ล่าสุด (1 มีนาคม 2565) มะหมี่ นภคปภา มีการออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทางอินสตาแกรม ในฐานะคนที่ชอบใส่บอดี้สูท โดยตั้งข้อสังเกตไว้ดังนี้...
ความสามารถในการขยับบอดี้สูทแล้วปัสสาวะของแต่ละคนไม่เท่ากันจริง ๆ บางคนทำบ่อยจนชิน บางคนไม่ชินและไม่คุ้นเคยที่จะถอดจากด้านบนลงด้านล่าง แต่มะหมี่สามารถทำได้ง่ายมาก ทั้งยังคุ้นชินกับการเข้าห้องน้ำแบบเร่งรีบแล้วใช้ทักษะการขยับบอดี้สูทเพื่อทำภารกิจได้
ประเด็นคือ ถ้าปวดมาก ๆ ไม่สามารถกลั้นได้ ในฐานะนักแสดงจะไปปัสสาวะทันที เพราะว่าการเป็นนักแสดงอาชีพ บางครั้งจะเลือกใช้ห้องน้ำอย่างที่ปรารถนามันไม่ได้ บางครั้งสถานที่ถ่ายทำอาจจะไม่มีห้องน้ำแบบที่ต้องการ แต่อาจจะมีรถสุขามาให้ใช้แทนได้ แต่บางสถานที่รถสุขาก็ไม่สามารถเข้าถึงได้
ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ทีมงานที่ต้องหามุมลับเพื่อหลบสายตาทีมงานบางส่วนให้นักแสดงทำกิจส่วนตัว นักแสดงบางท่านทำได้ แต่ก็มีบางท่านที่ไม่กล้าทำ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แค่อยากจะบอกว่านักแสดงมืออาชีพเขาทำกันจริง ๆ ส่วนกรณีแตงโมนั้น มะหมี่ไม่รู้นิสัยส่วนตัวของน้องว่าจะกล้าทำแบบนี้ไหม คนที่รู้ดีที่สุดคือผู้จัดการและเพื่อนสนิทที่สามารถตอบตรงนี้ได้
ส่วนเรื่องของการตัดสินใจของแตงโมที่จะเดินไปปัสสาวะ อันนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก แต่ประเด็นไม่ใช่เรื่องฉี่ท่าไหน ขยับบอดี้สูทยังไงให้ฉี่ได้ ประเด็นที่หลายคนมองข้ามคือ หลังจากเสร็จกิจแล้วแตงโมอาจทรงตัวไม่อยู่จึงจับที่ขาของเพื่อนที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ แต่อาจจะด้วยความตกใจที่เห็นแตงโมดึงแรงเพราะจะตก จึงสะบัดหรือใด ๆ ก็ตาม ทำให้แตงโมพลัดตกน้ำ อันนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะแซนคือคนสุดท้ายที่ต้องเล่าความจริง
มะหมี่ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า "อย่าด่าแม่นะ #คนสุดท้ายที่อยู่กับแตงโมน่าสงสัยสุด และถ้าน้องมีรอยช้ำที่ตาหรือใบหน้า ก็น่าจะมาจากเท้าของคนที่นอนเล่นโทรศัพท์ที่ตกใจที่แตงโมดึง ไม่น่าจะมาจากผู้ชายในเรือทำร้ายร่างกายแน่นอน อย่าลืมนะคนที่นอนเล่นโทรศัพท์เป็นสาวสอง แรงย่อมมีมากกว่าแรงผู้หญิงแน่นอน !!! นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานมิได้มีจุดประสงค์จะปรักปรำผู้ใด"