x close

สมจิตร ช็อก ภรรยาป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง หนักจนเดินไม่ได้ - ลูกชายสมองช้า

          สมจิตร จงจอหอ เผยภรรยาป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นหนักเดินไม่ได้ ถึงขั้นมีการสั่งเสียเอาไว้ แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ยังต้องกินยา ด้านลูกชายสมาธิสั้น สมองช้ากว่าอายุ 5 ปี
 
สมจิตร จงจอหอ

          เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งหนุ่มอารมณ์ดีที่ทำให้ใครหลายคนยิ้มไปกับมุกของเจ้าตัวอยู่ตลอด สำหรับ สมจิตร จงจอหอ ที่ล่าสุด (22 พฤศจิกายน 2564) ขอควงภรรยา อุ๋ม ศศิธร และลูก ๆ น้องกำปั้น และน้องจันทร์เจ้า มาเปิดใจครั้งแรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บSHOW ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
 
สมจิตร จงจอหอ

พี่สมจิตรเพิ่งรู้อาการป่วยของภรรยา ?

          สมจิตร : ครับ ต้องให้เขาเล่า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดปกติของร่างกายเขาเองในช่วงที่เขาเป็น
 

          อุ๋ม : เป็นโรคที่ภูมิตัวเองไปทำลายภูมิตัวเอง ครั้งแรกที่เกิดขึ้นคือมันมีก้อนตรงคอเรามันใหญ่ขึ้นมา เราก็ไปหาคุณหมอ คุณหมอกลัวจะเป็นมะเร็งเลยเจาะน้ำตรงก้อนคอไปตรวจหามะเร็งก็ไม่พบ คุณหมอก็หาใหม่อีก
 

พอไม่พบว่าเป็นมะเร็งใจชื้นขึ้นมาหน่อยไหม ?

          อุ๋ม : ก็ใจชื้นขึ้นมาเยอะเลย คุณหมอก็เจาะเลือดไปตรวจอีก แล้วมันไม่หายเราเป็นก้อนก็ปวดตามข้อ มีผื่นคันตามตัว ปวดข้อจนกระทั่งแขนขาไม่มีแรงเลย
 

ตัวก้อนนั้นมีอาการเจ็บไหม ?

          อุ๋ม : ไม่เจ็บเลย แต่ว่ามันโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่มาเจ็บตามแขน ตามขา เจ็บเหมือนโดนเข็มทิ่มเราตลอดเวลา จนเราหยิบจับของไม่ได้ แขนเราไม่มีแรง เราก็ถามตัวเองว่าเราเป็นอะไร

ตอนนั้นอยู่เคียงข้างเลยไหม ?

          สมจิตร : อยู่ครับ อยู่บ้านตลอดตอนเขาป่วย ก็ยังอำเขาเล่นเลยว่าคางเขาทูม สวย ขายยังไง ขายไหม เขาก็บอกว่าไม่ขายเก็บไว้กินเอง อำไป อำมา ก็เลยพาไปหาหมอ ตี 3 ลุกขึ้นมาปวดแบบคนมาบิดกระดูกเขา เราก็นึกไม่ออกว่าความเจ็บปวดเขาขนาดไหน แต่รู้ว่าถ้าผู้หญิงคนนี้พูดถึงความเจ็บปวดแสดงว่ามันหนักมาก ต้องลุกขึ้นมาเอายาหม่องมานวด ต้องคุยกัน ปลอบกันเรื่อย ๆ ณ เวลานั้น คือตี 3 ยันเช้าไม่หลับ ปวด นอนร้องไห้

 

สมจิตร จงจอหอ

พี่เป็นมากี่ปีแล้ว ?

          อุ๋ม : จริง ๆ เป็นตั้งแต่เมษายน เพิ่งไม่กี่เดือน แต่รักษาจริงจังเพิ่งเริ่ม 3-4 เดือนนี้
 

เห็นว่าจุดสังเกตอีกอย่างคือน้ำหนักตัวขึ้นผิดปกติ 1 เดือน ขึ้นมา 10 กิโล ?

