จีน่า เปิดใจครั้งแรก เคลียร์ทุกดราม่าบอดี้สูทแดง - สไตลิสต์ดังยอมขอโทษหลังถูกฟ้อง

          จากดราม่าใหญ่ของคนวงการบันเทิงช่วงวาเลนไทน์ กรณี ฮิปโป สมภพ กิตติสารธรรม สไตลิสต์ดัง โพสต์ฉะถึง จีน่า วิรายา หรือ จีน่า เดอะเฟซ กรณีให้สไตลิสต์คนหนึ่งช่วยออกแบบชุดให้ พอสเก็ตไฟนอลเสร็จกลับไม่ได้จ้าง แต่กลับปรากฏงานที่จีน่าสวมชุดคล้ายกันกับที่ให้ออกแบบลงในไอจี ต่อมา จีน่า ชี้แจงว่าได้ตกลงรายละเอียดกับสไตลิสต์คนดังกล่าว ซึ่งอีกฝ่ายไม่ติดใจใด ๆ แล้ว หลังจากนี้ในประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยบุคคลที่สาม หรือบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกคนรอ ทางฝั่งตัวจีน่าออกมาชี้แจงด้วยตัวเองนั้น

          อ่านข่าว : เอาแล้ว ! ดาราสาวเวทีดัง เจอสไตลิสต์แฉยับ ซัดแรง ประกาศคว่ำบาตรทั้งสังกัด ?

          อ่านข่าว : จีน่า เคลื่อนไหวแล้ว ! หลังสไตลิสต์ดังโพสต์ฉะแรง นักแสดงหรือมิจฉาชีพ ?

          คืบหน้าวันที่ 1 เมษายน 2565 ฮิปโป สมภพ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กขอโทษ จีน่า เกี่ยวกับประเด็นดราม่าดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นการโพสต์หลังได้รับคำตัดสินของศาล จากกรณีที่ทำให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหาย โดยระบุข้อความว่า

          "จากกรณีข่าวเรื่องชุดบอดี้สูทสีแดงวันวาเลนไทน์ วันที่15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ทางข้าพเจ้านายสมภพ กิตติสารธรรม ได้มีการโพสต์ถึงตัว จีน่า เดอะเฟส (นางสาววิรายา ภัทรโชคชัย) โดยข้าพเจ้าได้โพสต์ข้อความซึ่งไม่เป็นความจริง อันทำให้ทางตัวจีน่าเกิดความเสียหายและเสียชื่อเสียง ข้าพเจ้าจึงอยากออกมาแสดงการขอโทษต่อตัว จีน่า เดอะเฟส"

          ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ต่อมา ฮิปโป โพสต์เพิ่มเติมว่า "กำลังใจมาดี แต่อยากให้ช่วยหางานให้ด้วย 555555 ยังมีสิ่งที่ต้องสะสางให้หมด สไตลิสต์ อินฟลู รับหมด แค่ inboxมาฮะ" โดยคอมเมนต์ด้วยว่า "เสียหายหลายแสนไม่ใช่แค่คำพูดติดปากอีกต่อไป"

          ล่าสุด (2 เมษายน) จีน่า โพสต์ผ่านอินสตาแกรม ระบุว่า "จากกรณีข่าววันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่เกิดขึ้นตัวจีน่าเองยังไม่เคยออกมาชี้แจงความจริงในมุมของตัวจีน่าเองเลยซึ่งจะขออนุญาตชี้แจงดังนี้นะคะ (ขออนุญาตเอ่ยชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้นะคะ)

          ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ตัวจีน่าและทีมงานได้มีการคิดคอนเทนต์วันวาเลนไทน์แล้วไม่ได้มีการใช้ชุดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ด้วยสถานการณ์หลาย ๆ อย่างไม่เอื้ออำนวยต่อคอนเทนต์นั้นจึงได้มีการติดต่อน้องแบงบูมที่เป็นสไตล์ลิสต์ที่ใช้กันอยู่ (ก่อนหน้านั้นได้ทำกันอยู่สองงานคือคอนเทนต์คริสต์มาสกับคอนเทนต์ตรุษจีน และมีคำถามว่าทำไมไม่แทกชุดให้ เพราะทางเราได้จ่ายราคาเต็ม ไม่มีการขอลดใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ)

