x close

เปิดใจ ร่างทรง หนังสุดปังกวาดรายได้ ญดา ทำหลอนจน หนุ่ม กรรชัย สะดุ้ง !

          โหนกระแส พาเปิดใจผู้กับกำกับ - นักแสดง หนังเรื่อง ร่างทรง ทำรายได้พุ่งเกือบ 100 ล้าน กวาดรางวัล 2 ประเทศ สุดปังถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์

          เป็นกระแสโด่งดังอย่างมาก สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “ร่างทรง” ประสบความสำเร็จถึงขั้นได้รับรางวัลที่ประเทศเกาหลี และสเปน อีกทั้งถูกคัดเลือกให้เป็นหนังประกวดชิงรางวัลออสการ์ด้วย

          ล่าสุด วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 หนุ่ม กรรชัย ไม่พลาดเชิญมาร่วมพูดคุยในรายการโหนกระแส ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 เปิดใจสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องหลายท่าน ได้แก่

          โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับร่างทรง
          ญดา นริลญา กุลมงคลเพชร รับบท มิ้ง
          เอี้ยง สวนีย์ อุทุมมา รับบท ย่าบาหยัน
          ผศ.ดร. กังวล คัชชิมา อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาตะวันออก คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร และผู้เชี่ยวชาญด้านจารึกภาษาโบราณ

ล่าสุดทำรายได้เท่าไหร่ ?

          โต้ง : เกิน 90 ล้าน ตอนแรกหวังน้อยมากเพราะมันดีเลย์ไปเยอะ แต่ตอนนี้เกินคาดแล้วครับ

ตอนแรกมีความกังวลใจเพราะก่อนหน้านี้มีหนังผีเถื่อนออกมา แต่ปรากกฏว่าออกมาแล้วตูมจริง ๆ ทำไมถึงทำร่างทรง ?

          โต้ง : จริง ๆ โอกาสนี้คือคนเกาหลีชื่อ นาฮงจิน เขาเป็นผู้กำกับระดับโลก ผมชื่นชมงานเขามาก อยู่ ๆ เขาก็ชวนผมมาว่าอยากร่วมงานด้วย โดยเขาจะเป็นโปรดิวเซอร์ โยนเรื่องมาให้เรื่องหนึ่ง ตอนแรกเขาเขียนเป็นหนังเกาหลีก่อน เรื่องย่อ 30 หน้า เกี่ยวกับร่างทรงเกาหลี แต่เขาอยากให้ทำเป็นหนังไทย ผมก็คิดว่าจะเกี่ยวกันได้ยังไง ก็ลองอ่านและศึกษาดูสารคดีร่างทรงเกาหลีและมาศึกษาของไทย ปรากฏว่ามีลักษณะที่เชื่อมโยงกันเยอะมาก

          ถ้าดูจะรู้ว่าเป็นเรื่องของมิ้ง ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอาการแปลก ๆ เหมือนมีเทพจะมาเข้าหรืออะไรมาเข้ากันแน่ อาการตรงนี้ที่เหมือนกันเด๊ะเลย แล้วสืบทอดในผู้หญิงในตระกูลเท่านั้นก็มีเหมือนกัน

แสดงว่าเกาหลีก็เชื่อเรื่องร่างทรงมาแต่ไหนแต่ไร ?

          โต้ง : เชื่อมาก ถ้าย้อนดูข่าวจะมีข่าวประธานาธิบดีเขาที่เชื่อเรื่องร่างทรงด้วย เอาเงินไปให้ร่างทรง

ร่างทรงเกาหลีกับไทยเหมือนกันไหม เวลาจะเข้าต้องสั่น ?

          โต้ง : ผมว่าแล้วแต่คนเลย ไทยก็เหมือนกัน ผมไปเจอเยอะมาก ทางเหนือทางอีสาน บางคนไม่สั่นเลย บางคนก็สั่น มันแล้วแต่

คุณศึกษาเรื่องนี้เยอะแค่ไหน ?

          โต้ง : ตอนเขาส่งเรื่องมาผมไม่รู้อะไรเลย ผมบอกว่าไม่มั่นใจเลย ขอเวลาศึกษาก่อน ไม่คิดเลยว่าต้องใช้เวลาเป็นปีเพราะมันยากมาก

ต้องไปคุยกับร่างทรงเหมือนในหนังไหม ?