          อุ๋ม : ใช่ค่ะ
 

          สมจิตร : ขึ้นมาตัวบวม ขานี่บวม
 

          อุ๋ม : บวมหมดเลย ทั้งหน้าเรา ตัวเรา ขาเราบวม
 

สาเหตุหลัก ๆ เกิดจากอะไร ?

          อุ๋ม : คุณหมอบอกว่าจริง ๆ มันหาสาเหตุไม่ได้ 1. คือกรรมพันธุ์ แต่ทางบ้านหนูไม่มีใครเป็น
 

การกินเกี่ยวไหม ?

          อุ๋ม : คุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นไปได้ อาจจะมีส่วน
 

พอตรวจเจอโรคพุ่มพวงแล้วมีเจอโรคแทรกซ้อนไปอีก ตอนนั้นตรวจเจออะไรอีก ?

          อุ๋ม : คุณหมอกลัวจะเป็น SLE ลงที่ไต เพราะเราบวมเยอะ บวมผิดปกติ คุณหมอก็เลยตัดชิ้นเนื้อไตไปตรวจเพื่อว่าเราลงไตหรือเปล่า เพราะเจาะเลือดผลมันไม่ 100 ร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณหมอเลยอยากเอาชิ้นเนื้อไตเราไปตรวจ เจาะไตไปตรวจ 2 ชิ้น ผลออกมายังไม่ลงไตก็โชคดีไป
 

ตอนนั้นรู้สึกยังไง ?

          อุ๋ม : ก็กลัวเหมือนกัน กลัวผลว่าจะลงไต เพราะตอนนั้นเราบวมมาก
 

สมจิตร จงจอหอ

เขาบอกว่าถ้าลงไต หรือขึ้นสมอง ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ?

          อุ๋ม : ใช่ ๆ
 

          สมจิตร : ถ้าลงไตเหมือนที่เขาบอกโรคไตวายเฉียบพลัน มันสามารถตายได้เลย แต่พอตรวจแล้วไม่เจอเราก็ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่สุดท้ายก็ต้องรักษาอย่างจริงจัง
 

ระหว่างที่รอผลตอนนั้นคิดอะไรอยู่ ?

          อุ๋ม : ก็คิดหลายอย่าง ถามว่ากลัวไหมก็กลัว ผลออกมาถ้าเราเป็นเราจะทำยังไง ก็คิดเยอะอยู่
 

ได้บอกลูกไหม ?

          อุ๋ม : ก็ไม่กล้าบอกเขาว่าคุณหมอว่าเราจะหนักหรือไม่หนัก
 

แล้วตอนเข้าโรงพยาบาลพี่บอกลูกว่ายังไง ?

          สมจิตร : เข้าโรงพยาบาลจุฬา วันแรกที่มารักษาจริงจังตัวเขาเนี่ยเต็มไปด้วยแผลพุพองที่ขา น้ำที่พองออกมาก็จะไหลออกมา กางเกงยีนที่เขาใส่มันจะเปียกด้วยน้ำ ก็เดินไปหาหมอ ตรวจเลือด ตรวจทุกอย่าง หมอสั่งแอดมิตได้ไหมวันนี้ ผมบอกเอาก็เอาถ้าหมอสั่ง คือมาเสื้อผ้าตัวเดียวมาจากต่างจังหวัดก็แอดมิตไป หลังจากนั้นร่างกายเขาก็ดร็อปลงมาเลย ขาที่เคยเดินได้ เดินไม่ได้เลย ผมคิดว่าน่าจะแย่ลงเรื่อย ๆ ดีนะถึงมือหมอแล้ว เขาไม่สามารถก้าวขาลงจากเตียงได้เลย
 

          อุ๋ม : คือเท้าเราโดนพื้นไม่ได้เลย คือมันเจ็บเหมือนใครเขาเข็มมาทิ่มเราตลอดเวลา เราก็ถามหมอว่านี่หนูเป็นอะไร

 

สมจิตร จงจอหอ

แล้วตอนไหนที่หมอทราบว่าเราเป็นโรค SLE ?

