เรียกว่าเป็นนักร้องลูกทุ่งหมอลำที่หลายคนต่างรู้จักกันดี สำหรับ ปอยฝ้าย มาลัยพร จากวงหมอลำคณะเสียงอีสาน ของ นกน้อย อุไรพร ที่มีผลงานเพลงที่สร้างชื่อมากมาย อาทิ มันต้องถอน, ตลกอกหัก, กระเทยประท้วง, ชุดดำสปายแดง, ฝากฟ้าไปผ่าน้อง, มักแล้วครับ, ว่าสิเซาเหล้า และยังรับงานละคร ภาพยนตร์ ตลอดเรื่อยมา
เมื่อได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ปอยฝ้าย มาลัยพร ได้มาเปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อม ภรรยาสุดที่รัก มัย วิภานัท และเผยความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ เพราะอุ่นใจที่ได้มานั่งคุยมานั่งเล่าที่นี่เป็นที่แรกแบบหมดเปลือก เพลงมันต้องถอนของ ปอยฝ้าย ฟังดูเหมือนคนเมาแต่นั่นคือเมาจริง ! ติดเหล้าหนักจนตัวเหลืองค่าตับสูง ขนาดให้น้ำเกลืออยู่อีกมือยังต้องถือเหล้า
และเผยกฎเหล็กของวงห้ามมีความรัก ห้ามตำส้มตำให้กันเพราะนั่นคือการอ่อย ! แล้วชีวิตเรื่องราวความรักของ ปอยฝ้าย ช่วงนั้นจะเป็นอย่างไรเมื่อเจอกฎเหล็กนี้ รับช่วงดังมาก ๆ เคยน้อยใจเพราะความเหนื่อยและโดนห้ามมีแฟน ถึงขั้นประชดแรงจนแม่นกน้อยร้องไห้ !!
พร้อมสารภาพเคยเมาขาดสติจนบีบคอภรรยา รักยังไงก็ไม่ทน ภรรยาจึงขอเลิก !! สุดท้ายเมื่อได้สติขอก้มกราบภรรยาขอไม่ให้เธอไป จึงได้กล่าวคำสาบาน แต่สาบานยังไงไม่ให้ตาย ! เพราะความกลัวตายอุตส่าห์สร้างชื่อเสียงมาขนาดนี้แต่จะตายเพราะเหล้าหรือ ? พร้อมเปรียบความรักของตัวเองเหมือนสายยาง ถ้าไม่มีภรรยาคนนี้คอยประคับประคอง ชีวิตนี้คงสำมะเลเทเมาเหมือนน้ำที่ไหลออกจากสายยาง
พี่ปอยฝ้าย คือบางเพลง จังซี่มันต้องถอน ฟังดูเหมือนคนเมาตอนอยู่บนเวทีเมาจริงหรือเมาเล่น ?
ปอยฝ้าย : เมาจริงครับ จะขึ้นเวทีไม่รู้ทำไมสมองมันจะสั่งให้ไปเอามาดื่ม บางครั้งอินโทรขึ้นแล้วนะในใจนับวินาทีได้เลยนะ เราต้องเปิดแล้วดื่มรู้แม้กระทั่งจังหวะยก ดื่มแล้วลงแล้วจังหวะจับไมค์พอดี งึกงึกงักงัก อย่างนี้เลยนะ ตอนนั้นคือ หนัก ๆ เลยครับ ตาเหลือง ตัวเหลือง เหลืองทั้งตัวตับอักเสบปกติค่าของตับอยู่ที่ 40-45 อันนี้ผมไป 4,000 กว่าขนาดให้น้ำเกลือนะเพราะร่างกายขาดน้ำตาล กระปุกน้ำเกลือก็ถืออยู่แต่ในเป้าคือพกเหล้าไว้ด้วย
ซึ่งตอนอยู่ในวงก็จะมีกฎเหล็กคือ ห้ามมีความรักในวง ห้ามตำส้มตำ คืออะไรมันเป็นการบอกรักรูปแบบหนึ่งหรืออย่างไร ?
