เป็นเรื่องราวความรักที่ประทับใจผู้ชมอย่างมาก สำหรับ กอล์ฟ พิชญะ และ เชียร์ ฑิฆัมพร ที่หวนมาเจอกันอีกครั้งในรายการ The Wall Song ร้องข้ามกำแพง วันที่ 16 มิถุนายน 2565 ก่อนที่ทั้งคู่จะเปิดใจถึงกันเป็นรักครั้งแรกที่จริงจัง คบกันตั้งแต่สมัย ม.4 - ม.5 ซึ่งกอล์ฟเป็นคนทุ่มเทมาก แต่หลายทำให้ไปด้วยกันไม่ได้ เชียร์รู้สึกผิดมากและไม่คิดว่ากอล์ฟจะมา ทั้งคู่ยังจำเรื่องราวระหว่างกันได้ดีมาโดยตลอด พูดไปก็น้ำตาคลอ ก่อนจะกอดกันด้วยมิตรภาพ
ภายหลังจบรายการยังโพสต์ความในใจถึงกันอีกด้วย กลายเป็นความหวังดีในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งคู่ดีใจที่ได้เฝ้ามองการเติบโตของอีกฝ่ายอยู่ห่าง ๆ ยินดีที่อีกฝ่ายมีความรักที่ดี และยังบอกด้วยว่าถ้าแต่งงานอย่าลืมชวนด้วย
อ่านข่าว : กอล์ฟ ย้อนสมัยคบ เชียร์ เสียอาการดูดน้ำหลอดเดียวกัน ต้องแอบแค่ไหนเวลาเจอกัน
ความบังเอิญเหมือนในละคร
ชีวิตเชียร์ก็เหมือนในละครเหมือนกันนะ เจอกันโดยแค่บังเอิญมาก ๆ เป็นเหตุการณ์ที่เราไปงานอีเวนต์ที่มาบุญครอง กำลังเดินข้ามไปหาเพื่อนที่ฝั่งสยาม แค่วินาทีที่เดินข้ามถนนแล้วสวนกัน เรารู้สึกว่า เฮ้ย ! คนนี้หน้าตาดีจัง คนนี้เท่จัง ซึ่งเพื่อนที่เป็นทอมกรี๊ดเขามาก เพื่อนกรี๊ดประมาณว่า “ชอบคนนี้ ชอบมาก กรี๊ดมาก เป็นแฟนคลับ” เราได้ยินแล้วก็งงว่าเขาเป็นใคร ไม่รู้จัก เพื่อนสวนกลับว่า ไม่รู้จักได้ไง อะไรแบบนี้
จากนั้นเพื่อนเดินข้ามถนนตามไปเพื่อไปแอบดูเขาสักหน่อย ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้นเดินย้อนกลับมา เราเห็นแล้วว่าเขาเดินกลับมาแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วก็เห็นเขาไปคุยอะไรกับเพื่อนไม่รู้ แล้วเพื่อนเราก็รีบวิ่งข้ามถนนกลับมา น้ำเสียงกรี๊ด ๆ แล้วบอกว่า “เขาขอเบอร์มึง” เราก็ เฮ้ย ! เขินนะตอนนั้น เขินเหมือนกัน ไม่คิดว่าข้ามถนนเจอกันแป๊บเดียว ใจเราก็แอบปลื้มเขา แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง
จากคนไม่รู้จักเดินสวนกัน เลื่อนไปเป็นแฟน
เขาเป็นคนดังในหมู่วัยรุ่น ตอนนั้นเขายังไม่เข้าวงการเต็มตัว เชียร์ไม่แน่ใจว่าเขาไปเห็นผลงานของเราจากไหน แต่สมัยเรียนมัธยมจะมีถ่ายแบบวัยรุ่นตามสยาม เพื่อนก็บอกว่าให้คุย ๆ ไปเถอะ ให้เบอร์เขาไปแล้ว แล้วเขาก็ โทร. มา เราก็ได้คุยกันแล้วก็คบกันเป็นแฟนกัน
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องราวเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีที่เดินข้ามถนนเองก็เป็นไปได้เนอะ เขียร์ บอกว่า ใช่ เหมือนละครมากเลย เราก็ยังแปลกใจไม่คิดว่าคนหน้าตาดี ๆ เขาจะมาขอเบอร์เรา
รักที่ใช่.. ในเวลาที่ไม่ใช่
เราคบกันสักพักใหญ่ แต่อาจจำระยะเวลาไม่ได้แม่นนักว่านานแค่ไหน แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างหนึ่ง คือ ตอนที่เชียร์อยู่สังกัดเก่า บ้านเก่า เชียร์ต้องทำงานหนักจริง ๆ ทั้งการเล่นละครออนแอร์ไปด้วย หมายความว่า 7 วัน ชีวิตเชียร์จะอยู่ในโรงเรียนต้องไปเรียน เรียนเสร็จก็ไปถ่ายละคร ถ่ายละครเสร็จตอนเช้ากลับมาเรียน มันมีโอกาสน้อยมากที่เราจะใช้ชีวิตวัยรุ่นทั่วไป แทบไม่มีเลยจริง ๆ ทำให้จังหวะและโอกาสมันไม่ได้ไปต่อ
แต่ความจริงแล้วเป็นความรักที่เชียร์เสียดาย เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่เราสัมผัสได้ว่าเขาตั้งใจจริง ๆ เขามีความพยายามจริง ๆ เชียร์ไม่เคยเจอใคร โทร. Miss call หาเชียร์ได้เยอะที่สุดในชีวิตเท่ากับคนนี้มาก่อน
คนบอกเลิกไม่ใช่ไม่เจ็บ !
