

เพิ่งมาถึงเมื่อวาน ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ยังไม่ได้เช็กข่าว และไม่กล้าดูสัมภาษณ์เพราะเรามีคำตอบในใจอยู่แล้ว พูดอีกร้อยครั้งก็เหมือนเดิม เพราะมันเป็นความจริง
สภาพจิตใจยังไม่ค่อยโอเค ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ไม่ค่อยโอเคครับ เจอแม่กอดกับแม่แค่ 5 นาทีเองครับ แม่ไปรับที่สนามบิน ผมแยกตัวมานอนที่โรงแรม
ได้เห็นคำสัมภาษณ์พี่ม้าไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : เห็นที่นักข่าวตัดมาครับบางคำ รู้สึกว่ามันใช่ มันเกิดขึ้นจริง ขอบคุณพี่ม้าเลยครับ สิ่งที่ผมกลัวที่สุดกลัวพี่ม้าตอบไม่ตรงคำถาม แต่มันยังตรงไม่หมดในส่วนของผม
รู้จักกับพี่ม้าได้ยังไง ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : รู้จักเจอตามงานอีเวนต์ แต่พี่ม้าไม่รู้จักผมหรอก ผมสวัสดีเขา รู้จักจากพี่ธงผู้จัดการ พี่ม้าพาผมไปปรึกษาหมอศัลยกรรมก่อนไปเกาหลี ไปกัน 2 คน จริง ๆ ต้อง 3 แต่พี่ธงติดโควิด

โอเคไหมไปกับพี่ม้า 2 คน ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : มันโอเคอยู่แล้วครับอยากไปทำหน้า แต่ถามว่ากลัวไหมมันกลัวครับ เพราะเขาเป็นพี่ม้า อรนภา ผมเด็กแล้วผมเห็นเขามาตลอด เขาน่ารักกับผมมากเลย เราสวัสดีแล้วกอดกัน เขาก็พยายามสอนผมเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เขาด่าผมผมจะขอโทษเขาเลย ทุกครั้งที่เขาสอนผมผมตั้งใจฟัง ผมถามเขาเกี่ยวกับวงการบันเทิง ผมคิดว่า 9 วันเราอยู่กันรอดแล้ว พี่ม้าเข้าใจตอบ เขาตอบผมทุกคำถาม ผมรักเขาเลยตั้งแต่วันแรก ๆ
เขาดูแลตลอดตั้งแต่วันแรก ดูแลยังไงบ้าง ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : เรื่องดูแลใช่ แต่เราดูแลกันทั้งคู่ เขาดูแลในส่วนที่ผมเป็นลูกค้า แต่ผมบอกว่าแม่ไม่ต้องดูแลแบบลูกค้าเอ็มทำเองได้หมดเลย แต่เรื่องของการกินเอ็มชอบอร่อย ๆ เขาจะสอนผมตลอดเวลา ผมรู้ว่าแม่ม้าดูอยู่ เขาจะรู้อยู่แก่ใจว่าผมมีสัมมาคารวะหรือเปล่า มีบางคนบอกผมไม่รู้สัมมาคารวะเลยโดนตบ แต่แม่ม้ารู้อยู่แก่ใจครับว่าผมมีสัมมาคารวะหรือเปล่า

