เป็นมรสุมชีวิตที่ทำเอาอดีตนางงามอย่างนางเอกสาว แนท อนิพรณ์ ถึงกับร้องไห้ออกมา หลังมีหมายศาลมาแปะอยู่หน้าว่าบ้านกำลังจะถูกยึดเพื่อนำขายทอดตลาด จากกรณีที่คุณแม่ (นางสาวภิญญลักษณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์) ถูกผู้เสียหายแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง
โดยบ้านหลังดังกล่าวบ้านที่ สาวแนท อนิพรณ์ ทำงานเก็บเงินซื้อให้คุณตาคุณยายอยู่ หลังเธอเข้ามาทำงานในวงการ ซึ่งเธออยู่กับ ตา-ยาย ตั้งแต่ 2-3 ขวบ เพราะพ่อกับแม่แยกทางกันและแม่ขาดการติดต่อไป
ล่าสุด (15 กันยายน 2565) สาวแนทก็ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาถึงเรื่องนี้ว่า คดียังอยู่ในกระบวนการ ถ้าพูดอะไรมากกกลัวว่าจะกระทบรูปคดี ถ้าถามว่ามีแนวโน้มว่าจะโดนยึดไหม มองว่าไม่น่าจะโดนยึด ยอมรับว่าค่อนข้างที่จะตกใจที่มีหมายศาลมาติดที่หน้าบ้าน แต่ทีนี้ก็ตั้งสติก่อนอันดับแรก ก็โชคดีว่าวันนั้นไปกินข้าวกับพี่เกลือ พี่เขาก็แนะนำทนายให้ และแนะนำว่าเราสามารถไปในทิศทางไหนบ้าง เพราะว่าจริง ๆ เราไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี เราไม่ได้รับทราบหนี้ก้อนนี้ ก็มีการคุยไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งน่าจะอีก 1-2 เดือน ก็น่าจะไกล่เกลี่ยเสร็จ
ส่วนที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เพราะกลัวว่าจะกระทบกับคดี และกลัวว่าเจ้าหนี้ของแม่เขาจะเกิดการเข้าใจผิด เพราะบางทีออกข่าวไป บางคนไม่เข้าใจตามข่าวทั้งหมด หรืออาจจะเกิดการเข้าใจผิดบางข้อความเลยเกรงว่ากลัวจะมีปัญหา
เรื่องจำนวนหนี้นั้นน้อยกว่าราคาบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้ก็ผ่อนอยู่ และมันมีสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่เรามีการเสียทรัพย์สินจำนวนมากไปแล้ว และเราไม่ได้มีมากพอที่จะซัพพอร์ตตรงนี้ต่อ จึงมีการคุยเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ให้ดีที่สุดว่าหนี้เกิดจากอะไร เกิดจากใคร ก็คุยให้เขาเคลียร์ว่าเราเป็นตัวกลางมาช่วย อยากให้เขาทำความเข้าใจและตัดสินใจว่าอะไรยังไง
ถามว่าได้คุยกับคุณแม่ไหม เราคุยกันในประเด็นที่กระทบกับเราและคุณตาคุณยาย ซึ่งประเด็นนี้เราเข้มแข็ง เราอยู่ในวงการเราพร้อมรับกับทุกอย่าง กับคุณตาคุณยายก็เป็นห่วง เวลาข่าวที่ออกไป อย่างที่แนทไปออกรายการแฉ ก็มีหลายข่าวมาในทางที่ลบ เช่นบอกว่าแนทส่งตายายกลับบ้านนอก ซึ่งคนแถวบ้านเขาอ่านเขาไม่เข้าใจเจตนาทั้งหมด เราก็ถามตากับยายว่ารู้สึกแย่ไหมที่เรามีข่าว เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ยายกับตารู้ว่าแนททำอะไร และรู้ว่าเราสู้มากแค่ไหน เขาจะไม่ทำให้เราลำบากใจ เราก็กลัวว่าถ้ามีข่าวลบกลัวแกจะไม่เข้าใจ
ประเด็นเรื่องการยึดบ้านนั้น "แนทเชื่อว่ายังไงบ้านก็จะไม่โดนยึด อย่างที่บอกว่าต้องรอการไกล่เกลี่ย ซึ่งคนที่เป็นเจ้าหนี้แนทเชื่อว่าเขาอยากได้เป็นเงินอยู่แล้ว ซึ่งเงินจำนวนไหนที่เราจะช่วยให้ไกล่เกลี่ย ก็ต้องรอกันต่อไป คือแนทมีการเปรียบเทียบให้เขาฟังว่าหนี้สินกับหนี้บ้าน ถ้าบวกลบแล้วมันไม่คุ้ม ก็จะมีการพูดคุยกันต่อไป" แนทกล่าว
ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของคุณตาคุณยาย สาวแนทเผยว่า เป็นสิ่งที่เรากลัวที่สุด เราสู้ทุกปัญหาอยู่แล้ว แต่กลัวอะไรที่ควบคุมไม่ได้เช่นความคิดของตายาย ความคิดของคนนอกบ้านที่พยายามถาม คือถ้าเราโดนเองก็รับไหวเพราะมีวิธีในการตอบคำถาม แต่ตากับยายเขาเป็นคนซื่อ ๆ แล้วบางทีเขาเป็นคนแก่ เราก็ต้องคุยตลอดว่าไม่มีปัญหาอะไร
งานนี้ สาวแนท ก็ถึงกับน้ำตาคลอเมื่อถูกถามว่าให้กำลังใจตัวเองยังไง ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าแค่เห็นรอยยิ้มของตากับยาย และเข้าใจกันก็คือสิ่งที่มีความสุขของเราแล้ว นั่นคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้โอกาสมอบหมายงานให้
ขอบคุณข้อมูลจาก Nine Entertain