          อุ๋ม : คุณหมอเจาะเลือดไปตรวจทั้งหมดหลายโรค ซึ่งที่คุณหมอคาดว่าน่าจะเป็น ก็ผลออกมาว่าเป็น SLE ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราก็ถามคุณหมอว่าต้องรักษายังไง หนูจะหายไหม คุณหมอบอกว่ารักษาได้ไหม ได้ แต่ว่าเราต้องรักษากันแบบละเอียดอ่อนพอสมควร
 

          สมจิตร : ก็เรียกหมอทั้งหมดมาหลาย ๆ โรค ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง ที่มันพุพองออกมา เขาบอกว่าติดเชื้อในผิวหนังเขาด้วย เขาเรียกหมอศัลยกรรม หมอผิวหนัง หมอไต ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาทีละหมอ ก็เจาะเลือดไปทีละหมอ แบบหนักมาก
 

มันท้อขนาดไหน ?

          อุ๋ม : ก็คิดว่าทำไมแจ็กพอตมาลงที่เรา
 

          สมจิตร : วันที่อยู่โรงพยาบาลกัน 2 คน ลูก ๆ ไม่ได้มาครับ อยู่บ้าน ก็โทร. บอกว่า แม่ไม่ได้กลับบ้านนะ แม่ต้องรักษาอยู่นี้ ก็โทร. บอกเขา แต่สิ่งที่เด็ก ๆ เข้าใจว่าแม่ไม่สบาย แม่ป่วย แต่ ณ เวลาที่เราอยู่ 2 คน วินาทีนั้นร่างกายเขามันดร็อปลง ๆ เราก็ใจไม่ค่อยดี
 

          อุ๋ม : แล้วก็บอกว่าเดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวแม่ก็กลับบ้าน
 

          สมจิตร : แล้วเขาก็จับมือเราเหมือนสั่งเสียแล้ว เราก็ใจหาย
 

          อุ๋ม : เราก็คุยกันบอกว่าถ้าเป็นอะไรไป คือ ห่วงลูกมากกว่า
 

สมจิตร จงจอหอ

เด็ก ๆ รู้ยังว่าตอนนั้นแม่ไม่สบายมาก ?

          กำปั้น : ตอนนั้นรู้แล้วครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นหนักขนาดนี้ ผมก็โทร. ถามอาการแม่ทุกวันว่าหมอมาตรวจวันนี้แล้วแม่เป็นยังไงบ้าง จะโทร. ทุกช่วง 3 เวลา
 

ตอนนั้นห่วงขนาดไหน ?

          กำปั้น : มากเลยครับ

          จันทร์เจ้า : ห่วงค่ะ แต่ไม่ได้ไปเยี่ยมคุณแม่

          สมจิตร : เขาไม่ให้ใครเข้าเลย เพราะว่าช่วงนั้นช่วงโควิดระบาดหนักมาก คนที่เฝ้าได้ผมแค่คนเดียว แล้วห้ามผมออกไปไหนด้วย ต้องอยู่กับเขาตลอด เพราะว่าถ้าออกไป ไปติดเชื้อโรคมานี่จบเลย
 

พี่สมจิตรมีโอกาสสื่อสารกับลูกไหม ?

          สมจิตร : ก็โทร. คุยกันทุกวัน ตอนนี้ถึงมือหมอแล้ว หมอเขาดูแลดี ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเครียด เดี๋ยวหมอจะอัปเดตอาการให้เราฟัง พอหาหมอได้ 2-3 วัน รู้สึกว่ารักษามาถูกทาง ร่างกายก็ตอบสนองเยอะขึ้น แต่สิ่งที่เราเห็นคือแฟนโดนหมอเจาะทั้งสองฝั่งเลย มันเยอะมาก ครั้งนี้เป็นครั้งที่หนักสำหรับเขามาก หนักที่สุด แล้วสิ่งที่เราเคยเจอ สัมผัสได้ว่าถ้าเขาไม่เจ็บมาก เขาจะไม่พูด หัวใจเกินร้อย
 

วันนั้นคิดว่าตัวเองจะเดินไม่ได้ เป็นห่วงลูก ถึงขั้นจับมือพี่สมจิตรสั่งเสียเลย ?

