหรือรับยาฆ่าเชื้อต่อไปค่ะ
การที่น้องสาวมีกลิ่นเหม็นแม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดได้กับทุกคน แต่จะดีกว่าถ้าจิ๊มิสะอาดไร้กลิ่น สังเกตตัวเองดี ๆ และดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง กลิ่นไม่พึงประสงค์จะได้ไม่กลับมาอีก
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, patient.info, mayoclinic.org