x close

ย้อนดู เชียร์ เคยเล่าถึง กอล์ฟ ชายคนนั้น Miss call เยอะสุด รับบอกเลิกเอง แต่เจ็บมาก

          ย้อนสัมภาษณ์ เชียร์ ฑิฆัมพร พูดถึงรักที่จริงจังครั้งแรก เล่าแบบไม่บอกชื่อ จนวันนี้ได้รู้เป็น กอล์ฟ พิชญะ ยอมรับบอกเลิกเองเจ็บเอง เคยต้องร้องไห้เสียใจและเสียดาย

          เป็นเรื่องราวความรักที่ประทับใจผู้ชมอย่างมาก สำหรับ กอล์ฟ พิชญะ และ เชียร์ ฑิฆัมพร ที่หวนมาเจอกันอีกครั้งในรายการ The Wall Song ร้องข้ามกำแพง วันที่ 16 มิถุนายน 2565 ก่อนที่ทั้งคู่จะเปิดใจถึงกันเป็นรักครั้งแรกที่จริงจัง คบกันตั้งแต่สมัย ม.4 - ม.5 ซึ่งกอล์ฟเป็นคนทุ่มเทมาก แต่หลายทำให้ไปด้วยกันไม่ได้ เชียร์รู้สึกผิดมากและไม่คิดว่ากอล์ฟจะมา ทั้งคู่ยังจำเรื่องราวระหว่างกันได้ดีมาโดยตลอด พูดไปก็น้ำตาคลอ ก่อนจะกอดกันด้วยมิตรภาพ

          ภายหลังจบรายการยังโพสต์ความในใจถึงกันอีกด้วย กลายเป็นความหวังดีในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งคู่ดีใจที่ได้เฝ้ามองการเติบโตของอีกฝ่ายอยู่ห่าง ๆ ยินดีที่อีกฝ่ายมีความรักที่ดี และยังบอกด้วยว่าถ้าแต่งงานอย่าลืมชวนด้วย

          อ่านข่าว : กอล์ฟ ย้อนสมัยคบ เชียร์ เสียอาการดูดน้ำหลอดเดียวกัน ต้องแอบแค่ไหนเวลาเจอกัน

ภาพจาก Instagram golfpichaya

          งานนี้แฟนคลับต่างติดแฮชแท็ก #กอล์ฟเชียร์ พูดคุยและแชร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ และหลายคนยังย้อนไปฟังเรื่องราวจากเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ เชียร์ ฑิฆัมพร ไปร่วมพูดคุยในรายการ Club Friday Show เปิดใจเกี่ยวกับความรักตั้งแต่วัยเด็กจนถึงความรักปัจจุบัน โดยมีช่วงหนึ่ง พี่อ้อย พี่ฉอด ถามเรื่องความรักที่จริงจังครั้งแรกเกิดขึ้นตอนไหน จังหวะนั้น เชียร์ เหมือนบ่นพึมพำ พูดกับตัวเองถึงผู้ชายคนหนึ่งที่เข้ามาคาบเกี่ยวช่วงที่เธออยู่โรงเรียนหญิงล้วน โรงเรียนศึกษานารี แต่ความรักไม่ได้เกิดขึ้นในโรงเรียน ตอนนั้นเชียร์เข้าวงการแล้ว

ความบังเอิญเหมือนในละคร      

          ชีวิตเชียร์ก็เหมือนในละครเหมือนกันนะ เจอกันโดยแค่บังเอิญมาก ๆ เป็นเหตุการณ์ที่เราไปงานอีเวนต์ที่มาบุญครอง กำลังเดินข้ามไปหาเพื่อนที่ฝั่งสยาม แค่วินาทีที่เดินข้ามถนนแล้วสวนกัน เรารู้สึกว่า เฮ้ย ! คนนี้หน้าตาดีจัง คนนี้เท่จัง ซึ่งเพื่อนที่เป็นทอมกรี๊ดเขามาก เพื่อนกรี๊ดประมาณว่า “ชอบคนนี้ ชอบมาก กรี๊ดมาก เป็นแฟนคลับ” เราได้ยินแล้วก็งงว่าเขาเป็นใคร ไม่รู้จัก เพื่อนสวนกลับว่า ไม่รู้จักได้ไง อะไรแบบนี้

          จากนั้นเพื่อนเดินข้ามถนนตามไปเพื่อไปแอบดูเขาสักหน่อย ปรากฏว่าผู้ชายคนนั้นเดินย้อนกลับมา เราเห็นแล้วว่าเขาเดินกลับมาแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร แล้วก็เห็นเขาไปคุยอะไรกับเพื่อนไม่รู้ แล้วเพื่อนเราก็รีบวิ่งข้ามถนนกลับมา น้ำเสียงกรี๊ด ๆ แล้วบอกว่า “เขาขอเบอร์มึง” เราก็ เฮ้ย ! เขินนะตอนนั้น เขินเหมือนกัน ไม่คิดว่าข้ามถนนเจอกันแป๊บเดียว ใจเราก็แอบปลื้มเขา แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไง

จากคนไม่รู้จักเดินสวนกัน เลื่อนไปเป็นแฟน

          เขาเป็นคนดังในหมู่วัยรุ่น ตอนนั้นเขายังไม่เข้าวงการเต็มตัว เชียร์ไม่แน่ใจว่าเขาไปเห็นผลงานของเราจากไหน แต่สมัยเรียนมัธยมจะมีถ่ายแบบวัยรุ่นตามสยาม เพื่อนก็บอกว่าให้คุย ๆ ไปเถอะ ให้เบอร์เขาไปแล้ว แล้วเขาก็ โทร. มา เราก็ได้คุยกันแล้วก็คบกันเป็นแฟนกัน