          โต้ง : ใช่ เจอมาทุกรูปแบบ ผมเพิ่งรู้ว่าเมืองไทยมีวิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเรื่องนี้เยอะมาก มีมิติเยอะมาก แล้วไปเจอโปรดิวเซอร์ที่เขาทำรายการแนวหมอปลา เขาเจอร่างทรงในชีวิตมาน่าจะเกินพันคน เขาเลยแนะนำว่าไปจังหวัดไหนจะเจอใครบ้าง ผมไปภาคเหนือ อีสาน ไม่ได้เลือกใต้เพราะรู้สึกว่ามันเกี่ยวกับจีน ๆ กินเจเยอะ ไปมาหมด เจอแบบที่เรารู้สึกโอ้โห โม้เหลือเกิน กับคนที่ดูน่าเชื่อถือมาก ๆ มีทุกรูปแบบจริง ๆ

ตอนที่ดูคิดว่าเอาร่างทรงจริง ๆ มาเล่น คัดเลือกนักแสดงยังไง ?

          โต้ง : พอเรื่องมันเอื้ออยู่แล้ว เราเห็นของเกาหลีตอนแรกเรื่องมันแรงมากและเรื่องน่าสนใจ พอเราพูดว่าจะสำรวจชีวิตร่างทรงในอีสาน เราก็คิดในใจว่าเราจะได้ทำหนังในทิศทางใหม่ ๆ ไม่เอาดาราดังเล่นเลย เป็นเป้าหมายตั้งแต่แรก ต้องเอาคนที่คนดูไม่คุ้นหน้า อาจเคยเล่นมาบ้าง แต่ต้องไม่รู้จักในวงกว้าง เพื่อให้เชื่อจริง ๆ ว่าคนเหล่านี้คือครอบครัวร่างทรงในอีสาน

อย่างพี่เอี้ยง ทำไมเลือกเขามา ?

          โต้ง : ตอนเราเขียนบท เรารู้สึกบทยากมาก เราเลยคิดในใจว่าหรือต้องใช้บริการนักแสดงแวดวงละครเวที เราก็เลยเรียกมาแคสติ้งเต็มไปหมด แต่เห็นแคสพี่เอี้ยง โอ้โห คนนี้คือป้านิ่มเลย ไม่ต้องเลือกแล้ว

ทำไมต้องเป็นญดา ?

          โต้ง : จริง ๆ แคสหลายรอบมาก เขาส่งเทปมาน่าจะรอบที่ 4 - 5 ไม่เจอเลย ผมรู้สึกว่าใครจะเล่นได้ บทยากมาก แต่ทันทีที่เจอเทปญดา ซีนที่ยากที่สุด คือ ซีนผีเข้า เราไม่ได้ใช้ซีจี เขาลดน้ำหนัก 10 กิโล ในเวลาสั้นมาก จากความกังวลมาก ๆ ของผม กลายเป็นโอ้โห ได้มากกว่าที่คิดอีก

รูปปั้นคือรูปอะไร ?

          โต้ง : เทพย่าบาหยัน เทพที่เราสมมติขึ้นมา แต่เราเอาจากข้อมูลที่เราไปเจอร่างทรงเยอะมาก ในหมู่บ้านร่างทรงเขาก็มีรูปเคารพอยู่ในหมู่บ้าน

น้องญดา ทำไมรับเล่นเรื่องนี้ ?

          ญดา : ตั้งแต่ไปแคสครั้งแรก ก็รู้แล้วว่าบทมิ้งโคตรยากเลย แต่หนูชอบความท้าทาย อยากหาทางที่ทำยังไงให้สำเร็จให้ได้ ตัดสินใจไม่ยากเลย อยากร่วมงานกับพี่โต้งด้วย เป็นผู้กำกับที่หนูติดตามมาตั้งนานแล้ว และเล่นทุกฉากเองหมด

มีคนเมาท์ว่าใช้สแตนอินเล่น เสียใจไหมที่เขาว่าอย่างนั้น ?

