เอ๋ เล่าความหวงของ ป๋อ แค่ก้าวออกจากบ้านก็ระแวง-หลงเมีย เปย์หนักเป็นล้าน !

              เป็นคู่สามีภรรยาที่มักจะมีโมเมนต์หยอกล้อกันน่ารัก ๆ อยู่เสมอสำหรับคู่ของ เอ๋ พรทิพย์ และ ป๋อ ณัฐวุฒิ โดยเฉพาะฝ่ายสามีที่ออกอาการหวงภรรยากว่าใคร ๆ ถ้าวันไหนภรรยาลงรูปชุดว่ายน้ำวาบหวิว สามีก็มีอันต้องเซ็นเซอร์ให้ตลอด ๆ เป็นอีกคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าหวงภรรยาไม่แพ้คู่อื่น ๆ เลยทีเดียว แถมความรักก็หวานชื่น แม้จะมีลูกชาย 2 คน อย่างน้อง ภู และน้องเภา แล้ว ทั้งคู่ก็ยังหยอดความหวานให้กันอยู่เสมอ ๆ

              ล่าสุด (2 กุมภาพันธ์ 2565) รายการแฉ ทางช่อง GMM25 ได้สัมภาษณ์ เอ๋ พรทิพย์ ถึงเรื่องราวความรักระหว่างเธอและสามี พร้อมกับแฉความหวงของสามีที่หวงขั้นสุด ถึงกับกลัวเอ๋ แอบไปมีกิ๊ก !!

              เอ๋ พรทิพย์ เล่าว่า ตอนนี้อาชีพหลักคือเป็นแม่บ้าน คอยรับ-ส่งลูก เลี้ยงลูกเองทุกวัน ไม่มีพี่เลี้ยง ตั้งแต่ลูกเกิดมาประมาณ 8-9 ปี ไม่ได้เล่นละครเลย ที่ผ่านมา ป๋อ สามี ไม่ค่อยแสดงออกเรื่องความรัก แต่ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 เป็นต้นมา ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงแสดงความรักออกสื่อมากขนาดนั้น เขาไปกินอะไรมาก็ไม่รู้ เมื่อก่อนเป็นคนแข็ง ไม่หวาน เขารู้ว่าตนดูแลตัวเองได้ แข็งแรง แต่เขาก็รู้ว่าผู้หญิงต้องการอะไร ตนคบกันมานาน 10 กว่าปีแล้ว ถ้าปล่อยไปจะเกิดความเคยชิน อาจจะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเบื่อกันซะก่อน เขาเลยยอมเปลี่ยนตัวเอง แต่พอเปลี่ยนแล้วก็เกิดความเคยชินมากขึ้น จากที่ไม่เคยหึงเลย จากศูนย์ ก็ขึ้นมา 100 เลย หึงมาก

               เอ๋ พรทิพย์ บอกอีกว่า เวลาตนใส่ชุดว่ายน้ำ ป๋อ บอกว่าจะแต่งไปทำไม มีลูกแล้ว จะไปโชว์ใคร แต่ตนมองว่าไม่เป็นไร ใคร ๆ ก็ใส่กัน เขาก็เลยให้ใส่แบบพอประมาณ ถ้าอันไหนมากไป เขาก็จะบอกให้เอากางเกงมาใส่ เวลาจะใส่ชุดว่ายน้ำ ต้องใส่ให้เขาดูก่อน ถ้าเขาโอเคก็คือโอเค คบกันมา 15-16 ปี ไม่เคยหึงเลย เพิ่งจะมาหึงเมื่อช่วง 2-3 ปีหลัง เขาบอกว่ารู้สึกว่าที่ผ่านมาปล่อยทิ้งขว้างมานานแล้ว

             มดดำ ถามว่า เกี่ยวไหมที่เคยหย่ากันไปแล้ว แล้วก็ไปคิดทบทวนว่าขาดกันไม่ได้ ซึ่งเอ๋ เผยว่า ตนคิดว่าเกี่ยว เพราะเขามาสารภาพกับตนว่ารู้สึกไม่ดีเลย รู้สึกใจแป้วที่หย่ากัน เพราะกลัวว่าถ้าจะจดทะเบียนใหม่ แล้วถ้าตนไม่จดล่ะ เพราะเขาเป็นคนเสนอเรื่องหย่าเองด้วย พอกลับมาก็รักกันตนมากกว่าตอนเป็นแฟนกันอีก ตนมองว่าการหย่าเป็นกุศโลบายที่สอนชีวิตคู่ ซึ่งเขารู้สึกว่าเขาขาดตนไม่ได้ เพราะตนเป็นแม่ของลูกเขา