เหตุเกิดในวันที่ 2 พี่ม้ารอเอ็มซื้อของ 3 ชั่วโมง แยกกันไปซื้อของ ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ใช่ครับ ผมบอกแม่ครับเราแยกกันหน่อยได้ไหมเอ็มอยากช้อปปิ้ง แม่บอกว่าแยกกันทำไมจะไปไหน เริ่มดุแล้ว ไล่กลับโรงแรมใช่ไหม ผมบอกเปล่าครับ ผมอยากช้อปปิ้งมากเลยแม่ เดี๋ยวผมทำจมูกหน้ามันเน่าไม่กล้าเดิน เขาบอกโอเคพาเขาไปร้านกาแฟ ถ่ายรูปให้ กอดแล้วก็บอกรอตรงนี้นะเดี๋ยวผมมา
ในข่าวที่บอกว่าถือของเยอะของเอ็มทั้งหมดเลยครับ แม่ยังบอกเลยเดี๋ยวช่วยถือ ผมบอกไม่ต้องช่วยถือแม่ถือแอร์เมสสวย ๆ เลยครับ แม่ไลน์มาช้อปหมดเมียงดงแล้วมั้ง พอเอ็มรู้เท่ากับนานไปแล้ว เอ็มรีบกลับไปหาเขาเลย แล้วแม่ก็ไปซื้อรองเท้ากัน
ไม่ไปกินปู เกิดขึ้นตอนไหน ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : เกิดขึ้นตอนที่แม่ม้าจ่ายค่ารองเท้าเสร็จแล้วผมก็บอกแม่ม้าเอ็มอิ่มแล้ว ไม่ไปกินปูได้ไหม แม่ม้าบอกว่าอะไร ขึ้นเสียงแล้ว บอกว่าอีบ้าตีไหล่ผม 2 ที บอกว่าโมโหแล้วนะ ฟาดหน้าผมเลย 1 ที แล้วผมก็เดินออกไปด้วยอารมณ์โมโหมาก ๆ

ตอนที่โดนโกรธแค่ไหน ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : มันโกรธครับ เพื่อนถามทำไมไม่สวน มันสวนไม่ได้ เราอายไหม อาย เราเจ็บไหม เจ็บ แม่ม้าเขาก็ขึ้น
สิ่งที่พี่ม้าพูดมันเกิดขึ้นอย่างนั้นไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : เกิดขึ้นนะครับ มาเกิดขึ้นตอนที่เราเคลียร์กันแล้ว แล้วเขามาอธิบายอย่างนี้ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจ หลังจากที่ผมโดนตบผมเดินหนีเลยครับ ผมบอกว่าทำอย่างนี้ผมไม่ถูกนะพ่อแม่ผมยังไม่เคยทำเลยนะ แล้วแม่ม้าก็เดินมาขอโทษผมเลยบอกอย่าเพิ่งมาขอโทษต่างคนต่างอยู่ก่อน ตอนนี้อารมณ์ข้างในผมหนักมากเลยครับ แล้วผมก็เดินหนีไปเลยแล้วเขาก็ให้เวลาผมนานพอสมควร พอเขามาจับมือผมเขาถึงได้พูด แต่ผมก็มีส่วนผิดเหมือนกัน เขาขอโทษผมก่อนพอผมได้ยินคำนั้นผมขอโทษเหมือนกัน
โกรธที่พี่ม้าตีหน้า ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : โกรธครับแบบสั่นเลยครับ ตัวสั่น ใจสั่น ที่สำคัญผมอายมาก ไม่ได้แค่ฟาดแต่เสียงดัง เลยต้องหาคำพูดคำหนึ่งที่ทำให้หยุดแล้ว โดยเอาพ่อแม่มาอ้าง แล้วมันก็เป็นความจริงด้วยผมไม่เคยโดนพ่อแม่ตีขนาดนี้

ความรู้สึกของผู้ที่ถูกกระทำ พี่ม้าแตะหรือตบ ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมรู้สึกว่าผมโดนตบครับ เพราะหน้าผมหัน ตอนนั้นผมว่าแรงนะ มือแม่ใหญ่กว่าหน้าผมอีกนะ
ตอนที่เขาตีหัวไหล่อันนั้นแตะหรือตี ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : อันนั้นแตะ อีบ้า อีบ้า แล้วก็โมโหแล้วนะ ก็ฟาด แรงครับหน้าชาเลย
หลังจากที่ใจเย็นลงได้พูดคุยกัน ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : เคลียร์กันที่เมียงดงครับ เขาวางแผนไว้แล้ว 1-2-3-4 เอ็มทำแบบนี้ผิดแผนเขานะ เอ็มเลยบอกว่าต่อไปนี้เรามีอะไรเราพูดกันตรง ๆ เลยนะ เอ็มบอกว่าแม่ครับเอ็มถามหน่อย ถ้าเกิดแม่พาคุณหญิงคุณนายมา ถ้าเขาไม่กินปู แม่จะตบเขาอย่างนี้ไหม ผมถามไปตรง ๆ แต่จำไม่ได้แม่ตอบว่าอะไรตอนนั้น แต่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างโมเมนต์หลายอย่าง แม่ม้าร้องไห้ ผมก็จบเลยทุกอย่างจบผมขอโทษ เข้าไปกอดเขา ผมเลยบอกครับแม่ถ้างั้นเรื่องนี้เรารู้กัน 2 คนนะ อย่าไปบอกใครนะ เขาถามเอ็มจะกลับโรงแรมเลยไหมลูก งั้นปกินปูก็ได้ให้มันจบ ๆ พอไปกินมันเป็นปูอลาสก้าไม่ใช่ปูดอง ผมยังถ่ายรูปให้พี่ม้า
ไปกินปูแล้วอร่อยไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ก็อร่อย

