ษา วรรณษา ตอกกลับเจ็บ ๆ โดนดราม่าลูกลิ้นแข็ง พูดสำเนียงอินเตอร์ คำถามใจร้ายกับน้องมาก

          ษา วรรณษา เผยลูกชาย น้องเซย์เดย์ ท้อหนักเรียนออนไลน์ การบ้านเยอะ ไม่รู้จะช่วยลูกยังไง เพราะเป็นกันทั้งโลก พร้อมเปิดใจวิธีรับมือลูกชายเป็นเด็กพิเศษ กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น - คนดราม่าลูกเป็นคนไทยแต่พูดสำเนียงอินเตอร์
ษา วรรณษา

ภาพจาก คุยแซ่บShow


          ทำเอาหัวอกคนเป็นแม่อย่าง ษา วรรณษา รู้สึกสงสารลูกชาย น้องเซย์เดย์ วัย 15 ปี จับใจ หลังลูกเผยว่าไม่อยากเรียนออนไลน์แล้ว เพราะการบ้านเยอะมาก โดยล่าสุด (6 ตุลาคม 2564) ษา วรรณษา ควงลูกชายและแฟนหนุ่ม อาท รณชัย มาพูดคุยเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง one31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

อ่านข่าว : ษา วรรณษา พูดจากใจซิงเกิลมัม สงสารลูกเรียนออนไลน์ เราช่วยลูกไม่ได้ เครียด !

ครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ควงลูกชายออกสื่อ ?

          ษา : เพิ่งมาออกเต็ม ๆ แบบนี้ครั้งแรก
          เซย์เดย์ : ปีนี้ผมอายุ 15 ปีแล้ว

ทำไมก่อนหน้านี้ไม่พาลูกออกสื่อเลย ?

          ษา : ก่อนหน้านี้มีการบำบัด พูดคุยกับลูกตลอดเวลา ได้ออกทีวี แต่เราต้องรู้ว่าเวลาไหนเหมาะสมและเขาพร้อมที่จะตอบคำถาม

ทำไมถึงเรียกน้องว่าพิเศษ ?

          ษา : เซย์เดย์เป็นเด็กพิเศษในกลุ่มออทิสติก เป็น LD (ภาวะการเรียนรู้บกพร่อง) และสมาธิสั้น เป็นทั้งหมด 3 อาการ ตั้งแต่ขวบแรกเลย มีการบำบัดมาตลอด 4 ปีแรก ตั้งแต่ 1 ขวบ จนถึง 4 ขวบ ค่อนข้างรุนแรงกับแม่ เพราะคนรอบตัวต้องปรับตัวทั้งหมด เพื่อจะมาดูแลเขาว่าเขาจะได้รับการดูแลแบบไหน บำบัดแบบไหน

ษา วรรณษา

ภาพจาก คุยแซ่บShow


การดูแลเป็นอย่างไร และต้องปรับตัวอย่างไร ?

          ษา : อย่างแรกคุณแม่ต้องสังเกตก่อนว่าลูกมีความผิดปกติไหม ในเคสของษาคือลูกไม่มีอายคอนแทค เวลาเรียกแล้วไม่หัน อันที่สองคือเดินผิดปกติ ทรงตัวไม่ค่อยได้ อันที่สามก็จะมีความพิเศษทางจีเนียสนิดหนึ่ง เขาค่อนข้างจำอะไรเก่งและเร็ว ครั้งเดียวจำได้เลย แล้วษาก็กลายเป็นคนช่างสังเกตด้วย จึงรู้ไปตามลำดับขั้นก่อน แล้วที่ดูแลจริง ๆ เวลาเขาไม่ได้ดั่งใจ ประมาณสัก 2-3 ขวบ เขาก็ข่วนหน้าตัวเอง เราก็ไม่อยากให้ลูกทำร้ายตัวเอง

เซย์เดย์ออกทีวีตื่นเต้นไหม ?

          เซย์เดย์ : ตื่นเต้นอยู่ครับ ตอนที่ Swap ตื่นเต้นกว่า

คุณแม่มีวิธีรับมือกับพฤติกรรมของลูกยังไง ?