             มดดำ บอกว่า การหย่าแก้เคล็ดครั้งนี้ถือว่าสำเร็จ เพราะป๋อ เป็นคนแข็ง อยู่ต่อไปอาจจะต้องเลิกกัน โดยเอ๋ บอกว่า ตนก็แข็ง ก็ต้องมีการปรับ อะไรที่เขาไม่ชอบตนก็ไม่ทำ เมื่อก่อนไม่มีความหวานเลย แต่เดี๋ยวนี้เวลาจะออกจากบ้านก็ต้องมากอดกันก่อน ก่อนนอนก็ต้องจุ๊บ ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยเป็นเลย ตนยังงง

             สามีเป็นคนประหยัด เสื้อของเขาตัวละ 50-60 บาท ใช้มาเป็นสิบ ๆ ปี ซึง่ถือว่าเป็นเรื่องดี เขาเป็นคนประหยัด แต่กับเมีย เขาเปย์ ช่วงเทศกาลก็เซ็นเช็คให้เมียเป็นล้าน ๆ ซึ่งตนไม่เคยขอ เขาก็ให้ตามเทศกาล อาจจะเป็นไปได้ที่เขาเห็นว่าเราเปลี่ยนสถานะมาเป็นมนุยษ์แม่ เลิกเล่นละคร ไม่เหมือนเพื่อนดาราคนอื่น เขาคงรู้สึกว่าตนเคยหาเงินเองได้ ล่าสุดมีละครติดต่อมา ตนอยากไปเล่น เขาบอกให้คิดดี ๆ ลูกจะอยู่กับใครเพราะเขาทำงาน 7 วัน ลูกจะไม่ได้อยู่กับทั้งพ่อและแม่ คนโต 8 ขวบ คนเล็ก 5 ขวบ ก็จริงเราควรเก็บโมเมนต์ช่วงนี้เพราะพอเขาโตเขาก็คงอยู่กับเพื่อนไม่เอาเราแล้ว

             จะออกจากบ้านทีก็จะเป็นเรื่องใหญ่มาก เหมือนขอพ่อออกไปเที่ยวเลย เขาจะถามเป็นชุด ๆ แล้วก็อารมณ์ไม่ดี พอตนจะไปเขาก็จะเดินหนี เขาจะโกรธ ไม่ค่อยชอบให้ออกไปไหน แต่ถ้าออกไปทำงานก็โอเค พอบอกว่าไปกับเพื่อน ก็ถามว่าใคร เพื่อนคนไหน เป็นเพื่อนจริงไหม พอให้ไปก็ทำเป็นโทร. เฟซไทม์ หา แล้วก็ดูว่าไปกับเพื่อนคนนั้น ๆ จริงหรือเปล่า ทั้งที่สมัยตอนเป็นแฟนกันไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ตนจนงง กลัว ไม่กล้าไปไหน ต้องเช็กคิวว่าเขาว่างไหม ถ้าเขาว่าง ตนไม่ไป เกรงใจเขา

              ขนาดอยู่ด้วยกัน รักกันขนาดนี้ เขาก็ยังกลัวตนมีกิ๊ก ทั้งที่ตนไม่มีประวัติเสียหาย ไม่ใช่คนเจ้าชู้ เขาบอกว่าถ้าหากตนก้าวขาออกจากบ้านไป ผู้ชายก็สามารถเข้าหาได้ตลอด สมัยก่อน ช่วงที่เขาดัง ๆ ก็เจ้าชู้เงียบ ๆ ตั้งแต่คบกันมา 15-16 ปี ไม่เคยมีเรื่องมือที่สามเลย เขาไม่ออกจากบ้าน ถ้าไปตนต้องไปด้วย เขาไม่ไปไหนเลย

              เอ๋ พรทิพย์ บอกอีกว่า เล่นละครกับป๋อ 2 เรื่อง ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาชอบเพราะตนมีแฟนอยู่แล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าป๋อ จะเป็นแฟนตน ไม่เคยคิดเลยเพราะตอนนั้นตนคือตัวร้าย ไม่เคยคิดเลยว่าพระเอกจะมาจีบ ไม่มีทาง จนเขามาบอกว่าชอบ ชอบผู้หญิงหน้าตาแบบนี้ ชอบผู้หญิงอวบ ๆ ตอนนี้ตนผอม เขาไม่ชอบ