ออฟฟี่ เปิด 3 ปี จมดิ่งกับดราม่า โดนแฉแหลก - รับคบซ้อนจนเลิกสามี ทั้งที่มีลูกด้วยกัน

          เนื่องด้วยมรสุมดราม่าที่ถาโถมเข้าใส่ ทำให้นางแบบสาว ออฟฟี่ แม็กซิม ต้องหายหน้าหายตาไปจากโลกโซเชียลอยู่พักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโกงเงินบริจาค อมเงินค่าตัวลูกน้อง รวมถึงมีคนออกมาแฉพฤติกรรมต่าง ๆ มากมาย ส่งผลให้เกิดความเครียดจนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล

          ล่าสุด (30 พฤษภาคม 2565) หลังห่างหายไป 3 ปี ออฟฟี่ แม็กซิม ก็ออกมาทำคลิปเปิดใจชีวิตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันผ่านทางช่องยูทูบ Aoffy Maxim โดยตั้งชื่อคลิปว่า "3 ปี ของออฟฟี่ที่หายไป #ออฟฟี่ตอบหมดเปลือก"

          ออฟฟี่ เล่าว่า ในปีแรกที่โดนคนด่าทั้งประเทศ รู้สึกรับไม่ได้จนต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลและบอกหมอให้ฉีดยานอนหลับ พอตื่นปุ๊บก็ขอฉีดยานอนหลับอีก รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย กินยาไปร้อยกว่าเม็ด ไม่อยากตื่นมาแล้ว

         คุณหมอไม่ให้จับโทรศัพท์เลย เพราะออฟฟี่อดไม่ได้ที่จะเข้าไปอ่านคอมเมนต์ บางคอมเมนต์ก็แรงมาก ทั้งด่าทั้งสาปแช่ง รู้สึกมืดแปดด้าน เหมือนชีวิตไม่เหลืออะไรแล้ว ตอนอยู่ในช่วงรักษา กินยาเสร็จก็อาละวาด หมอบอกว่าอัตราการฆ่าตัวตายประมาณ 97% อาการเหมือนกับไบโพลาร์และซึมเศร้า

           อาละวาดหนักจนถึงขั้นผลักคุณพยาบาล โวยวายจะเอาโทรศัพท์และอยากออกไปข้างนอก แต่เดินไปก็ไม่มีทางออก ประตูล็อก 3 ชั้น ต้องอยู่ในห้องพิเศษ ส่วนตอนนี้อาการดีขึ้นจนคุณหมอดีใจ กลับมาสดใสเหมือนเดิมแล้ว ทำงานได้ คิดบวกขึ้น เป็นบทเรียนทำให้เห็นข้อเสียของตัวเอง

           ช่วงรักษาตัวน้ำหนักขึ้นมาอยู่ที่ 71 กิโลกรัม ช่วงปีแรกน้ำหนักยังไม่ขึ้น เพราะเครียด มาปีที่ 2 ติดเรื่องโควิด 19 ไม่ได้ออกไปไหน อยู่บ้านก็หาอะไรทำที่มีความสุขของตัวเอง ไม่แตะโทรศัพท์ มีความสุขกับการกิน

           - หมดเงินไปกับการเที่ยว ยอมรับในช่วงปีที่ 2 ที่หายไป ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับสังคม แต่อยากออกไปเที่ยว เวลาเมาแล้วหลับก็ไม่ต้องคิดอะไร ติดการพนันเสียเงินหลายล้าน

           - เรื่องเงินบริจาค เกิดจากความสะเพร่าของตัวเอง ตอนนั้นทำงานเยอะแล้วดันใช้บัญชีส่วนตัวไปรับเรื่องการบริจาคเข้ามา กลายเป็นเงินไปรวมกัน แต่ยอดบริจาคมันจะดูน้อย ๆ ซึ่งออฟฟี่ก็จะบวกยอดน้อย ๆ ส่วนยอดเป็นแสน อันนั้นจะเป็นเงินของออฟฟี่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้มันถูกต้องโดยการชี้แจง ยืนยันไม่คิดโกงเงิน ยอมรับว่าครั้งนั้นพลาด

           - เรื่องด่าลูกน้อง เมื่อก่อนถึงขั้นด่าจนลูกน้องร้องไห้กลับบ้าน แต่ตอนนี้เวลาทำงานก็ใช้คำพูดดี ๆ รับฟังความคิดเห็นคนอื่นมากขึ้น ทำให้มีความสุขในการทำงานมากกว่าเดิม

           ออฟฟี่ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนสูญเสียทุกอย่างแม้กระทั่งคนที่รัก ซึ่งก็คือพ่อของลูก ถ้าเป็นคนอื่นคนไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปได้ เพราะฝ่ายชายดีมาก แต่ออฟฟี่ทำตัวเอง ช่วงที่เกิดเรื่องทะเลาะกัน ออฟฟี่ไม่กลับบ้านเลย แต่สามีนอนบ้านทุกวัน พอจะเข้าบ้านก็โทร. ไล่เขาออกไป ยอมรับว่าเจ้าชู้ คบซ้อน ทั้ง ๆ ที่มีลูกด้วยกันแล้ว และฝ่ายชายทำหน้าที่สามีดีมาก ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่มีวันทำแบบนั้นอีก

           ก่อนจะกล่าวขอโทษและขอบคุณทุกคนที่ออกมาพูดให้บทเรียน พร้อมขอบคุณเจ้าของแบรนด์รวมถึงแฟนคลับที่ยังให้โอกาส หลังจากนี้ไป ไม่ได้พูดว่าตัวเองจะเป็นคนดี ก็ยังใช้ชีวิตเสเพลของตัวเอง แต่ว่าอยู่ในขอบเขตของตัวเองมากขึ้น จะเอาใจใส่ความรู้สึกของคนอื่น ไม่พูดว่าร้ายหรือติเตียนใครอีกแล้ว เพราะตัวเองก็มีข้อเสียเหมือนกัน