          ษา : เรื่องของทำร้ายตัวเอง เวลาที่รู้แล้วว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์โมโห ก็จะเลี่ยงใช้คำอื่น ใช้การแสดงอื่น ๆ ประกอบกับเขาอีกทีหนึ่ง ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดความชิน พอมองตาแล้วก็จะรู้ว่าถ้ามีอาการแบบนี้ปุ๊บจะเลี่ยงไปทำอย่างอื่น ซึ่งบางคนหรือคนนอกก็จะบอกว่าสปอยล์ลูกเกินไป แต่จริง ๆ เขาคือเด็กพิเศษ ความพิเศษก็ต้องพูดพิเศษ ทำพิเศษเช่นเดียวกัน

ลูกรู้ไหมว่าตัวเองเป็นแบบนี้ ?

          ษา : ทราบค่ะ ษาบอกเขาตลอด เพราะว่าเขาจะต้องกินยา เราก็ต้องบอกว่ายานี้ช่วยอะไร ทำอะไร จะต้องกินไปตลอดเพราะอะไร

ษา วรรณษา

ภาพจาก คุยแซ่บShow


เซย์เดย์รู้ไหมว่ารู้สึกตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น ?

          เซย์เดย์ : รู้ครับ ตอนแม่บอกว่าเป็นเด็กพิเศษ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนคนทั่ว ๆ ไป เวลาทำอะไรก็เหมือนคนทั่ว ๆ ไป

          ษา : เขาทำอะไรก็เหมือนคนทั่วไป เราเลี้ยงเขาแบบให้อยู่โรงเรียนปกติ ไม่ได้ไปโรงเรียนพิเศษ เพราะเราบอกเขาว่าลูกไม่ใช่คนที่ผิดปกติ เพราะฉะนั้นลูกก็ควรอยู่กับคนปกติ พยายามทำให้เหมือนคนอื่นให้ได้

ต้องกินยาตลอด ?

          เซย์เดย์ : ใช่ครับ เรียกว่ายาเด็กดี

          ษา : พอทานแล้วเขาจะมีสมาธิในการเรียน ต้องบอกก่อนว่ายาชนิดนี้ที่ทาน เด็กพิเศษก็จะกินแตกต่างกัน ษาถามคุณหมอแล้วว่ามันผิดปกติขนาดนี้ต้องกินยาและต้องทานนานเท่าไร ยานี้จะเข้าไปทำลายสมองเด็กไหม ไปกดประสาทไหม ษาถามหมดเลย คุณหมอบอกว่าจริง ๆ แล้วสมองจะมีการหลั่งสารเคมีอยู่ 3 ตัว พอมันหลั่งมาไม่เท่ากันมันจะไม่มีสมาธิ หรือถ้าไม่หลั่งออกมาก็ไม่ได้ การกินยานี้เข้าไปมันจะเป็นการหลั่งสารเคมีออกมาเท่ากัน แล้วจะมีสมาธิอยู่ประมาณ 6-8 ชั่วโมงต่อวันต่อโดส

แล้วความถี่ที่น้องต้องรับประทาน ?

          ษา : เขาโตขึ้นแล้ว ก็กินประมาณ 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น

เซย์เดย์ให้ความร่วมมือกับคุณแม่อย่างดีใช่ไหม ?

          เซย์เดย์ : ครับผม ก็ไม่เคยไม่อยากกินยา

เมื่อรู้ตัวแล้วว่าลูกเราผิดปกติ จะเริ่มอย่างไรในการไปหาคุณหมอ ?

          ษา : เราต้องรู้เลยว่าลูกเราพิเศษจริง ๆ ลูกเราผิดปกติจริง ๆ  อันแรกเลยที่สังเกตได้คือ จับไม่อยู่ ลูกไม่อยู่กับที่ เวลาทำอะไรจะไม่มีสมาธิ แบบนี้ควรไปพบคุณหมอ แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็น แต่การที่ไปพบคุณหมอก็เหมือนเมืองนอก ที่มีจิตแพทย์มาดูแลว่าเป็นหรือเปล่า ถ้าเป็นก็จะได้รักษากันเลย ออทิสติกอาการนี้ต้องดูขวบแรก ไม่สามารถที่จะตรวจน้ำคร่ำได้ เรื่องนี้ต้องเจอด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าลูกเป็น พอรู้แบบนี้แล้วไปหาคุณหมอเลย ไม่ต้องอาย

ลูกษา วรรณษา

ภาพจาก คุยแซ่บShow


อะไรที่รับมือยากที่สุด ?