          อุ๋ม : ส่วนใหญ่ก็ห่วงลูก
 

          สมจิตร : เขาบอกว่าถ้าไม่ไหวจะทำยังไง ผมบอกว่าถึงมือหมอแล้ว เดี๋ยวต้องดีขึ้น ก็ให้กำลังใจ ผมคิดอย่างเดียวถ้าเขาตาย ผมนี่หนัก ผมตายดีกว่า
 

สมจิตร จงจอหอ

เสี้ยวหนึ่งในใจคิดไหมว่ามีโอกาสที่จะเสียเขาไป ?

          อุ๋ม : มี เพราะตัวเขาเอง เขาจะรู้ว่าเป็นยังไง เขาจะสื่อสารบอกเรา จับมือแล้วบอกกันว่าเหมือนร่างกายรับไม่ได้แล้ว หลายอย่าง มันเยอะมาก สายอะไรทุกอย่าง เขารักษาด้วยการกินยาขับปัสสาวะ ต้องดูแลตลอด พอวันหนึ่งเหมือนเขาไม่ไหว เขาก็จับมือแล้วบอกว่าเป็นอย่างนี้ ๆ ผมนี่หนัก ผมอยู่ ผมยิ่งหนักกว่าเขา เพราะผมไม่รู้จะดูแลเขายังไง ปกติผมเป็นคนทำงานนอกบ้าน คิดไป คิดมา ผมตายลูกจะสบายกว่า คิดในใจ แต่สุดท้ายก็พยายามให้กำลังใจเขา เราอยู่ด้วยกันให้กำลังใจกัน บอกเขาว่าไม่เป็นไรถึงมือหมอแล้ว ขอให้สู้อย่างเดียว ก็ผ่านพ้นอาทิตย์หนึ่ง ผ่านจุดอันตรายมา
 

ในความรู้สึกเรา เราอยู่ในนรกอาทิตย์หนึ่ง ?

          สมจิตร : ครับ
 

ตอนนั้นหมอรักษายังไงเราถึงสามารถเดินได้ ?

          อุ๋ม : คุณหมอก็ดูแลอย่างดี ดูแลอย่างละเอียดอ่อน ผลเลือดเราผิดปกตินิดหนึ่งไม่ได้ คุณหมอบอกไม่เป็นไร คุณหมอบอกว่ารักษาได้ คือรักษาแบบละเอียดอ่อนไม่ต้องกลัวนะ จะดูแลเต็มที่
 

เรานอนโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ ?

          อุ๋ม : 12 วันค่ะ
 

          สมจิตร : 1 สัปดาห์ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ร่างกายเริ่มตอบสนองยา
 

          อุ๋ม : อาทิตย์แรกเราไม่สามารถเดินจากเตียงได้ จนเรารู้สึกบางทีเราก็ท้อ จนอาทิตย์หนึ่งเราดีขึ้น เราก็เลยโอเค เราตอบสนองกับยา ตอนที่หาหมอท่านแรกเราไม่ตอบสนองกับยา พอมาหาหมอคนที่สองคือตอบสนองกับยาทุกอย่าง ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น เราก็โอเค
 

ลูก สมจิตร จงจอหอ

ตอนนี้ต้องทานยาทุกวัน ?

          อุ๋ม : ต้องกินทุกวัน วันละ 10 กว่าเม็ด คุณหมอบอกว่าถ้าโรคไม่กำเริบ 1 ปี กินยากดภูมิไว้ 1 ปี ถึงมันจะดีขึ้น แต่เราก็ต้องกินยาประมาณ 1 ปีก่อน แต่ถ้าโรคมันยุติไม่กำเริบก็อาจจะต้องพักการกินยาไปตามภูมิเรา ถ้าภูมิเราแข็งแรงก็อยู่ได้โดยไม่ต้องกินยา แต่ถ้าวันไหนมันกำเริบขึ้นมาเราก็ต้องกินยา กลับไปนับ 1 ใหม่ตามภูมิเรา

วันไหนที่พี่รู้ว่าพี่รักภรรยามากกว่ากัน วันที่รู้ว่าจะเสียเขาไป หรือวันที่รู้ว่าเขาจะดีขึ้น ?

