จากกรณี ครูชลธี ธารทอง หรือ นายสมนึก ทองมา ครูเพลงชื่อดัง ฟ้องหย่าภรรยา นางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม เมื่อปี 2563 หลังอยู่กินด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2536 ขณะที่ ครูปุ้ม ยื่นฟ้องเลขาสาวคนสนิทของครูชลธี ทำครอบครัวแตกแยก ซึ่งศาลตัดสินให้ครูปุ้มชนะคดี ซึ่งต่อมาในปี 2565 กลายเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อ ครูชลธี และ ครูปุ้ม กลับมาคืนดีกันแล้ว
อ่านข่าว : ครูชลธี เสียรู้เด็ก ลั่นจากนี้จะไม่ยอมโดนหลอก สูญเงิน 10 ล้าน - รถหรู ยังดีได้คัมแบ็กเมียหลวง
ล่าสุด (15 เมษายน 2565) รายการ เป็นเรื่องใหญ่ ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.05 น. ทางช่อง JKN 18 ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน สัมภาษณ์ ครูชลธี ธารทอง และ ครูปุ้ม ศศิวิมล ทองมา พาย้อนชีวิตรักและจุดเริ่มต้นความแตกหัก ซึ่งวันนี้ครูชลธีสำนึกได้แล้ว ส่วนภรรยาให้อภัยสามีได้อย่างไร
ก่อนจะสำนึก ก็ไปไกลถึงหมายศาล วันที่รับหมายศาล ความรู้สึกครูปุ้มเป็นยังไง ?
ปุ้ม : วันนั้น 19 พฤษภาคม 2562 เวลา 8 โมงกว่า พี่สาวบอกว่า เฮ้ย ! ดูข่าวช่องนี้ เราก็ถามว่าทำไม ? เขาบอกว่าครูชลฟ้องหย่าเธอ เราก็ดูเลยให้พี่แม่บ้านไปซื้อหนังสือพิมพ์ เราอยากรู้ว่าฟ้องหย่าเรื่องอะไร มูลเหตุอะไร
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราพยายามใช้ชีวิตปกติ ?
ปุ้ม : ปกติ พี่ไม่เคยระราน เคยพยายามติดต่อ เตือนสติเขาก็ไม่หวนกลับ
ณ วันนั้นกระบวนการทางศาลมันมีเดินหน้าไหมครับ หรือว่าเจรจาแล้วจบนอกศาล ?
ปุ้ม : ครั้งแรกไกล่เกลี่ยเมื่อ 2 กรกฎาคม 2562 คุณครูยอมถอนฟ้อง พี่ปุ้มฟ้องผู้หญิงไป 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 30 ธันวาคม 2563 ล่าสุดเพิ่ง 4 เมษายน 2565 พี่ฟ้องเรื่องครอบครัวแตกแยก ชนะหมด ศาลให้เต็มเพดาน
ตอนนั้นใจเราคิดจะไปแน่นอน ไม่มีความลังเลเลยเหรอ คิดว่าจะไปอยู่อีกบ้านหนึ่งแน่ ๆ ?
ชลธี : คิดว่าอย่างนั้น ไม่รู้เป็นอะไรด้วย ไม่รู้ผีอะไรมาเข้าสิง
เราไปอยู่บ้านเขา หรือเราไปซื้อบ้านใหม่ ?
ชลธี : ซื้อใหม่
ไปอยู่ด้วยกันแล้ว 4 ปี พอไปอยู่ด้วยกันจริง ๆ เหมือนหรือต่างกับที่เราคิดยังไงครับ ?
ชลธี : โอ้โห ป่านนี้คงไม่ได้มานั่งพูดอยู่อย่างนี้ เป็นอะไรไปแล้วไม่รู้ เพราะพฤติกรรมหลัง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวผม ชีวิตประจำวันไม่มีความสุขเลย มีแต่อะไรไม่รู้เข้ามา แทนที่จะพูดกันดี ๆ หน้าหงิกหน้างอ กระทั่งคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เราเป็นใครแล้วเขาเป็นใคร เขาทะเลาะกับผมใช้สรรพนามเรียกผมว่า “ไอ้ชลธี” ทำไมเรียกเราอย่างนั้น เราเป็นศิลปินแห่งชาติ โดนสวนศิลปินแห่งชาติมีอะไร คนเหมือนกันแหละ เราก็ว่าเขากำลังดูหมิ่นพระบรม ท่านพระราชทานตำแหน่งให้ ฉะนั้นให้เกียรติกันหน่อย
ทะเลาะกันถึงขั้นเป็นกิจวัตรเลยไหม ความหวานหายไปเลย ?
