หลังจากที่เป็นเจ้าสาว ชีวิตเปลี่ยนไหม ?
แพนเค้ก : แค่พูดคำว่าสามียังไม่คุ้นเลยค่ะ (หัวเราะ) ทั้งคู่ พี่หมีก็บอกแบบนี้ พอเวลามีคนมาพูดกับพี่หมี เขาก็จะทำตัวไม่ถูก จริง ๆ ก็เหมือนเดิมในมุมที่ดูแลกันและกัน มีการปรับตัวบางอย่างในการใช้ชีวิต เพราะมีบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปรับจูนกัน ไม่คุ้นบ้างในบางเรื่อง หรืออะไรให้ทำเยอะขึ้น ห่วงหามากขึ้น ถามไถ่กันมากขึ้น คุณผู้ชายก็จะตกใจนิดหนึ่งว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นเหมือนจะดูแลเป็นพิเศษอะไรแบบนี้อะค่ะ ก็เลยบอกว่าทำให้เหมือนเดิม
กี่เดือนแล้ว ?
แพนเค้ก : 2 เดือนแล้วค่ะ ก็เป็นความรู้สึกที่ดี บอกไม่ถูก
พอแต่งงานการดูแลใกล้ชิดขึ้น มีอะไรพิเศษขึ้น มีทำกับข้าวให้สามีกินบ้างไหม ?
แพนเค้ก : พูดได้เต็มปากเลย ว่ายังไม่ได้ทำค่ะ (หัวเราะ) คือ.. แต่ก็จะถามไถ่ตลอดว่าจะกินอะไร เหมือนกับนึกถึงกันบ่อยขึ้น ว่าเย็นอยากกินอะไร เช้าให้เตรียมอะไรให้ไหม หรือมีอะไรจะให้เตรียม Breakfast ให้ไหม พี่หมีก็บอกว่าไม่เป็นไร (หัวเราะ) เดี๋ยวพี่บอกเองว่าอยากได้อะไร
แล้วทางฝั่งพี่หมีเขามีความเปลี่ยนแปลงอะไรไหม หลังแต่งงาน ?
แพนเค้ก : จริง ๆ เขาเป็นคนนึกถึงคนอื่นเยอะอยู่แล้ว เตรียมอะไรให้เราเยอะอยู่แล้ว กับข้าวส่วนใหญ่พี่หมีก็จะเป็นคนทำอยู่แล้ว เวลาไปซูเปอร์เขาก็จะถามเอาอะไรไหม แล้วก็เตรียมอาหารไว้ให้ในตอนเช้า เขาก็เข้าครัวเอง เข้าทีก็ โอ้โห.. เละไปหมดเลยค่ะ (หัวเราะ)
อยู่บ้านใครเป็นหลัก ?
แพนเค้ก : จริง ๆ ก็อยู่บ้านแพนเป็นหลักค่ะ แต่ว่าบ้านแพนกับบ้านคุณพ่อคุณแม่พี่หมีก็อยู่ใกล้ ๆ กัน ก็เลยมีโอกาสได้ไป ๆ มา ๆ กัน แฮปปี้ค่ะ
มีข่าววงในว่ากลางคืนกวนพี่หมีจนอีกฝ่ายไม่ได้นอน ?
แพนเค้ก : ขนาดนั้นเลยค่ะ แบบไม่รู้ตัวด้วย ละเมอค่ะ (หัวเราะ) คือถ้าเรานอนคนเดียวเราก็จะไม่ค่อยรู้ ว่าเรานอนอะไรยังไง แต่ก็จะมีพี่หมีมาบอกว่าลุกขึ้นมานั่งหัวเราะ คือเหมือนพอเวลาทำงานเครียด ๆ หน่อยก็จะงึมงำ ๆ พี่หมีเป็นคนลุกง่ายอยู่แล้ว เขาก็นึกว่าเราเป็นอะไร อ่อ.. ละเมอ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราก็เกร็ง ๆ ว่าเขาจะตกใจไหมเวลามีคนมาอยู่ข้าง ๆ
แสดงว่าก่อนหน้านั้นเราก็ไม่รู้ว่าเรานอนละเมอ ?
แพนเค้ก : ใช่ค่ะ
เขาเคยถ่ายคลิปเราไว้บ้างไหม ?
แพนเค้ก : ไม่เคยค่ะ ห้ามพูดเปิดทางเดี๋ยวพี่หมีแอบทำ ตอนนี้ไม่มีนะคะ
มีคนเมาท์พี่หมีแอบพาผู้หญิงขึ้นห้องด้วย ?
