จากกรณีนักร้องสาว โบกี้ พิชญ์สินี หรือ โบกี้ไลอ้อน เปิดเผยว่า ตนเองติดโควิด 19 โดยขอแจ้งเลื่อนงานและยกเลิกงานต่าง ๆ ที่รับไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งโบกี้ ระบุว่า เธอต้องตรวจ ATK ถึง 12 ครั้ง ถึงจะเจอว่าขึ้น 2 ขีด ก่อนที่ผลตรวจ PCR จะยืนยันในเวลาต่อมาว่าติดเชื้อจริง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (1 เมษายน 2565) โบกี้ไลอ้อน ได้มีการชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องตรวจ ATK ถึง 12 ครั้ง ภายในวันเดียวผ่านทวิตเตอร์ โบกี้ไลอ้อน ระบุว่า วันที่ตรวจคือ 31 มีนาคม ตนเองไม่ได้มีไข้ แต่รู้สึกระคายคอจึงทำการตรวจ ATK ซึ่งปกติเป็นคนแพนิกและกังวลมาก หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับคอและเสียง เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ใช้ทำงาน และทุกวันจะตรวจ 1-2 ครั้งอยู่แล้วก่อนออกไปทำงาน
โบกี้ ยอมรับว่าเวลาตรวจเองจะไม่มั่นใจว่าต้องแยงลึกแค่ไหนถึงจะพอ ประกอบกับเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ วันนั้นจึงแยงไปหลายรอบ รวม 10 รอบ แต่ก็ยังขึ้น 1 ขีด ก่อนตัดสินใจติดต่อตรวจ PCR แบบตรวจที่บ้านในราคา 6,750 บาท และให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ATK ให้อีกรอบรวมเป็นครั้งที่ 12 จึงพบว่าขึ้น 2 ขีด คือติดเชื้อ
ทั้งนี้ สาเหตุที่ตรวจ 10 ครั้งแต่ไม่เจอ ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ที่ตรวจไม่น่าเชื่อถือ และผล PCR ก็ออกมาภายใน 4 ชั่วโมง ยืนยันว่า ตนเองติดโควิด 19 ตามที่แจ้งข่าวไป
อย่างก็ตาม หลังโบกี้ได้มีการเปิดเผยว่ามีการแยงจมูกถึง 12 ครั้ง ถึงจะพบเชื้อ ก็ตกเป็นกระแสพูดถึงอย่างมาก ว่าเหตุใดถึงต้องทำถึง 12 ครั้ง และทำแบบนี้จะส่งผลเสียอย่างไรหรือไม่