ชลธี : หายไปเลย
ปุ้ม : ยิ่งคืนก่อนกลับ ขออนุญาตนะ เห็นครูเล่าว่าทะเลาะกันตั้งแต่เย็น แล้วคืนวันที่ 14 ไม่ได้นอนทั้งคืนเลย วันที่ 15 เลยกลับมาหาครูปุ้ม
ทำไมเขาถึงเลือกทะเลาะกับเรา ทั้งที่เราเป็นคนดูแลบ้าน เงินทองทุกอย่าง
ชลธี : ผมเดาอะไรไม่ถูก คาดเดาอะไรในตัวเขาไม่ถูกเลย ผู้หญิงคนนี้อ่านยากมาก ทั้งการกระทำ วิธีปฏิบัติ ความคิดไกลมาก อาฆาตมาดร้ายมาก
จุดที่ทำให้ได้สติกลับมาว่าไม่ใช่แล้ว ฉันคิดผิดแล้ว อะไรคือจุดเปลี่ยน ?
ชลธี : นี่แหละเรื่องนี้แหละ เรื่องที่เขาใช้คำแย่ ๆ ก้าวร้าว ไม่รู้ต่ำรู้สูง
ตอนนั้นเงินของเราหมดไปกับเรื่องอะไรบ้าง ?
ชลธี : โอ้โห ! 10 กว่าล้าน ค่าใช้จ่ายไปจ่ายหนี้ให้เขา รถที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ผมก็โอนและผ่อน บ้านที่เขาอยู่ ผมก็ซื้อให้ ไม่ได้เป็นชื่อผมเลย เขาพูดว่าอะไรรู้ไหม อย่าเอาเป็นชื่อคุณเลย เดี๋ยวเมียเก่าคุณก็มาทวงคุณอีก
ตอนนั้นเราก็เห็นด้วยเหรอ ?
ชลธี : ใช่ เหมือนคนโง่ แล้วก็โง่จริง ๆ นั่นแหละ
ถ้าเป็นคนบางยุคจะบอกว่า เหมือนโดนเสน่ห์บังตา เหมือนโดนทำของใส่ มันดูหลงมากเลยนะ ?
ปุ้ม : หลงมาก ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง
ตอนนั้นครูปุ้มซึ่งเป็นภรรยาที่ถือสินสมรสอยู่ เราไม่มีสิทธิหรือส่วนในการเข้าถึงการเงินของสามี ?
ชลธี : เขาไม่รู้หรอก บัญชีผมเขาไม่รู้
ปุ้ม : อย่างที่แกรมมี่เขามีรายได้อยู่ โทร. ไปบอกเลยนะ ถ้าครูปุ้มโทร. มาไม่ต้องบอกอะไรนะ คิดดูขนาดพี่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย พี่ควรจะรู้เรื่องเงินสามี ทางโน้นเขาก็เกรงใจเลยไม่พูดอะไร เวลาโทร. ไปก็อึกอัก
ตอนนั้นครูชลถึงขนาดบอกว่าชีวิตเหมือนคนตายทั้งเป็น อยากฆ่าตัวตายเลย ?
ชลธี : หาทางออกไม่ได้ ตอนนั้นกำลังมืด ชีวิตมันมืดมาก
เราเลิกแล้วเดินออกจากบ้านได้เหรอ เงินก็อยู่กับเรา ทำไมเราไม่ทำแบบนั้น ?
ชลธี : ผมไม่มีเงินแล้วตอนนั้น
ใช้ไปกับเขาหมดแล้ว คิดว่านี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปไหม ?
ชลธี : คงประมาณนั้น
ที่ผ่านมาครูปุ้มอยู่เฉย ๆ เพื่อรออะไร รอเลิกไหม คิดไหมว่าเดี๋ยวก็หย่าให้มันจบ ๆไป ?
ปุ้ม : ไม่ ตอนนั้นมีหลายคนบอกว่าทำไมพี่ไม่หย่า ที่บอกว่าพี่ไม่หย่าเพราะพี่ต้องการรักษาชีวิตครู เพราะพี่รู้ว่าอะไรคืออะไร
แปลว่าพี่รู้ว่าเขาจะกลับมาไหม ?
ปุ้ม : คำว่าพี่รู้ คือ พี่รู้ว่ายังไงคนนั้นก็ไม่เอาครู พี่คิดว่าวันสุดท้ายพี่จะเป็นคนทำศพครู พี่คิดแค่นี้ ครูจะกลับหรือไม่กลับไม่รู้ แต่วันสุดท้ายครูจะอยู่ตรงไหน พี่จะดูแลศพแค่นั้นเอง ถ้าครูตายก่อนพี่
ชลธี : มันมีอะไรบางอย่างบอกผมตลอดว่าเขายังรอผมอยู่ รอที่จะให้อภัย เขารับผิดชอบลูกเต้าบ้านช่อง
ปุ้ม : พี่ดูแลเองหมดเลย แม้แต่ลูกเขาป่วยผ่าตัดเป็นแสน โทร. ไปเจอเลขา เลขายังไม่บอกเลย
มันไม่มีความแค้นเลยเหรอ ?
ปุ้ม : อารมณ์นั้นมันมีบ้างค่ะ ทำไมทำกับเราขนาดนี้ พี่เชื่อในเรื่องความดี ทำดีย่อมได้ดี แต่พี่ก็ไม่เชื่อว่าวันนี้ครูจะกลับมา พี่คิดว่าวันที่ครูกลับมาน่าจะเป็นศพมากกว่า พี่คิดถึงตรงนั้น
สุดท้ายแล้วเริ่มต้นจากครูชลเป็นคนติดต่อกลับมา มันเริ่มต้นยังไง ?
ชลธี : ผมโทร. หา ผมเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว แล้วก็กลับไป
ปุ้ม : เคยมีครั้งหนึ่งค่ะ ก็มีปัญหาแบบนี้ เขาโทร. มาหาพี่บอกว่าตอนนี้พ่ออยู่ที่พระแท่น แล้วเขาก็กลับไปอีก เพราะว่าพอถึงบ้านหลังนั้นผู้หญิงคนนั้นโทร. กลับมาหาพี่ แล้วพอมาวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา เบอร์พี่โดนบล็อกหมดเลย เขาฉลาด เขาโทร. หาพ่อของ อิสรพงษ์ ดอกยอ ที่เป็นเพื่อนสนิท บอกว่าขอเบอร์ปุ้มหน่อย ซึ่งเป็นวันที่ครูกลับมาหาพี่
จริง ๆ แล้วเราเหมือนกึ่ง ๆ ถูกตัดจากโลกภายนอกเลยไหมตอนนั้น ?
ชลธี : ใช่ ปิดหมดเลย โทรศัพท์โทร. หาใครก็ไม่ได้ ช่วงนั้นที่ผมอยากตาย
ปุ้ม : สื่อมวลชนรู้ดีค่ะ ช่วงที่ครูมีปัญหาเยอะ ๆ โทร. ไปจะเป็นเลขารับ ไม่ได้คุยกับครูเลย บางครั้งต้องเสียงาน ครูหมดโอกาส แม้แต่ลูกทั้งสองคนไม่สามารถติดต่อพ่อได้เลย
ครูชลรู้ไหมว่าเรากำลังถูกกีดกันออกจากโลกภายนอก เคยพยายามหนีออกจากบ้านไหม ?
ชลธี : รู้ครับ ผมเคยพยายามออกแล้ว เขาก็ตาม
ปุ้ม : อย่างครั้งล่าสุดก็ตาม โทร. ตาม
สุดท้ายแล้วอะไรที่ทำให้ตามก็ตาม ฉันไม่กลับแล้ว ?
ชลธี : ทะเลาะกันครั้งสุดท้ายอย่างที่ผมเคยพูด สรรพนามที่ใช้กับผมต่ำมาก เปลี่ยนหน้าผม ไอ้หน้านั่น ไอ้หน้านี่ มีอย่างที่ไหนคนอายุ 30 มาด่าคน 85 แบบนี้ ผมเคยถามว่านี่พ่อแม่ได้สั่งสอนบ้างหรือเปล่า เขาบอกอย่ามาพูดถึงพ่อแม่ฉันนะ พอพูดเสร็จผมก็บอกว่า “เอาอย่างนี้ กูไปแล้ว” ผมพูดคำว่ากูเลย มันบอก .เชิญเลย อยากไปไหนเชิญเลย” มันโยนกุญแจรถให้ผม ผมก็ไป ไม่ได้เอาอะไรออกมาเลย เงินก็ไม่มีติดตัว
วันที่เขากลับบ้านมา ครูปุ้มรู้สึกยังไงครับ ?
ปุ้ม : 3 ความรู้สึกนะ ตกใจ ดีใจ เสียใจ ตกใจว่าทำไมครูกลับมา ดีใจคือเขากลับมาแล้ว เสียใจคือ เราไม่เหลืออะไรเลย สภาพครูก็เป็นแบบนี้ ที่เห็นอยู่ ครูที่ไปจากพี่ ครูเดินครูวิ่งได้ มีทุกอย่างทั้งสุขภาพทั้งเงิน กลับมาไม่เหลืออะไรเลย เรามีคำตอบให้ตัวเองว่าทำไมเขาถึงยอมปล่อยผู้ชายคนนี้มาหาพี่
ในใจเราตอนนั้นเราให้อภัยเลยทันทีไหม ?