          สมจิตร : ผมว่าวันที่ดีขึ้น ผมว่าวันที่เหมือนจะเสีย ผมว่าทุกคนมันต้องจากกันอยู่แล้ว แต่วันที่ดีขึ้นรู้สึกว่าเราจะได้อยู่กันอีกยาว เขาดีขึ้น ความรักมันยิ่งมากขึ้น เพราะเราเห็นความทุกข์ เห็นเหมือนเราจะจากกัน เรารู้ใจกันแล้ว พอดีขึ้นเราต้องใส่ใจซึ่งกันและกัน ทุกครั้ง ทุกชั่วโมงเรียกพ่อ ๆ ผมก็ต้องช่วยตลอดทุกเวลา พอมัยดีขึ้นหมอก็เริ่มนัดทุกอาทิตย์ เป็นทุกเดือน เดือนละครั้ง ลดตัวยา แล้วต้องกินอันนี้เสริมนะ ผมก็พยายามหาให้เขากิน รู้สึกว่าได้ดูแลซึ่งกันและกันในยามทุกข์ยาก ถึงแม้ในยามที่เราดีขึ้น เราก็ต้องดูแลกันต่อไป รู้สึกว่ารักเขาขึ้นครับ
 

เด็ก ๆ ให้กำลังใจคุณแม่ยังไงบ้าง ?

          จันทร์เจ้า : บอกว่าหายไว ๆ แล้วก็กินยาให้ครบทุกมื้อ

          กำปั้น : ก็เหมือนที่น้องบอก ให้หายไว ๆ กินยาให้ครบ แล้วรีบกลับมาที่บ้านครับ

วันที่เห็นแม่กลับบ้านวันแรกรู้สึกยังไง ?

          กำปั้น : วันนั้นรู้สึกดีใจมากครับ ที่แม่เรากลับมาได้แล้ว

ณ วันนี้อาการเป็นยังไงบ้าง ?

          อุ๋ม : ตอนนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์
 

          สมจิตร : คุณหมอห้ามไปเจอคนเยอะ ๆ เพราะภูมิเขาอ่อน ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลนี่เป็นรายการแรกที่ผมพาเขามา เพราะผมมั่นใจสุขภาพเขาดีขึ้น ทุกอย่างดีขึ้น ก็เลยได้มาพร้อมหน้า พร้อมตากันครั้งนี้

 

สมจิตร จงจอหอ

พี่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้บ้าง ?

           อุ๋ม : ได้เรียนรู้ว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทุกอย่าง เราเหมือนประมาทตัวเองมาตลอด ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้
 

           สมจิตร : ผมเรียนความไม่ประมาทของชีวิตคนเรา เกิดขึ้นอยู่ แล้วก็ดับลงได้ แต่สิ่งที่เรามี ณ ปัจจุบัน อย่างช่วงนี้เป็นช่วงที่โควิดระบาดมา 2 ปี แล้วร่างกายก็มีปัญหาอีก ต้องรักษา ต้องพยาบาลอีก ทีนี้ผมเรียนรู้ตัวเราคือว่าในวันที่เราพอมีเงิน เราก็เก็บมันไว้ พอเราทุก เราเหนื่อย เราหาหมอก็ใช้เงินตรงนั้นแหละมาดูแลรักษา รู้สึกเลยว่าความไม่ประมาทในชีวิตสำคัญที่สุด มีสติในทุก ๆ เรื่อง ความพอเพียงก็เป็นส่วนหนึ่งที่เรานำมาใช้ ถึงแม้ยามลำบากเราก็ยังพออยู่ได้
 

ถ้าจำไม่ผิดพี่มีร้านโรตี ตอนนี้ยังเปิดอยู่ไหม ?