ปอยฝ้าย : ห้ามชู้สาว !! ตำส้มตำ คือ เป็นการบอกรักเป็นการอ่อยกัน (แรงไปไหมครับคำนี้) ตำส้มตำ คือวิธีจีบนั่นแหละ !! จะตำส้มตำให้อ้าย (ฉันชอบเธอ) อะไรประมาณนี้ ถามว่ารู้สึกอึดอัดไหม ก็นิดหนึ่งครับ แต่ก็ไม่ถือว่ามาเครียดเพราะเราใฝ่หาอนาคตเพราะตรงนั้นคือ อนาคตเราผมจะคิดว่าผู้หญิงคือ ศัตรู อันดับหนึ่งระวัง ๆ จีบได้ รักได้แต่อย่าให้ลึกจนเกินแบบว่าจะมีอะไรมีความสัมพันธ์กัน ต้องระวังตัวตลอดเวลา
แต่ก็พอที่เราดังขึ้นมามาก ๆ กว่านั้นมันมีบางมุมคือเราเริ่มน้อยใจว่าทำไมงานมันเหนื่อยขนาดนี้ มีแฟนก็ไม่ได้กลายเป็นการประชด ?
ปอยฝ้าย : มีครับมีในช่วงนั้นก็น้อยใจทำไมผมรักคนนี้ช่วงนั้นมี CD เร่งขาย ๆ มาก จนทำให้เราน้อยใจว่า เอ๊ะ !! ทำเพื่อใคร แล้วผมเมาจับไมค์ร้องบนเวทีก็ได้พูด ทำอะไรตั้งใจขนาดนั้นทำให้ใครได้ดี พูดแบบประชดเล็ก ๆ (เหมือนเราเหนื่อยทุกวันนี้เพื่อใครกัน) ครั้งนั้นผมบอกว่าแม่รักผมรัก รักในนามธุรกิจ ถ้าผมทำประโยชน์ให้แม่ไม่ได้แม่คงไม่รักผม ผมทำให้แม่นกน้อยร้องไห้เลย
เคยแบบมีเมาแล้วถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายอะไรอย่างนี้ไหม ?
ปอยฝ้าย : เราก็มาคิดว่าเราทำไปได้อย่างไร เราก็คิดแล้วก็ร้องไห้ขอโทษเขาคุกเข่ากราบเขาเลย กราบเท้าเขาเลยผมก็พูดคำนี้ถ้าคุณหนี ขนาดมีคุณผมยังเป็นแบบนี้ถ้าคุณหนีเท่ากับคุณฆ่าผม
ปอยฝ้าย : เราก็ไปไหว้พระประธานห้าวันเจ็ดวันขอให้มีอันเป็นไป แต่พอพูดแล้วแฟนกลับไปผมก็มาพูดกับพระประธานอีกว่าเมื่อกี้ผมพูดเล่นนะครับ (หัวเราะ) เพราะเรากลัวตาย
มัย วิภานัท : อ้าว !! จริงเหรอ
จนกระทั่งถึงวันหนึ่งที่ พี่ปอยฝ้าย ต้องขอความช่วยเหลือ ช่วยพาไปหาหมอหน่อย ?
ปอยฝ้าย : ใช่ครับ เราอุตส่าห์สร้างชื่อเสียงมาขนาดนี้ เราจะตายเพราะเหล้าเหรอผมคิดนะ ไม่ใช่ผมไม่คิด ผมร้องเพลงอยู่หน้าเวทีผมก็ร้องไห้ไปด้วยเพราะเราสมเพชตัวเอง
เคยคิดไหมเอ่ยว่าถ้าชีวิตเราไม่มีผู้หญิงคนนี้ ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไร ?
ปอยฝ้าย : ก็เคยคิดนะครับ อาจจะสํามะเลเทเมาอาจจะไม่ใช่เพราะเหล้า อาจจะมียาบ้า ยาไอซ์ไปยิ่งสังคมตอนนี้มันเยอะครับ อาจจะไม่มีคนมาประคับประคองชีวิตให้เราอยู่อย่างนี้ ก็เหมือนผมเปิดน้ำออกจากสายยางปลายสายยางมันแกว่งถ้าไม่มีคนนี้จับปลายสายยางไว้ก็คงไปทั่วแล้วครับ
ติดตามเรื่องราวชีวิตความรักทุกช่วงเวลาของ ปอยฝ้าย ได้ในรายการ Club Friday Show วัน เสาร์ ที่ 29 ตุลาคม นี้ เวลา 12.00 น. ทางช่องวัน 31