จากกรณีที่นางเอกและผู้จัดละครคนดัง แอน ทองประสม ที่ถูกขโมยทรัพย์สินมีค่าไปเกือบ 19 ล้าน ก่อนจะจับคนร้ายได้และพบว่าเป็นคนใกล้ชิดที่ทำงานด้วยมานาน ซึ่งตำรวจได้นำตัวฝากขังและไม่อนุญาตให้ประกันตัวไปแล้วนั้น
ล่าสุด (1 สิงหาคม 2565) แอน ก็ได้แถลงข่าวเปิดใจหลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงติดตามเอาของคืน ถามว่าทราบได้ยังไงว่าของหายคือตอนนั้นตนจะไปงานก็เลยจะเข้าไปเปิดเซฟเอาเครื่องประดับที่จะออกงาน ถึงทราบว่าของและเงินหายไป แต่ตอนนั้นคือรีบเพราะต้องไปงานก่อนเลยมาแจ้งความต่อจากนั้น
จากนั้นก็ได้ขอความช่วยเหลือจากทางนิติบุคคลให้ช่วยดูกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าอะไรหายไปบ้าง และได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นกับตำรวจไปทั้งหมดว่าใครจะสามารถเข้า-ออกห้องเราได้บ้าง ซึ่งเราก็เห็นกล้องวงจรปิดว่าใครที่เข้ามาห้องเราได้มีไม่กี่คน พอเห็นว่ามีคนประมาณนี้ที่เข้าข่าย และบังเอิญเป็นคนในของเราหมดเลย เพราะทางตึกเข้าจะไม่มีใครเข้าได้ยกเว้นเจ้าของห้องหรือคนที่มีสิทธิ์ เผอิญว่าเป็นออฟฟิศด้วยซึ่งจะมีทีมงานของเราบางคนที่เข้าได้ แต่จะเข้าได้เฉพาะตอนที่เราอยู่ด้วย
หลังจากนั้นก็เห็นว่ามีใครบ้างเลยเชิญตัวทุกคนในกล้องวงจรปิดมาให้ปากคำกับตำรวจ พอให้ปากคำเสร็จซึ่งตอนนั้นตนไม่สามารถมานั่งฟังด้วยได้ เพราะติดถ่ายละคร ทางตำรวจก็ได้บอกว่ามีคนรับสารภาพแล้ว แล้วก็รู้ว่าเขาเป็นผู้ช่วยเรา ส่วนในวงจรปิดก็มองได้หลายแบบมองแบบไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามองแบบจับผิด ก็จะแบบเขามีพิรุธหรือเปล่าก็แล้วแต่คนจะมอง แต่ว่ามันมีรายละเอียดอะไรมากกว่านั้นที่ตำรวจเขาเห็นแล้วแต่เรามองไม่ออก
ส่วนทรัพย์สินที่หายไปก็เกือบ 19 ล้าน ถามว่าตามคืนได้หรือยังคือตอนนี้รู้ว่าของอยู่ตรงไหน โรงรับจำนำไหน แต่ก็ต้องติดตามเอาคืนมาเป็นของเรา ส่วนจะไปเอาคืนยังไงก็ต้องคุยกับทางตำรวจ เบื้องต้นต้องปรึกษาตำรวจก่อนเพราะเราไม่มีความรู้ด้านนี้จริง ๆ ซึ่งที่เอาไปจำนำรวมกันก็เป็นล้าน และตอนนี้ยังไม่ได้ของคืนมาแต่แค่รู้ว่าใครเป็นคนร้าย ในฐานะผู้เสียกฎหมายจะคุ้มครองเรายังไงซึ่งเราทำเองคนเดียวไม่ได้ ต้องให้ทางตำรวจช่วยเพิ่มเติม ของเหล่านั้นอยู่ที่ไหน เราตามเจอครบ ไม่ได้หายไปเลย แต่เงินหายหมด ส่วนของยังไม่ได้คืนมากับตัว
ถามว่าคนที่ขโมยไปเขามีพฤติกรรมน่าสงสัยอะไรบ้างไหม ด้านแอนก็ตอบเสียงสั่นว่า ความผิดที่เกิดขึ้นครั้งนี้มันก็เห็นกันตรงนี้แหละ แต่ก่อนหน้านี้มันก็มีรายละเอียดอะไรที่ดูแลกันมาประมาณหนึ่ง มีอะไรที่เรารู้สึกว่าก็ต้องคอยเตือนเขาบ้าง เหมือนเราเป็นเจ้านายเขา เป็นพี่เขา เราก็แค่พยายามช่วยดูแลเขาไม่ให้เขาทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเขาก็ยังไม่เห็นอะไร จนมารอบนี้มันเบอร์ใหญ่มาก ก็ค่อนข้างช็อกเราเหมือนกัน อยู่ด้วยกันมาก็ 10 ปี ก็ทำละครกับแอนมาหลายเรื่อง
ประเด็นเรื่องที่เขาติดการพนัน คือตนก็รู้มานิดหน่อย ในฐานะเขาเป็นเจ้านายก็เตือนเขาไปบ้าง มันไม่ได้ดูเป็นแบบใหญ่โต แต่พอเรามารู้ตรงนี้มันเบอร์ใหญ่แค่นั้นเอง ซึ่งเขาไม่ได้เคยมาปรึกษาเรื่องหนี้สินอะไรเลย หลังจากเกิดเรื่องก็ยังไม่ได้คุยกับเขาเลย
เรื่องเครื่องเพชรคือเขาน่าจะเห็นตอนใส่ออกงาน ถ้ามาเห็นตรงที่เก็บก็ไม่น่าใช่เพราะเราไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้าไปตรงนั้น และเราก็ไม่รู้ว่าเขาไปเอารหัสเซฟมาได้ยังไง เพราะมันก็ไม่ได้ถูกงัดแงะด้วย ซึ่งตนก็ไม่ค่อยได้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินด้วย อีกทั้งรหัสเซฟไม่มีใครรู้ ตนรู้คนเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้