เคลียร์กันแล้ว ขอโทษกันแล้ว แต่เหมือนยังไม่จบ มีข่าวหลุดออกมา ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมกลับไปโรงแรมไปนั่งคิดดูว่าทำอะไรแย่บ้างในวันนี้ จนผมรู้สึกว่าผมกับพี่ม้าห่างกัน พี่ม้าบอกว่าก็พยายามศึกษาผม ผมก็พยายามศึกษาพี่ม้า อะไรที่ผมยอมได้อะไรที่ผมยอมไม่ได้ เรื่องที่ผมยอมได้คือทุกอย่างผมให้ได้ แต่เรื่องที่ยอมไม่ได้คือเขาตบครับ ผมก็กลับไปคิด ไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟัง แต่ผมคุยกับแม่เราที่เมืองไทย เมืองไทยก็ดึกนะผมบอกเลยแม่ผมไม่ได้ 2 วันระหว่างที่ผมทำจมูก ผมโทร. หาแม่คุยกันปกติแม่ม้าเป็นยังไง ผมก็เล่าไป แต่เขาบอกเสียงผมแปลก ๆ นะเป็นอะไร เราเลยเล่าไปก็เริ่มจะร้องไห้ เขาก็เริ่มจับประเด็นได้เขาก็พยายามถาม ผมเลยบอกว่าโดนตีแต่ไม่ต้องไปเล่าให้พี่ธงฟังนะเดี๋ยวเรื่องใหญ่ แม่เขาก็รับปากผม แต่ก็ไปเอาเรื่องพี่ธง
แม่ได้ฟังครั้งแรกเขารู้สึกยังเป็นไง ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : แม่โกรธมาก โกรธมากกว่าเรา ผมบอกไม่ให้บอกพี่ธง แต่เรื่องนี้คนที่มีปัญหาสุดคือพี่ธง เพราะแม่ผมก็ไปอาละวาดกับพี่ธง พี่ธงจะไม่ให้ฟ้อง จะให้ประนีประนอม พี่ธงส่งผมให้ไปทำจมูกกับแม่ม้า แต่ไม่ได้ส่งผมให้ไปโดนตบอันนี้เป็นเรื่องของผม
พอแม่รู้เรื่องบอกอะไรกับเรา ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : แม่บอกว่าติดต่อทนาย ผมให้แม่ช่วยติดต่อ ส่งไปหาทนายหลายคน แต่ไม่มีใครอ่านเลย เพราะผมส่งไปไม่ได้บอกว่าโดน ม้า อรนภา ตบ ผมส่งไปว่า ผมโดนตบที่เกาหลีโดยคนไทยด้วยกันผมสามารถทำอะไรได้บ้าง มีทนายท่านหนึ่งตอบคนเดียว เลยรู้สึกว่าจะเอาคนนี้เป็นทนายของผม ผมก็ค่อย ๆ ส่งข้อมูลให้เขา ตอนนั้นแค่ปรึกษา