          เมื่อถามย้ำว่า เรื่องราวเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีที่เดินข้ามถนนเองก็เป็นไปได้เนอะ  เขียร์ บอกว่า ใช่ เหมือนละครมากเลย เราก็ยังแปลกใจไม่คิดว่าคนหน้าตาดี ๆ เขาจะมาขอเบอร์เรา

รักที่ใช่.. ในเวลาที่ไม่ใช่

          เราคบกันสักพักใหญ่ แต่อาจจำระยะเวลาไม่ได้แม่นนักว่านานแค่ไหน แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างหนึ่ง คือ ตอนที่เชียร์อยู่สังกัดเก่า บ้านเก่า เชียร์ต้องทำงานหนักจริง ๆ ทั้งการเล่นละครออนแอร์ไปด้วย หมายความว่า 7 วัน ชีวิตเชียร์จะอยู่ในโรงเรียนต้องไปเรียน เรียนเสร็จก็ไปถ่ายละคร ถ่ายละครเสร็จตอนเช้ากลับมาเรียน มันมีโอกาสน้อยมากที่เราจะใช้ชีวิตวัยรุ่นทั่วไป แทบไม่มีเลยจริง ๆ ทำให้จังหวะและโอกาสมันไม่ได้ไปต่อ

          แต่ความจริงแล้วเป็นความรักที่เชียร์เสียดาย เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่เราสัมผัสได้ว่าเขาตั้งใจจริง ๆ เขามีความพยายามจริง ๆ เชียร์ไม่เคยเจอใคร โทร. Miss call หาเชียร์ได้เยอะที่สุดในชีวิตเท่ากับคนนี้มาก่อน

คนบอกเลิกไม่ใช่ไม่เจ็บ !

          มีเรื่องที่ประทับใจในตัวเขาเยอะ แต่จังหวะและโอกาสมันไม่ได้ไปต่อจริง ๆ สุดท้ายเชียร์เป็นคนบอกเลิกเขาด้วยซ้ำ ความรู้สึกอยากไปต่อ แต่จังหวะเวลาไม่ได้เลยต้องหยุดไว้อย่างนั้น แต่ยังมีความเป็นเพื่อนกันอยู่ ตอนที่คบกันก็มีแค่เพื่อน ๆ ที่รู้

          เราเจอกันน้อยจริง ๆ บางทีเรากลับบ้าน เขามารอเจอเราที่หน้าปากซอยบ้าน ทำให้เรารู้สึกว่ามันค่อนข้างลำบากเหมือนกัน จึงตัดสินใจไม่ไปต่อ

ความรักครั้งนั้นยังอยู่ในใจ

          หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว เชียร์ไม่รู้ว่ามันทำร้ายจิตใจเขามากหรือน้อยแค่ไหน และเชียร์ต้องบอกก่อนว่าไม่แน่ใจว่าเป็นเราหรือไม่ เพราะเรื่องราวมันผ่านมานานแล้ว ในรายการเขาถูกถามว่า “มีความรักครั้งไหนที่อยู่ในใจคุณบ้างไหม” เขาบอกว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนที่ถือรีโมตหันมาถามว่า จะดูต่อหรือเปล่า ? เราก็คิดว่า โอ๊ย.. คงไม่ใช่อยู่แล้ว พอเขาบอกเป็นคนในวงการ เพื่อนก็ยิ่งแซวใหญ่เลย แต่เราก็บอกว่าไม่ใช่หรอกเพราะมั่นใจมากว่าไม่ใช่เรา จนมีอยู่คนหนึ่งที่นั่งด้วยกันกับเขาในรายการ ถามเขาว่า “ใช่ ช. หรือเปล่า”

          ตอนนั้นเชียร์ตกใจมาก แล้วเขาก็เล่าว่าได้ไปเจอกันแค่เฉพาะตอนทำการบ้าน และอีกหลายเหตุการณ์ซึ่งทั้งหมดมันเรื่องเดียวกันกับเรา ทำให้เรารู้สึกเซอร์ไพรส์ ถ้าเป็นเชียร์จริง ๆ หมายความว่า รักครั้งนั้นอยู่ในใจเขา ทำให้เชียร์รู้สึกดีเหมือนกัน ต้องขอบคุณที่ให้ความรักของเราครั้งหนึ่งยังอยู่ในใจเขา

          เชียร์บอกว่า ถึงแม้จะเป็นคนบอกเลิกแต่รู้สึกเจ็บเพราะจริง ๆ หลังจากนั้นเคยรู้สึกเสียดายจนมีน้ำตา คิดว่าเราไม่ควรเลย  เรารู้สึกเสียดาย ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นอะไรที่ทำให้เราตัดสินใจว่าเราจะไม่ไปต่อกัน แต่พอเราได้เห็นได้เจอเขา ลึก ๆ เราก็ยังมีความรู้สึกเสียดายค่ะ ทุกวันนี้เป็นเพื่อนกันได้

          อั๋น ภูวนาท ยังบอกให้ พี่ฉอด ช่วยจัดละครให้สักเรื่องหนึ่ง ด้านเชียร์ก็บอกว่า “ตายแล้ว นี่คนจะรู้เลยเนี่ยว่าคือคนไหน”

          กระทั่งวันนี้ที่เรื่องราวความรักของทั้งคู่เปิดเผยสู่สาธารณะ จากที่เคยต้องหลบซ่อนอยู่ในความรักสึกกันมานาน และจากนี้ไปมิตรภาพก็จะยังคงอยู่ตลอดไป...

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้อนดู เชียร์ เคยเล่าถึง กอล์ฟ ชายคนนั้น Miss call เยอะสุด รับบอกเลิกเอง แต่เจ็บมาก อัปเดตล่าสุด 17 มิถุนายน 2565 เวลา 22:28:43 86,400 อ่าน
TOP