มีเรื่องที่ประทับใจในตัวเขาเยอะ แต่จังหวะและโอกาสมันไม่ได้ไปต่อจริง ๆ สุดท้ายเชียร์เป็นคนบอกเลิกเขาด้วยซ้ำ ความรู้สึกอยากไปต่อ แต่จังหวะเวลาไม่ได้เลยต้องหยุดไว้อย่างนั้น แต่ยังมีความเป็นเพื่อนกันอยู่ ตอนที่คบกันก็มีแค่เพื่อน ๆ ที่รู้
เราเจอกันน้อยจริง ๆ บางทีเรากลับบ้าน เขามารอเจอเราที่หน้าปากซอยบ้าน ทำให้เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างลำบากเหมือนกัน จึงตัดสินใจไม่ไปต่อ
ความรักครั้งนั้นยังอยู่ในใจ
หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว เชียร์ไม่รู้ว่ามันทำร้ายจิตใจเขามากหรือน้อยแค่ไหน และเชียร์ต้องบอกก่อนว่าไม่แน่ใจว่าเป็นเราหรือไม่ เพราะเรื่องราวมันผ่านมานานแล้ว ในรายการเขาถูกถามว่า “มีความรักครั้งไหนที่อยู่ในใจคุณบ้างไหม” เขาบอกว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนที่ถือรีโมตหันมาถามว่า จะดูต่อหรือเปล่า ? เราก็คิดว่า โอ๊ย.. คงไม่ใช่อยู่แล้ว พอเขาบอกเป็นคนในวงการ เพื่อนก็ยิ่งแซวใหญ่เลย แต่เราก็บอกว่าไม่ใช่หรอกเพราะมั่นใจมากว่าไม่ใช่เรา จนมีอยู่คนหนึ่งที่นั่งด้วยกันกับเขาในรายการ ถามเขาว่า “ใช่ ช. หรือเปล่า”
ตอนนั้นเชียร์ตกใจมาก แล้วเขาก็เล่าว่าได้ไปเจอกันแค่เฉพาะตอนทำการบ้าน และอีกหลายเหตุการณ์ซึ่งทั้งหมดมันเรื่องเดียวกันกับเรา ทำให้เรารู้สึกเซอร์ไพรส์ ถ้าเป็นเชียร์จริง ๆ หมายความว่า รักครั้งนั้นอยู่ในใจเขา ทำให้เชียร์รู้สึกดีเหมือนกัน ต้องขอบคุณที่ให้ความรักของเราครั้งหนึ่งยังอยู่ในใจเขา
เชียร์บอกว่า ถึงแม้จะเป็นคนบอกเลิกแต่รู้สึกเจ็บเพราะจริง ๆ หลังจากนั้นเคยรู้สึกเสียดายจนมีน้ำตา คิดว่าเราไม่ควรเลย เรารู้สึกเสียดาย ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นอะไรที่ทำให้เราตัดสินใจว่าเราจะไม่ไปต่อกัน แต่พอเราได้เห็นได้เจอเขา ลึก ๆ เราก็ยังมีความรู้สึกเสียดายค่ะ ทุกวันนี้เป็นเพื่อนกันได้
อั๋น ภูวนาท ยังบอกให้ พี่ฉอด ช่วยจัดละครให้สักเรื่องหนึ่ง ด้านเชียร์ก็บอกว่า “ตายแล้ว นี่คนจะรู้เลยเนี่ยว่าคือคนไหน”
กระทั่งวันนี้ที่เรื่องราวความรักของทั้งคู่เปิดเผยสู่สาธารณะ จากที่เคยต้องหลบซ่อนอยู่ในความรักสึกกันมานาน และจากนี้ไปมิตรภาพก็จะยังคงอยู่ตลอดไป...