กำลังเป็นดราม่าร้อน ๆ ในวงการเพลง กรณีแรปเปอร์หนุ่ม อิลสลิก (illslick) ได้ยกเลิกงานคอนเสิร์ตที่ร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี โดยให้เหตุผลว่าทางร้านจัดเตรียมอุปกรณ์ให้ไม่พร้อม อีกทั้งทีมงานในร้านยังใช้คำพูดเหยียดหยาม ทั้งยังกล่าวพาดพิงว่าศิลปินคนอื่นยังเล่นได้เลย ทำให้อิลสลิกรู้สึกไม่พอใจและหยิบยกเรื่องนี้มาพูดอีกครั้งบนเวที ซึ่งมีการไปพาดพิงถึงร็อกเกอร์นักวิ่ง จนกลายเป็นยิ่งสุมไฟให้เรื่องนี้
สำหรับใครที่ตามเรื่องนี้ไม่ทัน หรือยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กระปุกดอทคอมได้สรุปรวบตึงตั้งแต่ต้นตอของดราม่า ไปจนถึงความเคลื่อนไหวของเหล่าคนบันเทิงที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ที่นี่แล้ว
จุดเริ่มต้นดราม่าร้อน
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 อิลสลิกได้ประกาศยกเลิกเล่นคอนเสิร์ตที่ผับแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี ก่อนจะโพสต์เล่าถึงสาเหตุออกเป็น 3 ข้อ คือ
1. พบปัญหาในการแสดง อุปกรณ์ที่เป็นส่วนสำคัญในการแสดงของทางร้านไม่เพียงพอ การติดตั้งระบบเสียงมีปัญหา ผิดจากข้อกำหนดที่ตกลงกันไว้เบื้องต้นก่อนรับงานแสดง
2. สื่อสารกับเจ้าหน้าที่ของทางร้านไม่เข้าใจ ก่อให้เกิดปัญหารุนแรงจนไม่สามารถร่วมงานได้
3. เจ้าหน้าที่ของทางร้านบางคนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ปัดความรับผิดชอบ ใช้คำพูดเหยียดหยาม มีการเปรียบเทียบกับศิลปินคนอื่นที่สามารถยอมแสดงในมาตรฐานที่ต่ำได้
ต่อมาทางร้านได้ออกมาโพสต์ขอโทษอิลสลิกและลูกค้า น้อมรับผิดกับปัญหาที่เกิดขึ้นทุกประการ ยินดีคืนเงินให้ลูกค้าทุกโต๊ะ พร้อมจะนำปัญหานี้ไปแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อไป
อิลสลิก เดือดแรง ควายที่ไหนที่เปรียบเทียบนักดนตรีกับนักวิ่ง - เจอดราม่าซัดกลับ
อิลสลิกได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกครั้งกลางเวทีในผับอีกแห่งหนึ่ง โดยติดใจคำพูดของเจ้าหน้าที่ในร้านคู่กรณี เพราะมีการกล่าวอ้างถึงร็อกเกอร์นักวิ่ง ที่ยังยอมเล่นดนตรีได้ในมาตรฐานที่ตนคิดว่าต่ำ ซึ่งตนจะไม่ยอมเล่นในสถานการณ์แบบนี้ เพราะถือเป็นการทรยศต่ออาชีพและแฟนเพลง พร้อมท้าประชันเพลงกับซูเปอร์สตาร์ยอดนักวิ่ง
หลังมีคลิปที่อิลสลิกเดือดกลางเวทีถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะถึงแม้อิลสลิกจะไม่ได้เอ่ยว่าซูเปอร์สตาร์ยอดนักวิ่งคือใคร แต่หลายคนก็โยงไปที่ ตูน บอดี้สแลม ทำให้แฟนคลับของตูนรู้สึกไม่พอใจ เพราะตูนก็อยู่เฉย ๆ แต่กลับโดนพาดพิง
สรยุทธ เปิดโพสต์ตั้งคำถามชาวเน็ต คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง มีการโพสต์คลิปดังกล่าวของอิลสลิก พร้อมระบุข้อความว่า "คิดเห็นกันยังไงครับ ... Illslick เดือด ท้านักร้องซูเปอร์สตาร์นักวิ่งประชัน หลังถูกเจ้าของผับเปรียบเทียบศิลปินซูเปอร์สตาร์ที่วิ่งเพื่อการกุศล เขาก็เล่นได้ แล้วพวกคุณเป็นนักร้องไม่มีปัญญาที่จะเล่นหรือ" ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นก็มีคนบันเทิงอย่าง โดม ปกรณ์ ลัม มาคอมเมนต์ด้วย