แพนเค้ก : ใช่ค่ะ (หัวเราะ) ต้องบอกว่าลูก ๆ ทั้ง 3 ตัว คลอเคลียและแย่งความรักกันแบบสุด ๆ เลย ลูก ๆ ที่ว่าคือน้องหมา แล้วนอนด้วยกันบนเตียงพี่หมีอยู่ด้วยแล้วเขาก็อยู่ด้วยตรงนั้น พอพ่อกลับบ้านก็อยากมาหา อยากคลอเคลียนอนอยู่ข้าง ๆ ก็ต้องแย่งกันหน่อย คือนอนด้วยกันหมดเลยแต่บางทีเขาก็จะลงไปนอนข้างล่างที่นอนเขาบ้าง ตอนเช้า ๆ ก็จะกลับขึ้นมานอนบนเตียง ก็ดีที่พี่หมีเป็นคนที่เข้าใจ และเขาก็รักน้องหมาอยู่แล้ว พอมาอยู่ด้วยกันก็เป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ
เวลาจะสวีตกันทำยังไง ?
แพนเค้ก : ลูกขาเชิญข้างล่าง (หัวเราะ)
ทำไมต้องพาเขานอนกับเรา ?
แพนเค้ก : คือเราก็เลี้ยงเขาเหมือนลูกเลยตั้งแต่เด็กก็จะให้นอนด้วยกันตลอด มีที่นอนให้เช็ดตัว ประหนึ่งเป็นลูกเลย ยังไงเขาก็ต้องนอนกับเรา
แล้วลูกจริง ๆ แพลนหรือยัง ?
แพนเค้ก : ยังเลยค่ะ คือจริง ๆ ก็มีการคุยกันว่าจะอะไรยังไง เตรียมตัวเลยไหม หรือว่าจะรอก่อน แต่เราสองคนก็เห็นตรงกันว่ารอก่อน เหมือนยังสนุกกับงาน การเดินทาง เลยยังไม่ได้กะเกณฑ์อะไรค่ะ คือมาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ชิล ๆ
วางแผนไว้ไหมว่าอยากจะมีกี่คน ผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย ?
แพนเค้ก : ยังไม่ได้มองไปถึงขั้นนั้นเลยค่ะ ถ้าเป็นวิธีธรรมชาติมันก็อาจจะยากหน่อย แต่ถ้าฝากไข่หรืออะไรคงต้องดูกันอีกทีหนึ่ง
คือถ้ามีลูกแล้วยังให้น้องหมานอนในห้องไหม ?
แพนเค้ก : ให้นอนค่ะ คือเราก็คิดเราเลี้ยงเขามาก่อนแล้วเขาก็เหมือนลูกเราวันหนึ่งเราก็ไม่อยากให้เขารู้สึกเหมือนถูกทิ้ง หรือแย่งความรัก ถ้าวันหนึ่งเรามีลูก ลูกก็ต้องอยู่กับน้องหมาให้ได้ ก็ต้องดูแลกัน
มีกำหนดการไหม ว่าอายุเท่าไหร่ถึงห้ามมีลูก ?
แพนเค้ก : น่าจะเกินกำหนดการมาเยอะแล้ว (หัวเราะ) ไม่ได้กะเกณฑ์ว่าเมื่อไหร่ แต่ดูที่ตัวเราพร้อมสุขภาพพร้อม ส่วนเรื่องแพลนลูกแฝด คือจริง ๆ คุณแม่ก็บอกให้มีไปเลยจะได้อยู่บ้านนู้นคนบ้านนี้คน
ที่บอกรอมีลูกอีกแป๊บหนึ่ง เพราะห่วงหลานมาก ?
แพนเค้ก : ใช่ค่ะ หลาน ๆ กำลังอยู่ในวัยที่เราจะต้องอยู่กับเขาอะค่ะ ช่วงเวลา 5-6 ขวบ เขากำลังจดจำ ถ้ามีเวลาได้ก็อยากให้เวลากับหลาน ๆ เท่าที่จะทำได้
ย้อนเส้นทางรักพี่หมี เห็นว่า 11 ปีที่ผ่านมา ก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน ?