          ษา : น่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่า เพราะตอนนี้เซย์เดย์เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว อารมณ์จะพลุ่งพล่านนิดหนึ่ง เขาเป็นเด็กพิเศษด้วย เป็นวัยรุ่นด้วย แล้วก็เป็นเด็กผู้ชายด้วย ส่วนแม่เป็นผู้หญิง มันก็จะวุ่นวายนิดหนึ่ง แต่เวลาเราคุยกับเขา เขาก็รับฟังในบางครั้ง

เห็นว่าชอบคอมพิวเตอร์ ชอบเขียนโปรแกรม ?

          ษา : คือเขาจะชอบเรื่องคอมพิวเตอร์และภาษา เวลาที่เขาจะทำอะไรก็เข้าไปดูในยูทูบ แม่ก็นั่งดูว่าลูกทำอะไร บางทีก็เป็นภาษาอังกฤษหมดเลย แม่ฟังไม่รู้เรื่อง

มีเหตุการณ์ทำให้คุณแม่ฟิวส์ขาด เกิดอะไรขึ้น ?

          ษา : จริง ๆ มันก็ฟิวส์ขาดอยู่หลายครั้ง บางทีมันเป็นอารมณ์ที่เราไม่ได้อยู่บ้านเฉย ๆ เราออกไปข้างนอก เจออะไรต่ออะไร หรือแม้แต่ขายของออนไลน์ก็เหมือนกัน บางทีก็เจอลูกค้าเหวี่ยงวีนบ้าง ไม่โอนบ้าง อะไรบ้าง ก็มีอารมณ์ของเรา พอมาเจอลูก เขาก็มีอารมณ์ของเขา แล้วมาเจอกันพอดี พอดุเขาตอนเด็ก ๆ จะรู้แล้วว่าอันไหนอาการเขาจะคูณสอง พอเราดุเขา เราก็จะขึ้นไปร้องไห้ตลอดเวลาว่าทำไม ทำมา 15 ปีแล้ว ทำไมเรื่องแค่นี้ทำไม่ได้ แต่ลูกจะเป็นเด็กที่โกรธง่ายหายเร็ว เขาไม่ได้จำว่าเขาโกรธอะไร

เซย์เดย์รู้ไหมว่าคุณแม่ร้องไห้คนเดียว ?

          เซย์เดย์ : เดย์ขึ้นไป บางครั้งก็รู้ บางครั้งก็ไม่รู้ เวลาเห็นคุณแม่ร้องไห้บางครั้งก็เข้าไปปลอบบ้าง พูดกับคุณแม่ว่าขอโทษ อะไรแบบนี้ครับ

          ษา : ด้วยความที่เราเป็นแม่ แล้วอยู่กับเขา 24 ชั่วโมง รู้อาการของเขาหมด การที่เรารู้หมดทุกอย่างมันก็เป็นข้อเสีย มันทำให้เราเป็นห่วงมากกว่าเดิม แล้วทุกวันนี้สิ่งที่ห่วงเขาคือ ถ้าไม่มีเราเขาจะอยู่ได้ไหม ซึ่งเรารู้แหละว่าลูกเก่งมาก แต่ ณ วันหนึ่งถ้าเรารู้ว่าเขาจะต้องอยู่คนเดียว เราทำใจไม่ได้นะ

ล่าสุดเห็นว่าเป็นปัญหาใหม่ที่แม่ต้องรับมือ เมื่อลูกบอกว่าไม่อยากเรียนแล้ว ?

          ษา : จากเด็กชอบเรียน ถ้าไปโรงเรียนเขาจะเรียกว่าออนไซต์ ออนไลน์คืออยู่บ้าน เขารู้สึกว่าไปโรงเรียนเขาโอเคกว่า เราเข้าใจและไม่สามารถลุกขึ้นมาโต้แย้งได้ เพราะมันทั้งโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ก็ต้องยอมรับ

ษา วรรณษา

ภาพจาก คุยแซ่บShow


เซเดย์ไม่โอเคกับการเรียนออนไลน์เหรอ ?

          เซย์เดย์ : บางครั้งก็มีเครียดครับ ถึงจุดที่ไม่อยากเรียน

ทำไมถึงเครียด ?