          โต้ง : ไม่จริง

          ญดา : ไม่เสียใจ เพราะเขาก็คงไม่รู้ค่ะ

ก่อนเล่นต้องเรียนการแสดงไหม ?

          ญดา : เรียนเยอะมากเลยค่ะ หนูได้เรียนกับครูเงาะ พี่โต้งด้วย และนักแสดงทุกคน ก่อนไปก็ต้องดูวิดีโอเรฟเฟอร์เรนซ์ต่าง ๆ ดูคนที่เขามีอาการผีเข้า คนทรงเยอะมาก ทั้งในไทย ต่างประเทศ วาติกัน พี่โต้งเอาวิดีโอพวกนี้ให้ศึกษาก่อนแล้วเอาไปตีความอีกทีค่ะ

ฝั่งพี่เอี้ยง เรื่องนี้เล่นแล้วยังไง ?

          เอี้ยง : หนังทั้งหมดที่ออกมา ยกเครดิตให้พี่โต้งนะคะ เรามีพื้นฐานการแสดงมาก่อนรวมถึงละครเวทีอะไรก็ตาม แต่ทั้งหมดทั้งมวล คนปรุงให้รสดีขนาดนี้ และภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับหนังที่ประสบความสำเร็จ ทำให้เกิดกระแสการพูดคุยหลายประเด็น เยอะมาก มันฟินมากตอนนี้ (หัวเราะ)

ได้รางวัลแล้ว ?

          โต้ง : ได้รางวัลหนังยอดเยี่ยมที่เทศกาลปูชอน และได้ที่สเปนอีก 2 เทศกาล

กำลังเป็นตัวแทนไทยเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ ?

          โต้ง : ใช่ครับ (หัวเราะ) ผมว่าการเลือกหนังแนวนี้ หนังที่เหมือนเอาฟุตเทสมาตัด เกิดชะตากรรมกับทีมงาน ส่งไปออสการ์ ผมว่าฝรั่งมีเหวอนะ ถ้าข่าวออกไปคนน่าจะสนใจว่าประเทศนี้เลือกส่งหนังแนวนี้ไป ผมว่าเป็นทางเลือกที่กล้าหาญและบ้าบิ่นดีครับ

เขาบอกคนเกาหลี ถึงขั้นให้เปิดไฟในโรงหนังนั่งดู ?

          โต้ง : ตอนหนังฉายรอบสื่อ มีนักวิจารณ์เขียนหลายคนว่าเขาเหนื่อยมาก กับการบีบคั้นไม่หยุด แล้วเขากลัว เขาใช้คำว่าอยากวิ่งออกจากโรง มันเลยเกิดกระแสออกมาและมีคนเรียกร้อง เขาเลยเปิดรอบเปิดไฟสำหรับคนกลัวหนังผี ที่ไทยก็มีจัดไปแล้ว

ส่วนตัวเชื่อเรื่องราวร่างทรงไหม ?

          เอี้ยง : ส่วนตัวเชื่อคนที่เป็นร่างทรงจริง ๆ มันสัมผัสได้ อันไหนโอเวอร์ไปก็ขอใช้วิจารณญาณ

          ญดา : ได้ยินมาตลอดตั้งแต่เด็กและเห็นเองบ้าง มันก็มีคำถามกับตัวเองตลอดว่าจริงไหม  จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ 100 ปอร์เซ็นต์กับเรื่องนี้ แต่มีความเชื่อที่เพิ่มมากขึ้นเพราะประสบการณ์หลากหลายค่ะ

ทำให้ดูต่อหน้าได้ไหม มันยากไหม ?

          ญดา : ต้องเชื่อว่าไม่ใช่เราแล้วค่ะ

          โต้ง : ตอนเห็นตัวแคส ผมกับทีมพูดกันเลยว่าน้องไปอยู่ไหนมา ควรจะดังนานแล้ว เพราะดีดนิ้วเขาก็สามารถเล่นได้เลย

สรุปร่างทรงมีจริงไหม ?