           สมจิตร : เปิดอยู่ ผมเปิดร้านครั้งแรกตอนช่วงมันระบาดรอบแรก สิ่งที่ลงทุนก่อนหน้านั้น ซื้อที่ ซื้ออะไรก็ลงไปเยอะ ก็มีปัญหาเรื่องนั้นอยู่
 

เห็นว่าธุรกิจอื่นพี่ปิดเลย เพราะไม่อยากให้พี่อุ๋มทำอะไร ?

           สมจิตร : หลังจากที่ป่วยช่วงมีนา-เมษา ทุกอย่างปิดหมดเลย ปิดค่ายมวย ปิดร้านทุกอย่าง เพราะเขาต้องดูแลร้าน ต้องดูแลยิม เดี๋ยวจะมีอันตรายกับตัวเขา ก็ต้องทำใจปิด ต้องยอมแลกครับ
 

แสดงว่ารายได้ที่เข้ามาจากพี่สมจิตรจากการที่เราไปถ่ายหนัง ถ่ายละคร ?

           สมจิตร : ครับ แต่ตอนนี้ก็หยุดหมด ผมเองก็มีผลกระทบเหมือนทุก ๆ คน เรื่องของวงการบันเทิง ออกถ่ายต่างจังหวัดไม่ได้  ก็ต้องหยุดมาปีกว่า เราก็ขาดรายได้ตรงนั้นไป สิ่งที่ผมไม่ประมาทก็คือซื้อที่เก็บไว้ ซื้อทองเก็บไว้ ก็ต้องเอามาใช้ เอามาขายในยามที่เราลำบาก
 

ยังไหวอยู่ ?

           สมจิตร : ยังได้อยู่
 

สมจิตร จงจอหอ

น้องกำปั้นอายุ 20 ปี แต่สมองเท่ากับ 15 ปี พี่เริ่มสังเกตอาการลูกตอนไหน ?

          อุ๋ม : ตอนอายุประมาณ 9-10 ขวบ เรามองลูกฉีกกระดาษจากแผ่น A4 จากแผ่นใหญ่ ๆ ก็นั่งฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เขาจะฉีกเล่น ไม่เคยร้องเอาของเล่น เราก็เอ๊ะ...ลูกเราเป็นอะไร ตามวัยไม่เคยมีอยากได้ของเล่นเลย เราก็เห้ย ผิดปกติแล้วข้อนี้ ข้อแรก ข้อที่ 2 เริ่มนั่งฉีกกระดาษเล่น เราก็บอกพี่จิตรกำปั้นน่าจะแปลก ๆ แล้ว
 

          สมจิตร : ดูทีวีเขาก็จะดูอะไรซ้ำ ๆ ก็เลยพาไปหาหมอ เพราะผมมองว่าเขามีเรื่องผิดปกติทางความคิดอะไรสักอย่าง
 

          อุ๋ม : ไปหาคุณหมอจิตเวช ก็ไปตรวจ คุณหมอก็มีวิธีการตรวจของเขา ผลออกมาว่า น้องมี ไอคิวสมอง ช้ากว่าอายุจริง 4-5 ปี แต่อีคิวสูง ไอคิวต่ำ เราบอกเราต้องรักษายังไง คุณหมอบอกไม่ต้องทานยา แต่ว่าบำบัดโดยการที่เราต้องคุยกับเขาบ่อย ๆ ต้องอยู่กับเขา ให้เวลาเขา

          สมจิตร : เด็กสมาธิสั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ ก้าวร้าว รุนแรง อีกประเภทก็จะอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ไม่ก้าวร้าว
 

เห็นบอกว่าสาเหตุมาจากตอนที่น้องเล็ก ๆ เข้ารับการผ่าตัดด้วย ?