โดม ปกรณ์ ลัม ฝากเตือน อิลสลิก คำพูดย้อนกลับไม่ได้ พี่เคยทำผิดพลาดมาแล้วหลายครั้ง
โดม ปกรณ์ ลัม ได้เข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์ของสรยุทธ มีใจความระบุว่า "ผมคิดว่าผมห่างไกลจากคำว่ากวี และผมไม่รู้ว่าผมจะเรียกตัวเองด้วยคำว่าศิลปินได้หรือเปล่า แต่ผมอยู่ในวงการนี้มาเกือบ 40 ปี และพี่อยากจะบอกน้องว่า การกระทำนี้มันไม่สมควร การพูดจาดูถูกดูหมิ่น ศิลปินคนอื่นโดยที่เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากปัญหาของคุณและผู้ว่าจ้างคุณไปเล่น โดยที่คุณก็ยังไม่รู้ด้วยว่าศิลปินคนที่คุณกล่าวอ้างเขาได้กระทำอะไรต่าง ๆ อย่างที่คุณได้นึกและได้พูดออกไปหรือเปล่า
พี่ไม่ได้มีส่วนอะไรกับเรื่องนี้ แต่พี่แค่อยากจะเตือนความคึกคะนองและการพูดออกไปโดยไม่คิด พี่ผ่านมาแล้วหลายจุด เคยทำผิดพลาดมาแล้วหลายครั้ง กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เคยล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง พี่อยากจะเตือนน้อง คำพูดมันย้อนกลับไปลบไม่ได้ เช่นเดียวกับการกระทำที่เกิดขึ้นจากตัวเราแล้ว มันย้อนกลับไปแก้ไขได้ยาก เพราะฉะนั้นคิดอะไรให้ดี ๆ เพราะเท่าที่พี่เห็น น้องก็โตเกินกว่าที่จะกระทำอะไรโดยปราศจากการไตร่ตรองจากสมองและความคิด
ทำผิดพลาดไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่การสำนึกรู้ตัว รู้จักที่จะแก้ไขและปรับปรุง มันเป็นหนทางของคนที่มีสติและปัญญาแล้ว มันจะนำพาความสงบมาสู่ใจน้องเอง"
อิลสลิกชี้แจงอีกครั้ง ที่บอกว่าทรยศต่อคนฟัง เพราะเห็นแก่ตัวเองและเงิน ไม่ได้หมายถึงคนอื่น
หลังดราม่าเริ่มลุกลามใหญ่โต อิลสลิกได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้ง ผ่านทางเฟซบุ๊ก Illslick - Thikhumporn Whetthaisong โดยเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจมากที่สุดก็คือ การกล่าวอ้างถึงบุคคลที่สาม หรือบางข่าวใช้คำว่า "ท้าชน" "ประชัน" ตนยอมรับว่า เป็นความจริง แต่อาจมีหลายคนเข้าใจเจตนาผิดเพี้ยนยืนยันว่าไม่ใช่การแซะ การหาเรื่อง ไม่ใช่การกร่าง หรือการข่มใด ๆ อาจเพราะการพูดด้วยสไตล์การแรป ใช้ประโยคกระชับ รุนแรง มีคำหยาบและตรงไปตรงมา ทำให้ตีความได้เช่นนั้น
ส่วนข้อความที่พูดว่า คนที่เล่นในสถานการณ์เช่นนั้นได้คือคนที่ทรยศต่อคนฟัง เพราะเห็นแก่ตัวเองและเงิน ตนไม่ได้หมายถึงคนอื่น แต่หมายถึงตัวเอง ตนจะไม่มีวันทำแบบนั้น เพราะคนที่ทำแบบนั้นคือคนที่ทรยศคนฟังของตัวเอง เพราะตนเห็นแล้วว่าคนมารอขนาดไหน คนยอมเสียเงินหลายต่อ เสียเงินแล้ว 800 บาท แต่เมื่อร้านเพิ่มเงื่อนไขให้ต้องจ่ายเปิดโต๊ะเพิ่ม คนฟังก็ยังยอมเพื่อจะได้เข้ามาดู แล้วตนจะเอาเปรียบคนดูของตัวเองซ้ำด้วยการเล่นในมาตรฐานแบบนั้นได้อย่างไร พร้อมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียใจ พร้อมน้อมรับทุกความคิดเห็น และจะทำทุกวิถีทางให้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ภาพจาก Instagram artiwara, domepakornlam, เฟซบุ๊ก Illslick - Thikhumporn Whetthaisong