          ปกติการทำงานของจีน่ากับน้องแบงบูม ทุกครั้งจีน่าจะแจกโจทย์ไปให้ว่าอยากทำคอนเทนต์วันตรุษจีนนะ คิดให้หน่อย แค่นี้ แล้วให้น้องแบงบูมคิดทั้งหมดและสเก็ตภาพออกมาแล้วก็พัฒนาแบบกัน และให้ทำออกมาเป็นชุด

          แต่ครั้งนี้คอนเทนต์วันวาเลนไทน์จีน่าได้มีการโทร. หาน้องแบงบูมและอธิบายสิ่งที่เราอยากได้ ทั้งสีชุด ตัวชุด และดีเทลต่าง ๆ และตัวน้องแบงบูมก็ได้สเก็ตภาพออกมาจากสิ่งที่จีน่าอยากได้ และเราก็พัฒนาแบบจากภาพนั้น แล้วสุดท้ายก็สั่งให้น้องแบงบูมหยุดการทำงานครั้งนี้ทันที เนื่องจากจะกลับไปทำคอนเทนต์แรกและคอนเทนต์แรกที่จะทำไม่มีความจำเป็นต้องใช้เสื้อผ้า สุดท้ายด้วยสถานที่และความพร้อมหลาย ๆ อย่างไม่สามารถทำคอนเทนต์ที่ตั้งใจไว้ได้

          หลายคนถามว่าทำไมถึงไม่ใช้น้องแบงบูมต่อ เพราะด้วยความเกรงใจต่อน้องแบงบูมที่ปกติเราจะให้เวลาเขาทำงาน 3-5 วัน หรือเป็นอาทิตย์ในการทำชุด แต่ครั้งนี้เวลาอันจำกัดเหลือเวลาแค่คืนเดียว ตัวจีน่าเองจึงใช้ช้างอีกท่านหนึ่งทำชุดงานด่วนขึ้นมา ซึ่งได้โทร. บอกรายละเอียดชุดที่อยากได้ ซึ่งตรงนี้จีน่าเห็นว่าได้สั่งให้น้องแบงบูมหยุดทำแล้ว แต่ก็ลืมไปว่าน้องแบงบูมได้มีการทำงานแล้วถึงแม้ว่าเราจะสั่งให้เขาหยุดทำไปแล้วก็ตาม

          พอเกิดเรื่องขึ้นตัวจีน่าเองก็ได้มีการติดต่อหาตัวน้องแบงบูมทันทีที่ทราบเรื่อง และได้มีการคุยและขอโทษโดยตรงกับเจ้าตัว และได้ปรับความเข้าใจกัน และน้องแบงบูมไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพราะเราไม่ได้มีเจตนาทำไม่ดี

          ท้ายที่สุด ด้วยตัวเราเองรู้สึกผิดพลาดและไม่สบายใจขออนุญาตน้องโอนเงินให้และขอเลขบัญชีแล้ว ตอนแรกน้องไม่รับเงิน แต่สุดท้ายน้องก็ส่งเลขบัญชีและรับเงินไปเต็มจำนวน แบบทุกครั้งที่เคยทำงานด้วยกันมา โดยที่ไม่ได้มีการตัดชุดให้ทางเรา

          ส่วนทางคุณฮิปโป (นายสมภพ กิตติสารธรรม) ผู้ที่เป็นคนโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียจนทำให้คนในสังคมออนไลน์มีการเข้าใจผิดคิดว่าคุณฮิปโปเป็นสไตล์ลิสต์ผู้ออกแบบชุดครั้งนี้ ทางจีน่าขอชี้แจงว่าเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคอนเทนต์นี้ และจีน่าก็ไม่เคยว่าจ้างเขามาร่วมงานส่วนตัวใด ๆ และสิ่งที่เขาโพสต์ไปนั้น นอกจากจะทำให้จีน่าถูกเข้าใจผิดไปไกลและยังทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานทำให้สูญเสียรายได้

          จากการกระทำของเขาครั้งนี้ที่ทำให้คนเข้าใจผิดไปไกลและเกิดดราม่าจนไม่สามารถควบคุมความเสียหายนี้ได้ ทางเราจึงตัดสินใจฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งหลังจากได้มีการพูดคุยไกล่เกลี่ยและเจรจาแล้วต่อหน้าศาล ตัวจีน่าได้ยอมลดหย่อนให้ค่ะ และผลการตัดสินก็เป็นไปตามความถูกต้องตามกฎหมายที่ศาลตัดสินค่ะ ขอบคุณค่ะ"