          ดร. กังวล: มีจริงครับ ผมเชื่อว่าถ้าเป็นร่างทรงแบบในหนังมันมีจริง สิ่งเหล่านี้สืบทอดกันมาหลายสิบหลายร้อยปี แวดวงชนบทไม่ได้กว้าง ถ้าจะหลอกกัน มันเห็นกันตั้งแต่เกิดจนตาย มันเห็นในการสืบทอดกันอยู่

ถ้าปู่ย่าตายายเป็นร่างทรงมาตลอด มาถึงยุคเราไม่อยากเป็น ได้มั้ย เพราะในหนังมีบอกว่าพอไม่รับขันธ์ ไม่เป็นร่างทรง จะเกิดความวิบัติในชีวิต ?

          ดร. กังวล: เท่าที่ไปสัมภาษณ์คนที่เป็นร่างทรง ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่ามีแต่ผู้หญิงแต่จริง ๆ เป็นผู้ชายก็มีแต่มีน้อย ผู้ชายที่ไปสัมภาษร์เขาบอกว่าตอนแรกไม่อยากรับ แต่มันมีอาการ ไม่รับปุ๊บก็มีอาการหนักขึ้น แต่พอไปรับขันธ์ รับครูปุ๊บก็ไม่เป็นไร และสามารถช่วยคนอื่นได้ ร่างทรงทำมาหากินได้ปกติ ร่างทรงกับหมอธรรม์จะคล้ายกัน เวลาคนมีความทุกข์มาขอให้ช่วยเหลือ เขาต้องทำ ถ้าไม่ทำจะเกิดอาการเหมือนตอนที่ยังไม่ได้รับขันธ์ แต่บางคนก็ไม่ได้ทำพิธีอะไร เพียงแต่ว่าวันพระต้องปฏิบัติ ไปสวดมนต์ ถ้าเป็นร่างทรงแล้ว ต้องเป็นตลอดชีวิต

การรับขันธ์สำคัญมาก ?

          โต้ง : เขาเชื่อกันอย่างนั้น คนที่ผมไปเจอ ทุกคนจะไม่หนีเพราะหนีไม่ได้ ซึ่งหนังเป็นเรื่องนี้เลยว่ามันแฟร์เหรอ ถ้าเราไม่อยากเป็นจะทำยังไง ผมว่าหนังมันตั้งคำถามเรื่องนี้อยู่

หนังร่างทรงยังฉายอยู่ ?

          โต้ง : ฉายอยู่ เรื่องนี้ลงดีเทลเยอะมาก อยากให้ไปดูจริง ๆ เพราะถ้าดูจอใหญ่จะมันมาก มีความสยอง มีการกระตุ้นให้คนดูถกเถียงเยอะมาก

คุณเต๋อ ฉันทวิชช์ เขียนบทด้วย ?

          โต้ง : ใช่ครับ เขียนบทร่วมกัน

          เอี้ยง : ไปดูในโรงค่ะจะได้อรรถรส จะได้ออกมาพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันในหลากหลายประเด็น

          ญดา : ใครยังไม่ไปดู ไปดูกันนะคะ อีมิ้งรออยู่ค่ะ

         นอกจากนี้ ระหว่างดำเนินรายการ จู่ ๆ ญดา ก็ตบโต๊ะเสียงดังแล้วพูดแล้วมีอาการเหมือนร่างทรง สีหน้าท่าทางสมจริง ๆ อินเนอร์แรงจนคนดูขนลุก แทบแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนจริงอันไหนเล่น

          ญดา : มึงอยากจะกูนักใช่ไหมไอ้หนุ่ม มึงชอบโหนกระแสนักใช่ไหม กูมาเจอมึงแล้วนี่ไง

          เอี้ยง : มึงเป็นไผ ก็ถามว่ามึงเป็นไผ

          ญดา : (หัวเราะ) กูคือย่าบาหยันไง

          จังหวะนั้นทุกคนในรายการเงียบและอึ้งไปตามกัน เพราะสีหน้าท่าทางสมจริงมาก ๆ ก่อนที่ หนุ่ม กรรชัย จะพูดขึ้นมาว่านี่เข้าทรงจริง ๆ หรือเปล่า เหมือนมาก พร้อมชื่นชอบน้องญดาที่แสดงเก่งมากจริง ๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดใจ ร่างทรง หนังสุดปังกวาดรายได้ ญดา ทำหลอนจน หนุ่ม กรรชัย สะดุ้ง ! โพสต์เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19:05:26 135,942 อ่าน
TOP