ปากแห้งแตกใช้อะไรดี อากาศเย็นทำให้ปากลอก จะต้องใช้ลิปมันหรือลิปบาล์มยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยให้ปากกลับมานุ่มชุ่มชื้น อวบอิ่มได้อีกครั้ง มาดูกัน
อยู่ในช่วงหน้าหนาว อากาศรอบตัวก็เลยแห้งเป็นธรรมดา นอกจากผิวจะเสียความชุ่มชื้นแล้ว สาว ๆ รู้สึกไหมคะว่าริมฝีปากของเราก็แห้งขึ้นเหมือนกัน แถมแตกลอกอีกต่างหาก ซึ่ง
วิธีแก้ริมฝีปากแห้งแบบเร่งด่วนที่ได้ผลก็คือการใช้
ลิปมัน หรือ
ลิปบาล์ม ว่าแต่ว่าต้องเลือกยังไง แล้วมีตัวไหนใช้ดีบ้าง กระปุกดอทคอมมีตัวเลือกมาแนะนำกันแล้วค่ะ ไปดูกันเลยว่า
ปากแห้งแตก ใช้อะไรดี
สำหรับสาว ๆ ที่ไม่รู้ว่าลิปบาล์มแบบไหนจะเหมาะกับตัวเอง หรือต้องดูจากอะไรบ้าง แนะนำวิธีการเลือกง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่เน้นความชุ่มชื้น - นอกจากขี้ผึ้งแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือส่วนผสมหลักอื่น ๆ เช่น เชียบัตเตอร์ โจโจ้บาออยล์ หรือกลีเซอรีน ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้เช่นกัน และอาจจะเพิ่มส่วนประกอบจากธรรมชาติอื่น ๆ ได้แก่ น้ำผึ้ง โกโก้บัตเตอร์ หรือวิตามินอี ที่จะยิ่งช่วยฟื้นฟูริมฝีปากให้นุ่มยิ่งขึ้น
2. เลือกตามสภาพริมฝีปาก - ถ้าปากแห้งเฉย ๆ ต้องการความชุ่มชื้น แต่ไม่แตกลอก ก็ให้ใช้ลิปบาล์มเนื้อเบาที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ จะทำให้รู้สึกสบายปาก แต่ถ้าปากแห้งลอกขั้นสุด ให้เลือกลิปบาล์มเนื้อเข้มข้นที่มีความเหนียว จะช่วยเคลือบริมฝีปากและซ่อมแซม บำรุงให้ปากชุ่มชื้นขึ้น
3. ยิ่งมีค่า SPF ยิ่งดี - เพราะริมฝีปากของเราก็โดนแดดไม่แพ้ผิวหน้า การเลือกลิปบาล์มที่มีสารกันแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้ริมฝีปากดำคล้ำหรือแห้งลอกจากการถูกแสงแดดทำลาย ซึ่งค่า SPF ของลิปบาล์มอยู่ที่ 15-30 ก็เพียงพอ
ทราบวิธีเลือกลิปบาล์มกันคร่าว ๆ แล้ว เราไปดูกันดีกว่าว่ามีลิปบาล์มหรือลิปมันตัวไหนที่ช่วยบำรุงให้ริมฝีปากแห้งแตกกลับมานุ่มชุ่มชื้นได้บ้าง
1. Carmex Moisturizing Lip Balm SPF15 #Wintergreen
ลิปบาล์มตัวเด่นตัวดังที่คนมักจะรู้จักในแบบกระปุก แต่แบบแท่งก็ดีงามไม่แพ้กัน เนื้อบาล์มชุ่มชื้น ไม่เหนอะหนะริมฝีปาก กลิ่นมินต์หอมสดชื่น ให้ความรู้สึกเย็นนิด ๆ ปากชุ่มชื้นตลอดวัน แถมยังมีสารกันแดด ป้องกันไม่ให้ปากดำด้วย ราคา 199 บาท
ภาพจาก : mycarmex.com
2. Mentholatum Therapy Lip Balm
ลิปบาล์มที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่รุ่นแม่ จนตอนนี้ก็ยังอินอยู่ สูตรพิเศษที่มีมอยส์เจอไรเซอร์และน้ำมันแร่ ช่วยดูแลปากแห้งแตกโดยเฉพาะ เนื้อไม่มันเยิ้ม ชุ่มชื้นกำลังดี ให้ริมฝีปากเย็นด้วยเมนทอล และมีค่า SPF15 ช่วยป้องกันแสงแดดได้ ราคา 79 บาท
ภาพจาก : rohto.co.th
3. Himalaya Lip Balm
อีกหนึ่งลิปบาล์มที่ถูกบอกต่อเยอะมาก เพราะให้ความชุ่มชื้นดีสุด ๆ ตัวนี้เป็นเนื้อครีมกึ่งกลอส ต้องบีบออกมาจากหลอด แต่ไม่เหนอะหนะ มีส่วนผสมของมะพร้าว น้ำมันเมล็ดแครอต จมูกข้าวสาลี และสารสกัดจากดอกพุดพิชญา เลยจัดเต็มคุณค่าบำรุงริมฝีปาก ฟื้นฟูปากแห้งแตกได้เห็นผล ราคา 90 บาท
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Himalaya Thailand
4. Innisfree Canola Honey Lip Balm
สายเกาเขาเลิฟแบรนด์นี้กัน รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ปากแห้งมาก ๆ หรือปากลอก เพราะมีส่วนผสมของสารสกัดจากน้ำผึ้งดอกคาโนลาและน้ำมันสกัดเมล็ดคาโนลา ที่ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นยาวนาน อวบอิ่ม เต่งตึง แถมยังหอมกลิ่นน้ำผึ้งอ่อน ๆ ผ่อนคลาย เนื้อลิปก็มันกำลังดี ไม่เยิ้มจนรำคาญ ราคา 240 บาท
ภาพจาก : innisfree.com
5. Burt’s Bees Ultra Conditioning Lip Balm with Kokum Butter
ลิปบาล์มสูตรไฮโปอัลเลอร์เจนิก ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ตัวเนื้อบาล์มทำมาจากโคคุมบัตเตอร์ โกโก้บัตเตอร์ และเชียบัตเตอร์ ที่ซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีมาก ๆ และอย่างที่รู้กันว่าลิปบาล์มเจ้านี้คือสบายปากมาก ทาแล้วนุ่ม แต่ไม่เหนอะ ช่วยบำรุงและคืนความอ่อนเยาว์ให้ริมฝีปาก แถมยังชุ่มชื้นต่อเนื่องตั้ง 4 ชั่วโมง ราคา 380 บาท
ภาพจาก : burtsbees.co.th
6. Vaseline Lip Therapy Cocoa Butter Mini
ลิปบาล์มแบบกระปุกสุดฮิต สูตรนี้เริดตรงที่มีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ปากแห้งลอกแบบสุด ๆ ไม่มีสี สามารถทาได้ทุกโอกาส เนื้อลิปไม่มันเยิ้มจนเกินไป แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ราคา 159 บาท
ภาพจาก : vaseline.com
7. Smooth E Baby Lip Balm
ไม่ได้มีดีแค่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเท่านั้นนะ แต่สมูทอีเขายังมีลิปบาล์มด้วย แถมเขายังเป็น 100% Natural Vitamin E Bee Wax ช่วยเติมความชุ่มชื้นพร้อมบำรุงรักษา ปกป้องริมฝีปากจากสิ่งแวดล้อมและมลภาวะ นอกจากนี้ยังปกป้องปากจากสารเคมีในลิปสติกด้วย ทำให้ริมฝีปากไม่แห้งตึง เนื้อบาล์มเป็นแบบบีบ สะอาด เนื้อใส ๆ ไม่มีสี ไม่มีแอลกอฮอล์ ใครแพ้ง่ายใช้ได้ชัวร์ ราคา 195 บาท
ภาพจาก : smooth-e.com
8. Fresh Sugar Advanced Therapy Treatment Lip Balm
ลิปบาล์มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ตัวนี้เน้นการฟื้นฟูและบำรุงริมฝีปาก ช่วยต่อต้านริ้วรอยบนริมฝีปากด้วยสารสกัดจากส้ม บัตเตอร์ Cupuacu น้ำมันเมล็ดพลัม และน้ำมันเสาวรส แล้วยังมี Hyaluronic Filling Spheres ที่ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้เรียวปาก เนื้อลื่น ทาง่าย ไม่เหนอะหนะ ราคา 1,080 บาท
ภาพจาก : fresh.com
9. Bobbi Brown Extra Lip Tint
แบรนด์เมคอัพที่สกินแคร์ก็ไม่ได้ด้อยกว่าใคร โดยเฉพาะงานปากคือดี ตัวนี้เป็นลิปบาล์มเจือสีเบา ๆ มีให้เลือกหลายสี เป็นเนื้อเชียร์ คือไม่เหนอะ ทาแล้วชุ่มชื้น มันเงานิด ๆ มีส่วนผสมของ Olive Oil Complex, Vitamin E และ C รวมถึง Babassu Palm Seed Oil ช่วยปรับสภาพและฟื้นบำรุงริมฝีปากที่แห้งเป็นขุยให้กลับมาเนียนนุ่มทันทีที่ใช้ แล้วยังช่วยลดเลือนริ้วรอยที่ริมฝีปากในระยะยาวด้วย ราคา 1,450 บาท
ภาพจาก : bobbibrown.co.th
10. Dior Lip Glow
ไม่พูดถึงไม่ได้กับลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสุด ๆ เพราะเป็นลิปบาล์มตัวแรกของแบรนด์ ประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 97% เช่น น้ำมันเชอร์รี เชียบัตเตอร์ และขี้ผึ้งของดอกทานตะวันและข้าว เนื้อนุ่ม ฉ่ำวาวกำลังดี เบาสบายปาก บำรุงให้ริมฝีปากชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน แถมสีสวยมาก มีให้เลือกหลายสี ริมฝีปากดูระเรื่อ สุขภาพดี ราคา 1,390 บาท
ภาพจาก : dior.co.th
แต่ละยี่ห้อบอกเลยว่าน่าสนใจสุด ๆ แถมยังเคลมเรื่องความชุ่มชื้นแบบไม่มีใครยอมใคร เห็นทีว่าสาว ๆ จะพลาดไม่ได้แล้ว ต้องมีไว้สักแท่งสองแท่ง หน้าหนาวนี้ปากจะได้นุ่มชุ่มชื้นสุขภาพดีตลอดซีซั่นกันเลย
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : lady-first.me, miraclar.com, chagrinvalleysoapandsalve.com, mycarmex.com, rohto.co.th, เฟซบุ๊ก Himalaya Thailand, innisfree.com, burtsbees.co.th, vaseline.com, smooth-e.com, fresh.com, bobbibrown.co.th, dior.co.th