ปุ้ม : ถ้าได้เห็นภาพครูวันนั้น เขาเดินน้ำตาคลอมา พี่ลืมทุกเรื่องไปหมดเลยที่เขาทำ คิดว่าพี่ต้องดูแลเขาเพราะยังไงก็ไม่รู้จะเอาเขาไปไว้ไหน เชื่อว่าไม่มีใครดูแลครูได้ดีเท่ากับพี่
แล้วลูก ๆ โกรธไหม ?
ปุ้ม : ไม่มีเลยค่ะ ลูกทั้งสองคนน่ารักมาก วันที่พ่อมาถึง พี่ก็วิดีโอคอลหาลูก เขาก็ดีใจมาก มาหาพ่อ อยากกอดพ่อ
วันที่กลับมา ครูชลมีอะไรพูดกับครุปุ้มกับลูก ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ?
ชลธี : นาทีแรกที่เจอเขาบอกกับเขาว่า พ่อกลับมาแล้วนะ กลับมาหาปุ้มแล้ว แล้วจะไม่กลับไปอีกแล้ว
มีสักนิดไหมครับที่เรารู้สึกว่าเขาไม่อยากได้เราแล้ว ?
ชลธี : ผมเชื่อว่าเขาต้องให้อภัยผม เพราะเขาเป็นคนที่มีความอ่อนโยนในตัว เขาไม่เคยอาฆาตมาดร้าย ยิ่งกับผมเขาไม่เคยเลย ได้แต่ห่วง ผมรู้เขาห่วงผม แต่ผมก็ทำไม่ดี มันบาปนะ ผมบอกกับตัวเองว่าบาปมาก
เห็นว่าเรากลับมายกมรดกให้ลูกก่อนตาย คือลิขสิทธิ์เพลงไหมครับ หรืออะไร ?
ชลธี : ลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด 5,000 เพลงที่ผมแต่งให้ลูก 2 คน ส่วนบ้านให้ครูปุ้ม
ครูปุ้มมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้เราก้าวข้ามปมในใจนี้ได้ ?
ปุ้ม : พี่ตั้งมั่นว่าการให้อภัยคือทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ และการไม่อาฆาตแค้น บวกกับพี่เป็นคนที่จิตฝึกธรรมะตลอด พี่ได้เรียนรู้ว่าการอาฆาตแค้นมันไม่ได้มีผลดีกับตัวเราเลย กับผู้ชายคนหนึ่งที่ 30 ปีเขาดูแลเรา ถึงแม้เขาจะผิดพลาดไปบ้าง ถึงจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ทำไมจะอภัยไม่ได้ ช่วงชีวิตหนึ่งครูจะอยู่กับเราถึงกี่ปี 5 ปี 10 ปี เต็มที่ พี่ปุ้มเองจะขอดูแลครูค่ะ
ครูชลอยากเตือนสติอะไรหลายคนกับสิ่งที่ผิดพลาดไป เราเรียนรู้อะไรบ้างครับ ?
ชลธี : อยากจะบอกสังคมทั่วไปนะ ว่าสิ่งที่ผมทำเป็นตัวอย่างที่เลว อย่าไปเอาอย่างเลยนะครับ อย่าคิดทำเลย มีภรรยาคนเดียวก็พอแล้ว เลี้ยงเขาให้ดี ๆ มีหลายคนมันไม่มีประโยชน์ ปวดหัวอย่างนี้แหละ ขอให้ลูกผู้ชายทุกคนดูแลครอบครัวให้ดีครับ
ปุ้ม : อยากจะบอกแฟน ๆ ว่าพี่ปุ้มมีเหตุผล พี่ปุ้มคิดว่าคนหนึ่งคนเราจะทิ้งเขาไปได้อย่างไร ถ้ามองอนาคตแล้วเขาไม่มีใครเลี้ยง อยากบอกกับผู้หญิงทุกคนว่าเราตั้งมั่นในความดี หากเกิดปัญหาอย่างครูปุ้มกับครูชลให้ตั้งสติ เอาความดีมาคุยกัน วันหนึ่งสิ่งดี ๆ จะกลับมา สำหรับลูกผู้ชายทุกคน ไม่มีใครรักเราเท่ากับภรรยาที่อยู่ที่บ้านหรอก