แพนเค้ก : มีค่ะ มีตลอด แต่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ลักษณะนิสัยที่ไม่เหมือนกันบ้าง เช่น นิสัยใจคอบางอย่างพี่หมีจะเป็นคนละเอียด แต่เราก็จะเป็นคนชิล ๆ ในบางเรื่อง ในบางเรื่องเราก็ไม่ได้นึกถึงอย่างความปลอดภัย พี่หมีจะแบบไม่ได้เลยนะเรื่องนี้ต้องช่วยกันดู แต่เราก็จะเอ่อ.. ชิล ก็ต้องมาปรับจูนกันในบางเรื่อง พี่หมีเป็นลูกคนเดียวเราเป็นครอบครัวใหญ่ เขาก็ใช้เวลาปรับกับเราเหมือนกัน เราก็ต้องปรับกับเขาเนื่องจากอายุต่างกันเยอะ
ระหว่างที่คบกันคิดไว้เมื่อไหร่ว่าคนนี้เราจะต้องแต่งงานด้วย ?
แพนเค้ก : คือถามว่าจริงจังไหม จริงจัง จริงจังมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะมีวันของเราแบบนี้เหมือนกัน แพนว่าสักครึ่งทางก็ได้มั้งคะ สัก 6-7 ปี ก็เอ่อ เราจริงจังแหละดูแลกันแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วจะลงเอยยังไง จะได้แต่งงานไหมเราไม่ได้คิดถึงจุดนี้ค่ะ
เจอกันครั้งแรกที่ไหนยังไง ?
แพนเค้ก : เจอกันครั้งแรกตอนน้ำท่วม ปี 2554 ไปช่วยน้ำท่วมกัน เรื่องราวดี ๆ โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เขาก็ไม่รู้จักเราเขาก็จะนิ่ง ๆ มาดเยอะท่าเยอะ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยคุย เพิ่งมารู้ตอนหลังเราเป็นนักแสดง เลยได้มีโอกาสได้เจอได้คุยกันบ่อยขึ้น ณ ตอนนั้นเริ่มส่งแมสเสจหากันก่อน ละถึงโทร. ไป คือเขาก็ไม่ยอมโทร. หาเราก่อนด้วยนะต้องรอเราโทร. ไป แล้วเขามาพูดทีหลังว่าเขาจะไม่โทร. หาผู้หญิงคนนี้ก่อน คือเราไม่ได้จะโทร. หา แต่มีเรื่องที่ทำให้เราต้องโทร. ไปไง หลังจากนั้นก็ได้เจอกันบ่อยขึ้น ได้ทำกิจกรรมต่อเนื่องกันมา
ในเรื่องของการจีบพี่หมีมีมุกมีอะไรเหมือนคนอื่นไหม ?
แพนเค้ก : เรื่องมุกไม่มีเลย แต่พี่หมีจะเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์ มีของมีอะไรมาให้จดจำรายละเอียดได้ดีมาก ในขณะที่เราจำอะไรไม่ค่อยได้เลย แต่ในมุมคำพูดหวาน ๆ คือเขาก็จะไม่มีเลยท่าเยอะนิดหนึ่ง
แพนเป็นคนโรแมนติกไหม ?
แพนเค้ก : ก็มีบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางมุมแต่จะไม่ซับซ้อนเท่า
มีงอนกันบ้างไหม เนื่องจากพี่หมีเป็นคนละเอียดแล้วเราไม่ละเอียดเท่า ?
แพนเค้ก : มีค่ะ คือถ้าเวลาเขาจะทำอะไรให้เราแล้วมีอะไรมาขัดฟิวนิดหน่อยเขาก็จะนิ่งไปเลยไม่พูด หรือบางอันที่เขาอยากจะร่วมยินดีกับเรา แต่คือจังหวะต่าง ๆ มันไม่ได้ เขาก็จะงอนไปเหมือนกันทว่าทำไมคนอื่นทำได้แล้วเขาทำไม่ได้คือเราก็ต้องมาคุยกันบางทีห่วงกันแต่คิดกันคนละแบบ
เวลาพี่หมีงอนง้อยังไง ?
แพนเค้ก : คือต้องควักทุกวิทยายุทธออกมาปรับกัน บางอย่างก็ได้ผล บางอย่างก็ไม่ได้ผลค่ะ บางทีก็ต้องส่งลูกไปช่วยง้อ แต่มันก็ดีขึ้นเพราะถ้าพี่หมีเสียงแข็งลูก ๆ ก็จะรู้และไม่อยากอยู่ในห้อง ก็จะอยู่ไม่สุขเลย จนมารู้ตอนหลังว่าถ้าเกิดเราทะเลาะหรือไม่เข้าใจกันเขาก็จะทนไม่ได้ทันที ทำให้พี่หมีค่อย ๆ เย็นลง
เคยมีครั้งที่เกือบจะเลิกกันด้วย ?
แพนเค้ก : ก็มีในหลาย ๆ เรื่องอะค่ะ จนถึงขั้นที่พี่หมีบอกว่าพี่ไม่ไหว อีกมุมหนึ่งก็คิดว่าจะไปอยู่แล้วแหละ แต่เหมือนกับให้เราได้คุยกันก่อน แต่แพนก็บอกเวลาที่คุยกันพอเวลาที่เขาพูดมาว่าเลิกกันไหม แพนก็จะบอกตัวเองว่าอย่าพูดคำนั้นออกไปนะถ้าพูดไปมันจะต้องรุนแรงมากกว่าเดิม เพราะถ้าเราไม่ต้องการที่จะไปถึงจุดนั้น เราก็ต้องหาจุดที่มันคุยกันเข้าใจให้ได้ คือเราจำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่เขาบอกว่าเขาไม่ไหวละ ก็ต้องหาเรื่องมาคุยปรับความเข้าใจกัน คือไม่ควรปล่อยให้มันค้างข้ามวันยังไงก็หาทางเคลียร์ให้ลง
เวลาเราเจอคำพูดที่แบบว่าไปต่อไม่ได้แล้ว ความรู้สึกมันเป็นยังไง ?
แพนเค้ก : มันก็สตั๊นไปแป๊บหนึ่งแล้วก็เอายังไงดีนะ จะใช้วิธีไหนคุยหว่านล้อม
เห็นว่าทำข้อสัญญาตกลงกันไว้ ว่าห้ามพูดคำว่าเราเลิกกันนะ ?
แพนเค้ก : ใช่ค่ะ เพราะแพนคิดว่าตราบที่เรายังรักและอยากดูแลกัน แพนก็จะบอกตัวเองว่าจะไม่พูดคำนั้น เพราะว่าถ้าเราพูดคำนั้นเราจะต้องไปให้ถึงตรงนั้นไง แต่ถ้าเราไม่พูดมันก็จะหาจุดลงให้ได้คุยให้เข้าใจและเคลียร์ให้ได้ แต่ถ้าคุยไม่เข้าใจมันก็ต้องมีตัวช่วย หาคนมาไกล่เกลี่ยช่วยนิดหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่พี่หมี และคุณพ่อคุณแม่เรา แต่คือเราก็ไม่อยากให้ไปถึงขั้นนั้น
เวลาเคลียร์กันมันจบลงที่อะไร ?
แพนเค้ก : คือเราก็บอกกันว่าให้โอกาสซึ่งกันและกัน บางเรื่องก็บอกว่าเมตตานะ ให้อภัยซึ่งกันและกัน
เรื่องที่คุยว่าเคลียร์กันต้องให้ผู้ใหญ่มาช่วยเคลียร์มันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ ?
แพนเค้ก : คือคุณพ่อคุณแม่แม่หมีเขาก็จะเข้าใจพี่หมี เราก็ต้องปรึกษาให้เขาช่วย เขาก็จะสอนเรา เราก็จะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น บางทีก็เลยต้องไปถึงคุณพ่อ คุณแม่ 4 ท่านเลย มีอะไรก็เล่าก็อัปเดตกัน แต่บางเรื่องที่เราเคลียร์กันเองได้เราก็อยากเคลียร์กันเองให้เรียบร้อย ไม่อยากให้กังวลกับเรา คุณพ่อคุณแม่ก็จะคอยสอน
มีคำสอนของคุณพ่อคุณแม่คำไหนบ้างที่จำขึ้นใจ ?
แพนเค้ก : ก็จะมีในเรื่องของการดูแลกันให้เข้าใจ มีอะไรให้พูดคุยกัน มีเวลาให้กัน
มีอะไรอยากฝากถึงคุณสามีไหม ?
แพนเค้ก : ก็อยากขอบคุณที่ดูแลกันมาโดยตลอด รวมถึงทั้งสองครอบครัวด้วยที่วันนี้เหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ปรับจูนกัน แพนก็คิดว่ามันคือรสชาติของชีวิตค่ะ จะได้ครบรส แต่ก็คิดว่าตราบที่เรารักกันมันก็จะมีเรื่องดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 13.15 - 14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama