ประวัติ ลูกหนัง ศีตลา ลูกไม้ใต้ต้นของ ตั้ว ศรัณยู
ลูกหนัง ศีตลา สาวน้อยผู้มีเลือดศิลปินในตัว
เส้นทางสู่การเดบิวต์เป็นศิลปินวง H1-KEY
หลังจากได้ชิมลางงานในวงการบันเทิงเกาหลีด้วยการเป็นนางแบบ ลูกหนังก็ได้ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองจนได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดในค่าย LIONHEART Entertainment กระทั่งเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ต้นสังกัดก็ได้ออกมาประกาศเตรียมที่จะเดบิวต์ ลูกหนัง ศีตลา เป็นหนึ่งในสมาชิกวง H1-KEY (ไฮ-คีย์) ภายใต้การดูแลของค่ายน้องใหม่ GLG (Grandline Group) ทั้งนี้ วง H1-KEY เป็นเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติเกาหลี ที่มีคอนเซ็ปต์ hip-proud-chic มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ "เยล" (YEL), "ซอย" (SEOI), "ริน่า" (RIINA) และ "ศีตลา" (SITALA) โดยลูกหนังเป็นเมมเบอร์ชาวต่างชาติเพียงคนเดียวและยังเป็นพี่ใหญ่ที่สุดของวงอีกด้วย
จากนั้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ทางค่ายก็ได้ปล่อยเพลงเดบิวต์อย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อเพลงว่า “Athletic Girl” มาในคอนเซ็ปต์สาวนักกีฬา อวดหุ่นสุขภาพดี น่าหลงใหล พร้อมเสียงร้องและท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันเพลงดังกล่าวมียอดเข้าชม MV สูงถึงกว่า 11 ล้านครั้งเลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวงศิลปินหน้าใหม่ที่ได้รับความสนใจไม่น้อย
ดราม่าแรงถึงขั้น #แบนลูกหนัง
ทันทีที่มีข่าวว่าเธอเตรียมเดบิวต์เป็นศิลปินเกาหลีก็กลายเป็นดราม่าร้อนในโลกออนไลน์ เพราะบางส่วนมองว่าในอดีต ตั้ว ศรัณยู เป็นแกนนำ กปปส. และลูกหนังก็เคยเข้าร่วมการชุมนุมด้วยเช่นกัน ทำให้ชาวเน็ตพร้อมใจติดแฮชแท็ก #แบนลูกหนัง จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ ยืนยันจะไม่สนับสนุนวงนี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เดบิวต์ โดยให้เหตุผลว่าการกระทำของลูกหนังและครอบครัวของเธอนำมาสู่เหตุรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นอีกฝ่ายระบุว่า ลูกหนังไม่สมควรถูกแบน เนื่องจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพ่อเธออยู่เหนือการควบคุมของลูกหนัง รวมถึงควรหันมาสนับสนุนคนไทยที่มีความสามารถจนได้ไปเป็นศิลปินในต่างประเทศมากกว่า
อย่างไรก็ตาม หลังเดบิวต์ได้เพียง 5 เดือน ทางต้นสังกัดอย่าง GLG ก็ได้แจ้งว่า ลูกหนัง ศีตลา ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกวง H1-KEY ด้วยเหตุผลส่วนตัว หลังจากที่ได้พิจารณาจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างรอบคอบแล้ว ซึ่งการตัดสินใจของเธอครั้งนี้สร้างความเสียดายให้กับแฟน ๆ มากทีเดียว
ลูกหนัง ศีตลา สาวไทยในต่างแดน มาพร้อมความสามารถที่ไม่ธรรมดา บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นที่น่าจับตามอง ซึ่งเส้นทางในอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องคอยติดตามกัน
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Instagram sitalawongk, h1key_official, เฟซบุ๊ก H1 - KEY, kpopmap.com