ทนายบอกไหมต้องทำอะไร ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : บอกครับ บอกละเอียดเลย
แล้วทนายรู้ได้ไงเป็น ม้า อรนภา ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมยังไม่ได้บอกครับ ตอนหลัง ๆ ผมบอกพี่ธงว่าได้ทนายแล้วนะครับ แต่โทร. หาพี่ธงเป็นสิบสายไม่รับเลย ผมเลยส่งให้ทุกอย่างที่ผมมีทั้งรูปทั้งคลิป ก่อนหน้านั้นพี่ธงรับแล้วถามว่าเหมือนเขาไปคุยกับทางฝั่งแม่ม้า บอกว่าฉันตบมีหลักฐานเหรอ ผมเลยบอกพี่ธงจะดูไหม เขาบอกไม่ดู ๆ กลัว ๆ พอเขาถามว่ามีหลักฐานเหรออันนี้คือคำที่ผมขึ้น ผมเลยส่งหลักฐานให้ทุกอย่างแล้วบอกว่า ม้า อรนภา ตบหน้าผมครับ
พอมีชื่อพี่ม้าเลยกลายเป็นเรื่อง ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : พอผมได้รับข้อความถามหาหลักฐาน ผมบอกไม่ยอมเลยครับ ผมจะเอาความให้ถึงที่สุด ถ้าเขาไม่ได้พูดหลักฐานก็อาจจะไม่หลุดมา ณ ตอนนั้น แต่ถามว่าการกลับมาที่เมืองไทยไหม ผมคิดเลยนะว่าผมทำแบบนี้จะดีกับตัวผมไหม ผมฟ้องผู้ใหญ่ ผมไม่ได้มีชื่อเสียงขนาดนั้น แต่ผมคิดว่าไม่ได้ถ้าใน 10 ปี เราอยู่ในเมียงดงเราโดนตี วันนั้นผมคิดว่าไม่ได้มีเรื่องกับ ม้า อรนภา ผมคิดว่าผมมีเรื่องกับคน 2 คน ผมเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร ผมอยากให้ทุกคนที่โดนยังงี้ต้องกล้า

พี่ม้าพูดว่าแจ้งความจริงหรือเปล่าที่เกาหลี ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมแจ้งครับ มีอะไรหมดเลยครับ แต่ตำรวจเกาหลีถามกลับมาว่าคนนี้ชื่ออะไร ผมพยายามบ่ายเบี่ยงว่าไม่รู้ ถามว่ามีเบอร์คนนี้ไหมมีโรงแรมคนนี้ไหม ผมตอบไปว่าไม่มีครับ เพราะว่าถ้าจากในกล้องวงจรปิดเขาสามารถไปจับตัวได้เลย ผมรู้สึกว่ามันไม่น่าจะหนักขนาดนั้น เพราะผมไม่ได้ทำให้ผมถึงกับตายเลย แต่ถ้าตำรวจมาเขาติดคุกที่เกาหลีนะครับ ผมก็นึกกลับไปสิ่งดี ๆ ที่เขาทำให้ผมมันก็ยังมี นี่คือหลักฐานการแจ้งความที่เกาหลี มันจะบอกทุกอย่างเลย แล้วเขาบอกกลับไปที่ไทยให้เอาไปที่สถานีตำรวจกับคลิปมันสามารถเอาความผิดได้ครับ
ทำไมถึงไม่บอกตำรวจเกาหลี ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมสงสารเขา ผมมองว่าเขาก็แก่แล้ว ถ้าเกิดเขาติดคุกที่นั่น ผมแค่รักษาสิทธิ์ของผมในการโดนทำร้ายร่างกายแต่เรื่องเอาสะใจผมไม่ได้ต้องการขนาดนั้น
เรื่องมาถึงทนายไทย และยังไม่รู้จะได้ถึงขั้นไหน ขึ้นอยู่กับใคร ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ขึ้นอยู่กับหลักฐานที่มีครับ เอ็มชัดเจนอยู่แล้วครับ อย่างที่คุยกับพี่ม้าเจอหน้ากันตัวต่อตัวบอกเอ็มรักแม่นะครับแต่สิ่งที่แม่ทำมันผิด เอ็มบอกเลยว่าเอ็มจะสั่งสอนแม่ด้วยการแจ้งความนะ แม่เค้ามองหน้าเอ็มน้ำตาคลอ ๆ คุยกันแค่นั้นเลยครับวันที่เจอล่าสุดเอ็มตัดไหมที่จมูก

เจอกันวันตัดไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ใช่ครับ ผมคิดว่าไม่เจอ ต่างคนต่างไป ความรู้สึกแรกหลังจากที่บล็อกกันไปผมเจอก็สตั๊นแต่ก็สวัสดีครับมาด้วยเหรอ แม่บอกฉันก็ต้องมาสิมาดูแล เขาบอกเครียดไหม ผมเครียดมากไม่คิดว่าข่าวจะใหญ่ขนาดนี้ ผมก็บอกเขาว่าเราไปเคลียร์ที่ไทยนะ ผมรักแม่ะ แต่สิ่งที่แม่ทำ แม่ทำกับคนอื่นไม่ได้แล้วนะ
แจ้งความไทยไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ที่ผมเงียบทุกอย่างต้องการจะพูดที่เดียวให้มันจบไปเลยครับว่ามันเป็นความจริงผมก็ยังจะแจ้งความ
ณ วันนี้ยังโกรธอยู่ไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ตอนแรกโกรธมาก จะเอาให้ถึงที่สุด ผมก็ใหม่กับข่าวไม่คิดว่าจะเจอยังงี้ แล้วผมไปเจอคอมเมนต์แย่ บางทีเรื่องของเราสองคน พี่ม้าตบหน้าผม ผมคือผู้ถูกกระทำ แต่พี่ม้าโดนบูลลี่ว่าลุงมั่ง อะไรมั่ง จากที่ผมโกรธผมไปอ่านคอมเมนต์มันเกินไปสำหรับเขา เรามาโฟกัสกันที่ตรงนี้ดีกว่า ผมไม่ยอมความอยู่แล้ว แต่ทุกคนอย่าใช้ผมเป็นสื่อ
ตอนนี้ผมเป็นผู้เสียหาย ผมโดนตบหน้าผมก็รู้สึกแย่แล้ว ผมอยู่ที่เกาหลีคนเดียวไม่ได้คุยกับใคร ผมมีมือถือเครื่องเดียวที่บ้านบอกไม่ต้องเช็กข่าว แต่สิ่งเดียวที่ดูได้คือมือถือ บางคนก็ด่าผม ดังแล้วเหรอ ผมไม่ดังครับผมเป็นแค่ตัวประกอบผมไม่คิดว่าวันนี้ผมจะมีเสียงได้ออกมาพูดขนาดนี้ ผมอยู่ที่เมืองไทยผมมีเพื่อน มีครอบครัว ผมปากแจ๋วได้ ผมอยู่ที่เกาหลีผมโทร. หาใครก็ไม่ได้ ทุกคนคอมเมนต์เดี๋ยวเขาก็ลืมว่าคอมเมนต์ว่าอะไร แต่ผมไปอ่านมันอยู่ในใจผม ผมใหม่เกินไปกับเรื่องพวกนี้

คอมเมนต์ที่อ่านทำให้เราแกร่งขึ้นไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ตอนอยู่เกาหลีผมแพลนจะไปเที่ยวเยอะมาก แต่ไม่ใช่เลย 3-4 วัน ผมเก็บตัวอยู่ในห้อง ครอบครัวบอกว่าเอ็มกลับมานี่แค่จุดเริ่มต้น จะเป็นยังไงไม่ต้องกลัว หน้าที่ของเอ็มคือกินให้อิ่ม เที่ยวให้สนุก แล้วค่อยกลับบ้าน อีก 2 วัน หลังผมทำอย่างนั้นจริง ๆ ผมปิดทุกอย่างแล้วไปเที่ยวคนเดียว
ความรู้สึกตอนนี้ยังโกรธอยู่ไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมไม่ได้โกรธขนาดนั้นแล้ว แต่การที่เราจะมาเจอกันมันยังไม่ได้ ผมกลัวทุกอย่างเลยครับ ทุกอย่างมันต้องเป็นเรื่อง ผมจะไม่พูดเรื่องไม่จริง จะมาจับมือ มากอด เอากระเช้าอะไรได้ มันยังใหม่ผมยังให้เป็นภาพนั้นไม่ได้ แต่ใจเราไม่โกรธ