          เซย์เดย์ : การบ้านเยอะครับ

          ษา : นิสัยเซย์เดย์เขาจะแบ่งเลยว่าอันนี้โรงเรียน อันนี้บ้าน อะไรที่เป็นงานของโรงเรียน เขาจะทำเสร็จที่โรงเรียนหมดเลย

มันต่างกันยังไงระหว่างเรียนที่โรงเรียนกับที่บ้าน ?

          เซย์เดย์ : ถ้าเรียนที่โรงเรียนจะฟังครูตลอด ไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจ พออยู่บ้านมันเบี่ยงเบนไปดูอย่างอื่นได้ง่าย

ถ้าเขาให้เรียนออนไลน์ 1 ปี ไหวไหม ?

          เซย์เดย์ : ก็แล้วแต่การบ้านจะเยอะไหม

ถามถึงคุณอาท แฟนหนุ่ม คบกันมากี่ปีแล้ว ?

          อาท : เข้าปีที่ 5 ครับ

ษา วรรณษา

ภาพจาก คุยแซ่บShow


เห็นว่าสนิทกับน้องมาก ?

          อาท : เขาเป็นเด็กที่พิเศษ แต่สำหรับผมเขาเหมือนปกติ ผมก็ลองคุย ลองเล่น เราก็ได้รับสิ่งใหม่ ๆ จากเขามามากพอสมควรเหมือนกัน

เห็นว่าเซย์เดย์สนิทกับคนยากมาก แล้วมาสนิทกับพี่อาทได้ไง ?

          ษา : เดย์เขาเป็นคนไม่สนิทกับใครก็จริง แต่เขาเป็นคนดูคน ถ้าคุยดีด้วยเขาก็คุย เขาไม่ได้แอนตี้

อะไรที่ทำให้เปิดใจให้คนคนนี้เข้ามา ?

          ษา : เมื่อก่อนษาอาจจะแสบ แต่พอมีลูก ษาก็เปลี่ยนไป พอเขาเข้ามา สิ่งที่ษาชอบเลยคือเขาทำงานอาสา เราไปเจอกันที่งานบุญ

          อาท : เมื่อก่อนสวนกันไป-มา แต่ก็ไปเจอกันงานบุญ

          ษา : ษาก็บอกลูกว่าน้าอาทเป็นคนที่ดูแลแม่ ดูแลคุณยาย และดูแลเซย์เดย์ด้วยนะครับ

ทำไมถึงจะจีบผู้หญิงคนนี้ ?

          อาท : ชอบผู้หญิงลุย ๆ พอไปงานบุญ เราก็ได้เห็นว่าเขาช่วยคนอื่น ซึ่งเขาชอบอาสา เราก็เป็นอาสาอยู่แล้ว เราก็รู้สึกว่าเขามีจริตตรงกับเรา

เซย์เดย์อยากบอกอะไรกับคุณแม่บ้าง ?

          เซย์เดย์ : แม่หาเงินมาทั้งชีวิตเพื่อมาเลี้ยงผม ทำทุกอย่างเพื่อผมกับครอบครัว ผมรักแม่ครับ

         อย่างไรก็ตาม มีดราม่าในโลกออนไลน์ถามถึง น้องเซย์เดย์ ด้วยว่า ทำไมเวลาพูดแล้วต้องลิ้นแข็ง มีคำว่า "อ่าม" เหมือนเป็นเด็กอินเตอร์ และขอให้เลิกพูดแบบนี้ ซึ่งชาวเน็ตหลายคนก็มองว่าเป็นคอมเมนต์ที่ใจร้ายมาก พร้อมให้ข้อมูลว่า น้องมีอาการ LD หรือ Learning Disorder ซึ่งในภาษาไทยใช้ชื่อว่า โรคการเรียนรู้บกพร่อง เป็นความผิดปกติของกระบวนการเรียนรู้ที่แสดงออกทางด้านการอ่าน การเขียนสะกดคำ การคำนวณ เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสมอง ทำให้ผลการเรียนของเด็กต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริง

ดราม่าลูกษา วรรณษา

ภาพจาก คุยแซ่บShow
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ษา วรรณษา ตอกกลับเจ็บ ๆ โดนดราม่าลูกลิ้นแข็ง พูดสำเนียงอินเตอร์ คำถามใจร้ายกับน้องมาก อัปเดตล่าสุด 6 ตุลาคม 2564 เวลา 23:22:13 21,459 อ่าน
TOP
x close