อุ๋ย ถามคริสว่า หลังจากเสียป๊ะป๊าไป คริสมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม ซึ่งคริสตอบว่า ตนทำงานเยอะเและเริ่มเก็บเงิน ใช้เงินเยอะแต่ก็ยังพอมีสติเก็บเงิน จริง ๆ เรื่องนี้ อุ๋ยเป็นคนสอนตนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ในการแยกเก็บเงินเดือน ว่าเงินแต่ละก้อนต้องนำไปใช้อะไรบ้าง เช่นผ่อนรถ จ่ายค่าบัตรเครดิต แต่พอสเกลใหญ่ขึ้นก็ต้องผ่อนรถทุกคน จ่ายค่าบัตรให้ป๊ะป๊าหม่ามี๊ แล้วเงินที่ต้องเก็บจะเยอะขึ้น แล้วถ้าเราฝันว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหน ต้องหาเงินให้มากกว่า
คริส บอกว่า เรื่องที่ป๊ะป๊าเสีย ทำให้ตนมีหลายความคิดที่ต้องเตรียมตัว ตอนที่ป๊ะป๊าป่วย ตนไม่ได้เก็บเงินส่วนนี้ไว้ แต่เอาเงินส่วนตัวออกมาใช้ ขอบคุณทุกคนที่จ้างงานตน ที่ทำให้ตนมีตู้เซฟนี้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพิ่งจะมาจัดการกับความทุกข์เป็น เพราะทั้งชีวิตเจอแต่เรื่องเบา ไม่มีอะไรทำให้เสียใจหนัก แต่มีช่วงหนึ่งในชีวิตที่อยากรู้ว่าชีวิตตัวเองจะดำเนินไปยังไง จะแต่งงานมั้ย ต้องหาแฟนมั้ย ชีวิตอนาคตต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ลิสต์เยอะมาก พอเช็กลิสต์ไม่ตรงสิ่งที่คาดหวัง ผิดหวัง จมลงไปอีก ไม่มีใครช่วยเราได้เลย แต่พอเปลี่ยนความคิด ไขน็อตนิดเดียว มีความสุขแบบไม่ต้องเอาความคาดหวังและอนาคตของเราไปผูกกับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ต้องใช้เวลาปล่อยวาง ต้องข้ามให้ได้
คริส : ใช้เงินให้หมด จะบินแบบ จะใช้เงินให้หมด ตายไปเอาไปไม่ได้ ใช้ให้หมด"
คริส เสริมอีกว่า ทั้งหมดที่มีคือแบ่งให้หม่ามี๊ คำนวณไปเลยว่า สมมุติปีนี้ หม่ามี๊ 65 ใช่ไหมตอนนี้ ถามหม่ามี๊ว่าอยากมีชีวิตอยู่ถึงอายุเท่าไหร่ สมมุติว่าอยากอยู่ถึง 90 คำนวณไปเลยอีก 25 ปี ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ถ้ามีอยู่ในเซฟ ก็ตัดเข้าบัญชีหม่ามี๊ไปเลย ส่วนพลอย ก็ดูแลตัวเองไปเลย
คริสเคยนั่งคิดว่าอะไรที่ทำให้มีความสุข นั่นก็คือตัวเอง ทำงานมีความสุขเพราะว่าดีใจที่ยังมีคนเห็นคุณค่าของเรา ก็จะทำให้เต็มที่ ได้เงินเป็นรางวัลตอบแทน ก็เอาเงินมาเก็บใส่ลิ้นชัก ใส่ตู้เซฟ รางวัลเราจะไปซื้ออะไรก็ได้ฉันก็ยังบ้าซื้อของยี่ห้ออยู่ จู่ ๆ อยากเล่นสกีหรืออยากมีผู้ชายพาไปลันช์ที่ฝรั่งเศส นั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับมา ฉันต้องหาเงินเพื่อตัวเองให้ได้ จะมีผู้ชายคนนั้นหรือไม่มีผู้ชายคนนั้นในชีวิต อยากได้อะไรต้องทำให้ตัวเองให้ได้ก่อน ถ้าทำยังไม่ได้ก็ได้เท่าที่ตัวเองทำได้
คริส : อยากนอนหลับแล้วก็ตายไป"
คริส เล่าว่า มีคนฝากถามมาว่าเราจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ขนาดนี้จริง ๆ เลยเหรอ ตนเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าหมดเลย เพราะคิดว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิต สอนประสบการณ์อะไรบางอย่างให้เสมอ และช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่ไม่ว่าจะจบด้วย 1 เหตุการณ์ หรือ 2 เหตุการณ์ ที่ไม่ลงล็อกกัน จะดีหรือไม่ดี แต่ที่ผ่านมาเราได้ใช้ความสุขด้วยกันไปแล้ว ก็จะเก็บสิ่งนั่นไว้ และคิดว่าคนคนนั้น อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเรา ก็เลยเป็นเพื่อนกับทุก ๆ คนและยินดีกับความก้าวหน้าของทุก ๆ สเต็ปของชีวิตที่เวลาเราเห็น
บางคนเขาก็อยากคุยกับแฟนเก่าได้เหมือนกัน บางคนก็ยังดูรูป Instagram แล้วก็ยังยินดี 100% แบบที่ตนเป็น แต่ว่าพอเจอกันแล้วกลับไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้ อย่างวันนี้ถ้าตนมีเรื่องอะไรที่ตนรู้ว่าอุ๋ยรู้ ไม่ว่าตนจะอยู่กับใคร ก็จะโทร. หาอุ๋ยได้เลยด้วยความใส ๆ เลย หวังดีจริง ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก อุ๋ย บุดด้าเบลส