ให้อภัยไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ให้อภัยครับ
เมื่อวานพี่ม้าขอโทษแล้ว ทำไมถึงยังฟ้องอยู่ ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : อย่างที่ผมบอกแม่ม้าวันตัดไหม ผมขอโทษนะครับสำหรับที่มองว่ามันก้าวร้าวเกินไปหรือเปล่ากับคำพูดนี้ ผมบอกว่าอยากให้บทเรียนกับแม่ แม่จะได้ไม่ต้องไปทำกับใคร ผมก็ได้บทเรียนจากเรื่องนี้เหมือนกันในเรื่องของสื่อของอะไร แม่ม้าก็ได้บทเรียนจะไปตีใครยังงี้ไม่ได้แล้วครับ พูดต่อหน้าเลยครับ แม่เขาก็ยืนนิ่ง บอกเดี๋ยวเราไปเคลียร์กันที่ไทยนะครับ แม่เขาพยักหน้า แล้วก็แยกกันวันนั้นเลยครับ
มีโอกาสถอนฟ้องไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมไม่มีความรู้ด้านกฎหมายเลยครับ แต่ที่บ้านผมคิดกันแล้วว่าจะฟ้อง แต่ผมชนะไปแล้วผมได้อะไร จะถึงขนาดไหน จะเดินไปตบหน้าเขาคืนตามคนที่เชียร์ผมเหรอ ผมก็ทำไม่ได้ ณ ตอนนี้ผมก็ตอบไม่ได้จริง ๆ ครับ ถ้าถามว่ายังฟ้องไหม ฟ้อง

มีคนบอกสร้างกระแส เกาะพี่ม้า ทำให้ตัวเองดัง ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : เรื่องนี้ผมไม่ได้สร้างแน่นอน เรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่ได้ยั่วยุ ทุกอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ผมตั้งใจไม่บอกใครว่าไปทำจมูก ผมไม่ใช่นักแสดงดัง ผมอยากดังอยู่แล้วแต่ผมไม่มีผลงานอะไรให้ใครดู ข่าวเดี๋ยวมันก็ไป ผมไม่ได้อยากได้อย่างนี้ อยากตั้งใจและอยู่กับมันไปนาน ๆ มากกว่า
มีคนบูลลี่เรา คาใจมากที่สุด ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ตอนแรกผมจะไม่มาออกรายการอะไรเลยเพราะไม่มีใครรู้หน้าผม คนก็หา อยู่ดี ๆ ก็มีคนเปิดวาร์ป ผมก็แอบอ่านนี่ทำหน้ามาแล้วเหรอ ใครไม่รู้จัก บางคนไดเรกต์มาดาราต๊อกต๋อย ดารากับนักแสดงต่างกัน อาชีพผมไม่ใช่ดาราอาชีพผมนักแสดง ผมเล่นได้ทุกบท ผมแค่อยากหากินกับตรงนี้
มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพี่ม้า ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ผมว่าเรื่องนักสืบโซเชียลเก่งมาก ถ้ามีเรื่องนี้เขาต้องรู้อยู่แล้ว มันชัดอยู่แล้วว่าคนไทยทักพี่ม้าทั้งถนนที่เกาหลีเขาก็รุ่นแม่ผมแล้ว ค่าศัลยกรรมผมออกเอง ค่าตั๋วผมออกเอง กินอะไรก็หารกันครับ

ความคืบหน้าคดี ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : ยังไม่ได้คุยกับทนายเลยครับ
มีอะไรอยากบอกพี่ม้า ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : เหมือนเดิมวันที่เราคุยกันวันตัดไหม ผมรักแม่นะ แต่ขอให้แม่พูดความจริงวันแถลงข่าว ผมขอบคุณแม่ผมกลัวมากเลยกับวงการบันเทิง ผมกลัวแม่จะออกมาพูดว่าผมเป็นเด็กเขาอะไรอย่างนี้ เด็กเอน ฉันซื้อเขามา มันเป็นสิ่งที่ผมคิดไปเอง มันเป็นเรื่องข้อเท็จจริงของผมกับแม่มีแค่นั้นจริง ๆ แม่ดีกับเอ็มมาก ๆ ในเรื่องของการสั่งสอนในวงการบันเทิงแต่เรื่องที่ผิดจริง ๆ คือแม่ตบหน้าเอ็มแค่นั้น
วันหนึ่งมีโอกาสคืนดีพี่ม้าไหม ไปนั่งกินปูด้วยกันอีกได้ไหม ?
เอ็ม นันทวัฒน์ : มันพูดยาก ผู้ใหญ่เขาขอโทษแล้ว ผมก็ขอโทษเขาในส่วนที่ผมทำ
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama