ภาพจาก WOODY
เป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวที่โดนจับจ้องไม่เลิกรา สำหรับ แต้ว ณฐพร ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีข่าวฉาว แต่จู่ ๆ ชีวิตกลับพลิกขยับตัวทำอะไรก็เกิดดราม่า โดนวิจารณ์ทุกประเด็น เจอชาวเน็ตรุมด่า รุมแซะตลอด
ล่าสุด (10 มกราคม 2565) สาวแต้ว ก็ออกมาเปิดใจผ่านรายการ WoodyFM ว่า จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ตัวเองเคยได้ฉายาว่าเป็นคนที่ไม่มีข่าวด้วย แล้วอยู่ดี ๆ มันก็อะไรไม่รู้มันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย ทำอะไรก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปหมด ทุกอย่างที่เราใส่เข้าไปในโซเชียลมีเดียมันคือการที่เราใส่และกดโพสต์ของเราเองเราก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น และก็ยอมรับกับทุกสิ่งที่ตามมา ยอมรับเลยตั้งแต่วันแรก
มันอาจจะมีคำพูดที่บางคนรู้สึกว่าเจ็บจังเลย แต่แต้วเข้าใจว่าเขาไม่ได้รู้จักแต้วในทุกมิติ เพราะฉะนั้นไม่ผิดที่เค้าจะมองเห็นบางมุมแล้วตัดสินเราไปบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าโอเคไม่เป็นไร ใครไม่เข้าใจไม่เป็นไร คนรอบข้างเรา แม่ พี่ เข้าใจเราก็โอเคแล้ว
ภาพจาก WOODY
ถามว่าทุกครั้งที่เราเต้นหรือใส่ชุดว่ายน้ำมีคิดไหมว่าจะต้องไปโพสต์หรือเขียนข่าวเราแล้ว ? คือส่วนตัวมองว่าโซเชียลมีเดียแต้วมันคือไดอารี่เพื่อเก็บไว้ว่าเราไปทำอะไรมาบ้าง วันหนึ่งจะได้กลับมาดูว่าวันไหนแฮปปี้ วันไหนไม่แฮปปี้แค่นั้นเลย
ส่วนเรื่องความรักที่หลายคนจับตามองคือทุกอย่างก็ดี คือปกติแต้วจะรู้สึกว่าตัวเองแมนมาก ควมคุมจัดการได้ทุกอย่างทั้งเรื่องตัวเองและที่บ้าน มีอะไรก็โยนมาให้เราเลยเราจัดการได้ แต่พอมาอยู่กับเขาแล้วรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นคนตัวเล็กลงมา ส่วนเรื่องที่เคยมีใครรู้ ขนาดไฮโซณัยก็ไม่รู้คือ อย่างที่บอกว่าเราแฮปปี้ทุกคนก็คงดูออกมันแฮปปี้จนอยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้เพราะชีวิตที่ผ่านมามันสอนให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรยั่งยืน เราเลยเขียนไดอารี่ไว้ตั้งแต่คบกันแรก ๆ
แต้ว ยังพูดถึงอาการป่วยโรคแพนิกไม่เคยมีใครรู้มาก่อนอีกว่า อาการจะมาตอนที่รู้สึกว่าสภาพร่างกายไม่โอเคและควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกไม่ปลอดภัย เคว้งคว้าง หายใจไม่เข้า ข้างในมันแย่มาก เป็นประมาณ 4-5 ปีแล้ว ซึ่งครั้งแรกที่เป็นที่โรงพยาบาลเพราะเราอยากให้ตัวเองเพอร์เฟกต์ เรากลัวตลอดว่าจะเป็นมันอีกต้องเอายาไปทุกที่เพราะถ้าไม่มียาเราจะข้ามมันไปไม่ได้ จนค่อย ๆ ลดยาลง ตอนนั้นหนักที่สุดคือที่เกาหลี ต้องโทร. หาคุณพ่อให้คุณพ่อบินจากไทยเพื่อไปกอดถึงจะดีขึ้น
และมาถึงเหตุการณ์ที่หนักสุดในชีวิตกับการสูญเสียคุณพ่อไปไม่มีวันกลับ ทำเอาสาวแต้ว ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา โดยเผยว่าวันที่ทราบข่าวว่าคุณพ่อประสบอุบัติเหตุวันนั้นกำลังถ่ายงานกันอยู่ พอทราบก็ตัวชา สั่น ต้องยกกองแล้วไปที่โรงพยาบาลทันที ตอนนั้นไม่ร้องไห้เลยเพราะเราต้องมีสติ ต้องดูแลคุณพ่อ สุดท้ายก็ค่อย ๆ คุยกับครอบครัวที่จะปล่อยคุณพ่อไปแบบไม่เจ็บปวด และเผยว่าทุกวันนี้ก็ยังคุยกับคุณพ่อและชงกาแฟให้ท่านทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก WOODY
ภาพจาก Instagram taewaew_natapohn, WOODY
