โดนจับจ้องประเด็นเกี่ยวกับลูกชายไม่เลิก สำหรับครอบครัวของ กวินท์ ดูวาล และ ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา หลังเจ้าตัวเคยออกมาบอกว่าจะไม่เปิดเผยหน้าลูก ไซอันบลู สกาย ดูวาล ลงโซเชียล จนกว่าลูกจะตัดสินใจอนุญาตให้ลงเองได้
แถมเมื่อไม่นานมานี้ยังมีประเด็นดราม่าเพิ่มมาอีก หลังบางคนเข้าใจว่า การไม่ลงรูปลูกนั้นเจ้าตัวยังรวมไปถึงการแอบหน้าลูก และไม่ให้คนที่บังเอิญไปเจอเวลาอยู่ข้างนอกได้เห็นหน้าของลูกชายด้วย
ภาพจาก Instagram gavind.ig
ภาพจาก Instagram gavind.ig
ล่าสุด (11 กรกฎาคม 2565) ปุ้มปุ้ย และ กวินท์ ก็ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ผ่านรายการแฉว่า จริง ๆ เรื่องไม่เปิดหน้าลูกออกสื่อตนไม่ใช่คนแรกที่ทำ ดารารุ่นพี่คนอื่น ๆ ในวงการก็ทำแต่เขาแค่ไม่ได้มาพูดออกสื่อ คือเราไม่อยากให้บางรูปที่ลูกเรารู้สึกไม่โอเคตอนโตว่อนอยู่ในโซเชียล มันย้อนมาลบไม่ได้ รอให้เขาโตอีกหน่อยแล้วให้ตัดสินใจเองว่าจะให้คนอื่นเห็นได้ไหม ถ้าเขาโอเคเราก็เปิด
แต่สำหรับของเราหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ และเข้าใจผิดว่าเราแอบหน้าลูก แต่จริง ๆ เราไม่ได้แอบแต่แค่ไม่ได้อัปรูปหน้าลูกลงโซเชียล แต่เวลาไปเที่ยวห้างคนก็มาดูหน้าก็ทำได้ปกติ เราไม่ได้ว่าไม่ได้อะไร บางคนเวลาเจอเขาก็จะถามว่าใช่ไหม ๆ เพราะกลัวไม่กล้าเข้ามาหา
ปุ้มปุ้ย ยังยอมรับว่าตั้งแต่มีลูกความคิดเรื่องการเกลียดพ่อคือหายไปเลย เพราะตอนเป็นลูกเกลียดที่พ่อเข้มงวดมาก ตั้งกฎเยอะมาก เราเลยพยายามแหกกฎทุกอย่าง และเคยคิดถึงขั้นอยากให้พ่อแม่เลิกกัน เพราะไม่อยากอยู่กับพ่อ ครอบครัวอบอุ่นพร้อมสำหรับเราคือเป็นเรื่องร้อน ตอนที่พ่อแม่เลิกกันเราโคตรดีใจเลย ชีวิตเป็นอิสระแล้วเพราะแม่ตามใจเรามาก
แต่มาวันหนึ่งพ่อป่วยหนักเส้นเลือดในสมองตีบ ขยับไม่ได้ ตอนที่เขาโทร. มาบอก เราก็ไม่สนใจ บอกป่วยก็ไปหาหมอ แต่พี่สาวให้เราไปดู ตอนนั้นไปเห็นสภาพพ่อก็ร้องไห้เลย ตอนนั้นอายุแค่ 18-19 ปี จะเอาเงินที่ไหนมารักษาเขา ก็เลยตัดสินใจถ่ายแบบเซ็กซี่ แต่เราไม่เคยบอกใครเลยว่ามีเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้ใครจ้างงานเพราะสงสารเรา
ตอนนั้นเราก็ยังไม่เข้าใจ แต่คิดว่าเราทำไปตามหน้าที่ หลังจากนั้นก็ไปแคสงานโฆษณาก็เลิกถ่ายแบบเซ็กซี่ไป เราหาเงินดูแลพ่อมา 13 ปี ทางกวินท์เขาก็เข้ามาช่วยเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เขาจะช่วยดูแลเวลาไปพาพ่อไปโรงพยาบาล ซึ่งค่าใช้จ่ายทุกคนในบ้านเราเป็นคนดูแลหมด รวมถึงส่งพี่สาวไปเรียนต่างประเทศเราก็เป็นคนออกเงินให้
และเมื่อถามทางด้านกวินท์ว่า ถ้าไม่มีเมียคนนี้ก็คงไม่ได้มีบ้าน มีรถ มีงาน อย่างทุกวันนี้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าจริง เพราะเราก็จะไม่สามารถค้นหาตัวเองได้ ไม่รู้ว่าเราทำอะไรได้บ้าง คงจะไม่มั่นใจในตัวเองว่าวันนี้สามารถเป็นพ่อได้แล้ว เพราะเขาเข้ามาทำให้ชีวิตเรามีเป้าหมาย เราต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ชีวิตเขาสบาย
ปุ้มปุ้ย ยังบอกอีกว่า เป็นแม่ชีวิตไม่ได้เปลี่ยนมาก เพราะอยู่กับกวินท์ก็เหมือนเลี้ยงลูกอยู่แล้ว เคยถามกวินท์ว่าคิดว่าเธอจะเป็นแม่ที่ดีได้ไหม เขาก็บอกว่าถ้าเธอสอนให้เราเป็นคนดีได้ สอนลูกก็ไม่น่ายาก ซึ่งเราไม่เหนื่อยกับการเลี้ยงลูกเลย เป็นความสุขของเรา
กวินท์ก็เผยว่า เขาขยันเลี้ยงลูกมากจนเราตกใจ ความเป็นแม่เข้าสิง ซึ่งเราเลี้ยงลูกแบบไม่มีพี่เลี้ยงช่วยดูด้วย เลี้ยงกันเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการแฉ






