กำลังเป็นดราม่าร้อนระอุในตอนนี้ สำหรับกรณีวิวาทะระหว่าง มาดามแพม ช่างแต่งหน้าชื่อดังในวงการ กับ น้ำตาล ชลิตา ที่ปะทุมาจากการที่เจอกันในงานแล้วไม่ไหว้ ทำเป็นเมินใส่ จนต่างฝ่ายต่างออกมาโต้กันดุเดือด
มาดามแพม ไลฟ์ตัดพ้อ วิ่งไปหาน้ำตาล แต่น้ำตาลทำเมิน ผู้จัดการบอกว่าไหว้แล้ว แต่ไม่เห็นนะ...
ทั้งนี้ เรื่องราวเริ่มมาจากการที่ มาดามแพม ได้ตั้งสเตตัสในเฟซบุ๊กว่า "วันนี้มาออกทีวี เจอนางงาม Top 6 ระดับโลกเขารู้จัก ทำเป็นไม่รู้จัก ชีวิตมาดามแพมน่าสงสาร" จากนั้นมาดามแพมก็ออกมาไลฟ์บนเฟซบุ๊กว่า เธอไปออกงานหนึ่ง และได้เจอกับน้ำตาล เธอชอบน้ำตาลมาก ในห้องนั้นมีคน 4-5 คน ตอนแรกมีคนมาถ่ายรูปกับเธอ เธอก็ถ่ายรูปไป แต่พอถ่ายรูปเสร็จเธอวิ่งไปหาน้ำตาล แต่น้ำตาลทำเป็นเมินไม่คุยด้วย ทำให้รู้สึกเหมือนหน้าแตก
ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหากัน เธอซัพพอร์ตน้ำตาล ถ้าเจอกันจะวิ่งไปหาน้ำตาลก่อน แต่น้ำตาลไม่เคยวิ่งมาหา เธอรักมาก หมดเท่าไรก็เท่ากัน พอเป็นแบบนี้รู้สึกว่าเขาไม่อยากยุ่งกับเธอ ให้ใจเขาไปเยอะ และผู้จัดการของน้ำตาลก็ออกมาบอกว่า จริง ๆ แล้วน้ำตาลไหว้มาดามแพมแล้ว แต่เธอไม่เห็นว่าไหว้
เธอไม่ใช่บิวตี้บล็อกเกอร์คนดัง ยอมรับว่า "เสือก" ไปหาเขาเอง เธอไม่ได้ต้องการหาแสง พอเจอแบบนี้ก็เลยไปโพสต์ในเพจว่าคนเคยร่วมงาน กลับทำเหมือนไม่รู้จักกัน อารมณ์เหมือนโดนผัวทิ้ง
เข้าใจว่าน้ำตาลงานเยอะ แต่เธอไม่ดัง ไม่มีงานทำ เจอแบบนี้ก็เสียใจ เธอไม่ได้ทำตัวเป็นศูนย์กลาง ไม่ได้โกรธหรือเกลียด ไม่ได้ตำหนิ ในวงการนางงามเธอทุ่มเทอย่างมาก เสียเงินไปเป็นล้าน เจอแบบนี้เลยน้อยใจ ผิดเองที่วิ่งไปหาเขาแล้วเขาไม่สนใจ เธอไม่ใช่ดารารุ่นเก่าที่บอกว่าเด็กต้องเข้าหาผู้ใหญ่ แต่ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่ ขนาดคุณวิชญ์ สามีของเธอ ยังคิดว่าเธอไปทำอะไรให้น้ำตาลโกรธหรือเปล่า
เธอไม่ได้เกลียดน้อง ถ้าเกลียดคงบอกว่า "มึงอย่าเพิ่งตาย กูเพิ่งเริ่ม" วันนี้เธอทิ้งเงินแสนไปรับเงินหมื่น ถือว่าเป็นประสบการณ์ และขอให้ทุกคนอย่าไปถล่มน้ำตาล เธอเป็นฝ่ายผิดเองที่วิ่งไปหาเขา
น้ำตาล เข้ามาตอบรัวในไลฟ์ แจงอีกด้านไหว้ไปแล้ว ถ้ารักกันจริง ไม่ทำร้ายกันแบบนี้
หลังจากที่เกิดเรื่อง น้ำตาลก็ได้เข้ามาตอบในไลฟ์มาดามแพม ว่าเรื่องนี้ขออย่าใส่ไฟ เธอไม่ทราบจริง ๆ ว่าไม่ได้ไหว้ตอนไหน เธอไหว้มาดามแพมแล้ว แต่พอดีโทรศัพท์เข้ามาเป็นสายของผู้ใหญ่โทร. เข้ามาเลยต้องรับ ทีมงานเห็นหมด เธอไม่ต้องการดราม่า และขอเคลียร์เรื่องนี้กับมาดามแพมโดยตรง แต่ทีมงานโทร. ไปหามาดามแพมแล้วไม่มีคนรับ
อย่างไรก็ตาม มีช่วงหนึ่งที่น้ำตาลขอที่อยู่เพื่อที่จะไปเคลียร์กับมาดามแพมถึงบ้าน และบอกว่าตอนนี้มาดามแพมกำลังทำลายชื่อเสียงของน้ำตาล มาดามบอกคนอื่นว่าอย่าทำร้ายน้ำตาล แต่เป็นมาดามต่างหากที่ทำร้ายน้ำตาล อย่าหาดราม่ามาให้เธอเลย แม้ว่าน้ำตาลจะไปคอมเมนต์ในไลฟ์ของมาดามแพมโดยตรง แต่ปรากฏว่ามาดามแพมไม่ได้อ่านคอมเมนต์น้ำตาลแต่อย่างใด
จากนั้น น้ำตาล ได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า เธอไม่แน่ใจจุดประสงค์ในการโพสต์ครั้งนี้ของมาดามแพม แต่มันทำให้คนอื่นมองเธอไม่ดี ถ้าเธอมีปัญหาเรื่องการไหว้คงอยู่ในวงการไม่ได้ ทางบ้านก็สอนเรื่องมารยาท ทีมงานก็เห็น ผู้จัดการก็เห็น แต่ตอนนั้นมีโทรศัพท์ผู้ใหญ่เข้ามาก็ต้องคุยยาว กลับมาก็ไม่เห็นมาดามแพมแล้ว จากนั้นเธอก็ไปถ่ายรายการต่อ ถ่ายรายการเสร็จก็เห็นดราม่า ทีมงานก็โทร. หามาดามแพม แต่มาดามแพมไม่คุย มาดามแพมย้ำเสมอว่าเข้าหาเธอด้วยความรัก แต่คนรักกันไม่ทำกันแบบนี้ เราก็ไม่ได้สนิทอะไรกัน ครั้งหน้าก่อนโพสต์ก็ขอความจริงด้วย