          สมจิตร : ตอน 3 เดือนเขาเป็นไส้เลื่อน
 

          อุ๋ม : เป็นตั้งแต่เกิดเลย
 

          สมจิตร : 3 เดือนเรามาสังเกตว่าลูกเราร้องงอแงมาก แล้วเวลาร้องไส้มันจะเลื่อนออกมา ผมก็เอามือดันตรงไข่ ช่องท้อง ดันไปมันก็หายเข้าไป เขาก็หยุดร้อง วันดีคืนดีก็ร้องอีก มันก็เป็นอีก ผมก็เอามือดันหายเข้าไปอีก สุดท้าย 3 เดือนพาไปหาหมอ หมอต้องรมยา เพื่อผ่าตัด เขาดูอาการเด็กก่อนว่าเด็กแข็งแรงไหม โอเคกำปั้นแข็งแรงก็ดมยา วันนั้นมี 2 คนที่ไปผ่าตัดคู่กันเลย อีกคนหนึ่งเป็นเจ้าชายนิทรา กำปั้นฟื้น แต่เขาก็ช้าตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็เลยคิดว่าเกิดจากตอนผ่าตัดไหม หรืออาจจะเป็นตัวเขาเอง

 

สมจิตร จงจอหอ

โรคนี้สามารถรักษาได้ไหม ?

          อุ๋ม : ไม่ได้
 

          สมจิตร : เขาเป็นสมาธิสั้น มันจะมีพรสวรรค์บางสิ่ง บางอย่าง รักษาคงไม่รักษาหรอก อะไรที่เขาชอบปล่อยให้เขาทำไป แต่ความคิดเขาอาจจะช้าหน่อย แต่การใช้ชีวิตกับสังคม เขามองสังคมดี คุยกับคนโตรู้เรื่องทุกอย่าง แต่เพียงแค่การเรียนแค่นั้นเองที่มันช้า
 

ตั้งแต่เราโตมากับโรคนี้ มันทำให้ชีวิตเรามีอุปสรรคไหมในการใช้ชีวิต ?

          กำปั้น : ไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตนะครับ คือเราใช้ชีวิตในแบบที่เราเป็น แล้วก็ใช้ชีวิตในแบบที่เราเข้าใจครับ
 

กำปั้นรู้ตัวเองไหมว่าชอบทางไหน ?

          กำปั้น : รู้ครับ เป็นแนวร้องเพลงกับนักแสดง
 

เวลาเราไปโรงเรียน เพื่อน ๆ มีพูดอะไรกับเราบ้างไหม ?

          กำปั้น : น่าจะเคยมีนะครับ แต่ผมจำไม่ได้แล้ว น่าจะเด็กมาก แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เพื่อนก็มีแกล้งบ้าง เราก็มีแกล้งกลับบ้าง    
 

โควิดหนักไหม ?

          สมจิตร : หนักครับ ผมสร้างร้าน เงินที่ลงร้าน เงินที่ซื้อที่ ก็ต้องขายที่ที่เรามีเล็ก ๆ แล้วก็ทอง  2 อย่าง
 

เงินไปลงทุนกับร้านเท่าไหร่ ?

          สมจิตร : รอบหลังมี 2-3 ล้าน รอบแรกไปเช่าเขา แล้วเราต้องย้ายมาอยู่กับที่เราเอง ต้องรื้อถอนย้าย มาก่อสร้างใหม่อีก
 

          อุ๋ม : ซื้อที่ใหม่ด้วย
 

เปิดมาปุ๊บเจอโควิดเลย ?

          สมจิตร : เจอ แต่ก็ต้องมาปลูกสร้างใหม่ ที่ก็ซื้อไปล็อตหนึ่งแล้ว ก็หมดไปแล้ว สร้างใหม่ก็ต้องเริ่มต้นใหม่ ซึ่งตอนนี้ยิมมวยปิด เปิดร้านโรตี
 

ช่วงปลายโควิดร้านโรตีขายได้ไหม ?

          สมจิตร : พอได้ ๆ

สมจิตร จงจอหอ

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สมจิตร ช็อก ภรรยาป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง หนักจนเดินไม่ได้ - ลูกชายสมองช้า อัปเดตล่าสุด 23 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11:23:26 112,272 อ่าน
TOP