จากนั้นก็มีคนมาบอกว่ามาดามแพมเป็นโรคซึมเศร้า ให้อภัยมาดามแพมด้วย ซึ่งน้ำตาลบอกว่า ถ้าเป็นซึมเศร้าจริง ๆ ก็ไม่น่าทำร้ายคนอื่นแบบนี้ คนเป็นซึมเศร้าเป็นคนหลง ๆ ลืม ๆ ด้วยหรือ ถามเพื่อความรู้
มาดามแพม - สามี ออกมาขอโทษน้ำตาล ยอมรับผิดไปแล้ว เดี๋ยวอีก 3-4 วัน จะไปพบจิตแพทย์
จากนั้น มาดามแพม ได้ออกมาโพสต์ยอมรับผิดว่า เธอคือคนผิด และทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่เอง เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากเกินไป จนทำให้หลาย ๆ คนเดือดร้อนโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองว่าตอนนั้นน้องอาจจะติดธุระอยู่ พร้อมกับขอโทษน้ำตาลที่ตอนนั้นวิ่งเข้าไปหาตอนกำลังทำงาน แต่ที่วิ่งเข้าไปหาก็เพราะความรัก ขอโทษที่ทำให้น้ำตาลไม่สบายใจ จะพิจารณาตัวและปรับปรุงพฤติกรรมของตัวเอง และขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยที่ช่วยเตือนสติ
ในขณะที่ คุณวิชญ์ สามีของมาดามแพม บอกว่า ปกติมาดามแพมเป็นคนอ่อนไหว ปากร้ายแต่ใจดี แต่ตั้งแต่ที่มาดามแพมเป็นบุคคลสาธารณะก็มักจะสะสมความเครียดเอาไว้ มาดามแพมคิดเสมอว่าไม่อยากทำให้คนอื่นผิดหวัง ทุกอย่างที่ทำเลยทำแบบเต็มที่ จัดเต็ม และคาดหวังสูงเสมอ จนกระทั่งเป็นความกดดัน ตัดพ้อ อารมณ์แปรปรวน หลายครั้งก็ทำร้ายตัวเอง และไม่อยากอยู่บนโลกนี้
มาดามแพมพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนเป็นคนที่แบกระเบิดเวลาเอาไว้ มีอะไรมากระทบนิดเดียวก็พร้อมโครมคราม จนในที่สุดมาดามแพมก็ไปหาจิตแพทย์ และทราบว่ามาดามแพมเป็นซึมเศร้า เวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเศร้า อีกฝ่ายจะเศร้าไปด้วย
หลายคนบอกว่าให้มาดามแพมไปหาหมอ แต่จะบอกว่าตอนนี้มาดามแพมได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง แม้ตอนแรกจะไม่ยอม ตนและมาดามแพมได้อ่านคอมเมนต์ทั้งหมดแล้ว และตัดสินใจว่าในอีก 3-4 วัน จะกลับไปหาจิตแพทย์อีกครั้ง เพื่อที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใช้อารมณ์และสื่อไปพาดพิงใครอีก ให้มาดามแพมเป็นคนที่อารมณ์ดี เข้มแข็ง และมีเหตุผลเป็นผู้ใหญ่เหมือนเดิม
"โปรดให้อภัยในความใจร้อนขาดสติของเมียผม โปรดให้อภัยที่ผมยุยงให้เมียโพสต์และไลฟ์โดยปราศจากการยั้งคิด โปรดให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งเจตนาและไม่เจตนาครับ เมียผมสำนึกผิด และจะปรับปรุงแก้ไข โดยเริ่มจากการไปพบจิตแพทย์เพื่อได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุดครับ
และอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกจากหัวใจ โปรดอย่าสงสารผม ที่ผมอยู่กับเมียที่อารมณ์แปรปรวน แต่โปรดสงสารผมเถอะครับ ถ้าผมต้องใช้ชีวิตที่ไม่มีแพมเดินข้าง ๆ อีกต่อไป ชีวิตผมคงไม่มีความสุขน่าดู ขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ ตักเตือน ให้สติ และขอโทษทุกท่านที่ทำให้เดือดร้อนจริง ๆ ครับ"
ภาพจาก Instagram namtanlitaa, เฟซบุ๊ก Madampam Makeup by Winlaphat