อัปเดตล่าสุดพี่นกย้ายไปอยู่ฮ่องกงกี่ปีแล้ว ?
เงินเยอะไหมคะ ?
ตอนแรกชวนกันอยู่เลยว่างานแต่งจะจัดขึ้นที่อิตาลี เป็นงานใหญ่ ตอนนี้ยังจะมีแพลนจัดงานที่อิตาลีอยู่ไหม ชุดก็ซื้อแล้วด้วย ?
เห็นว่าตอนนั้นที่เลือกเป็นชุดคอลเล็กชั่นใหม่ด้วย ตอนนี้กลายเป็นธีมวินเทจไปแล้ว ?
แสดงว่ายังมีแพลนที่จะจัดงานแต่งงาน ?
รู้สึกยังไงที่งานถูกเลื่อนออกไป ?
ถ้าต้องแต่งงานอีกครั้งหนึ่งชุดต้องเปลี่ยนคอลเล็กชั่นไหม ?
ไรอันเขาเป็นสายเปย์ ใจดีใช่ไหม ?
หลายคนสงสัยว่า ไรอัน เขารวยขนาดนี้ เขาทำอะไรอยู่ที่ฮ่องกง ?
เป็นนักธุรกิจระดับพันล้านจริงไหม ?
ไปที่นู่นไม่ได้ทำงานแต่ได้กินเงินเดือน ?
คนเมาท์ว่าได้เป็นหลักล้านต่อเดือน ?
นก ศิขรินธาร : คือไม่ขอพูดเรื่องนี้ได้ไหมคะ (หัวเราะ) เรารับหลายทาง ทั้งเงินเดือนภรรยา และสามีเพิ่งให้ตำแหน่ง ซึ่งเขาเป็นอะไรไปฉันก็ฮุบอะค่ะ โชคดี เราเป็นคนดีไซต์สามีนะ อยากมีสามีเป็นคนฮ่องกง ทำธุรกิจ คือแพลนไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ เราชอบอยู่กับคนสองวัฒนธรรม แล้วไรอันเขาเคยอยู่เมืองไทยเขาก็จะเข้าใจวัฒนธรรม เขาใจเราได้ เราชอบแฟชั่น แฟชั่นแบรนด์ แล้วได้สามีเป็นคนซักผ้าให้อีกอ่ะ คิดมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ได้จริง ก่อนหน้านี้ก็มีผู้ชายขอแต่งงานตลอดนะ สวยอ่ะ (หัวเราะ)
ไรอัน : ภรรยาก็เคยบอกว่าอยากได้คนแบบนี้มาเป็นสามี
เมื่อกี้บอกได้ตำแหน่งมาตั้งทำหน้าที่อะไรบ้าง ?
นก ศิขรินธาร : คือเราจะช่วยดูหลังบ้าน เป็นคนที่ไกด์สามีมาตลอดเพราะเราชอบเรื่องแฟชั่น เรามีมุมมองด้านแฟชั่น คือมันลงตัวของเราสองคน ซึ่งหลังจากที่ได้รับตำแหน่งมาปีหน้าก็จะเข้ามาดูมากขึ้นธุรกิจส่งเสริมบริษัท ส่วนหน้าที่ภรรยาก็ต้องหาร้านอาหารรอสามีเพราะเขาทำงานเหนื่อย เมื่อก่อนเขาจะหาร้านอาหารเซอร์ไพรส์เราตลอด ตอนนี้เราก็เลยแบ่งเบาเขาด้วยการจองร้านอาหารแทน สามีคือเพอร์เฟกต์มากทุกอย่าง กินข้าวก็รอให้เรากินก่อน เปิดประตูรถให้ แต่มีอย่างเดียวดิฉันขอฟ้องค่ะ คือเขาเดินเร็วมาก เดินไม่รอภรรยา มีเรื่องเดียวจริง ๆ เราก็สับขาไม่ทันเลยค่ะ เราก็บอกเขาเรื่องนี้นะ
ไรอัน : คือมันอยู่ในสายเลือด ชาวฮ่องกงจะเร่งรีบตลอดเวลาเหมือนเดินบนถ่านร้อน
ในแต่ละวันตื่นมาทำอะไรบ้าง ?
นก ศิขรินธาร : คือเรียนค่ะ เมื่อก่อนเรียน 4 วันแต่ตอนนี้เหลือแค่ 3 วัน เรียนภาษา จีน แมนดารินด้วย แล้วก็เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมด้วย ปกติเราคุยกับฝรั่งชวนแต่ไปเที่ยว แต่เดี๋ยวนี้สามีพาออกงานด้วยทุกครั้ง ก็เลยต้องคุยเรื่องประเทืองปัญญา เพราะเราคุยไม่ค่อยมีสาระ ก็ไปหาสาระเพิ่มมากขึ้น เราก็แฮปปี้ เรียน 3 วัน ดูแลสามี ดูแลบ้าน พอมาดูแลบ้าน บ้านก็ต้องเรียบร้อย รักความสะอาด
ไรอัน : ภูมิใจในภรรยามาก และดีใจที่ภรรยาไปอยู่ด้วยที่ฮ่องกง
มีเรื่องหนึ่งที่พี่นกไม่เคยบอกใครที่ไหน ว่าเคยผ่าหัวใจที่ฮ่องกง ?
นก ศิขรินธาร : ผ่าแล้วสินะ คือไม่รู้ตัวเอง เนื่องจากเรานำสามีไปแล้ว สามีก็ชอบจับเราไปแสกนตัวตลอดเวลา พอเราไปตรวจร่างกายหมอก็จับทำนู่นนี่ แล้วก็บอกว่าเซลส์ตัวนึงแทรกแซงหัวใจต้องกินยาตลอดชีวิต ไม่ก็ผ่าตัด เราก็เลยแบบจะบ้าหรอ ก็เลยกินยาไปก่อน ช่วงที่รับวัคซีนก็รู้สึกอึดอัด ก็เลยผ่าตัด 8 ชม. ใส่กล้องไปทางขวา คือตอนจี้เซลล์ตัวนั้นออกเราก็รู้สึก คือตื่นตลอดเวลา ทำเสร็จก็ต้องนอนนิ่ง ๆ คืออาการมันอยู่กับเรามาแบบไม่รู้ตัว ถ้าไม่เอาออกมันก็จะอยู่แบบนั้น ก็ต้องขอบคุณสามีที่พาไปตรวจ
ไรอัน : พอทราบก็กังวล ก็ไปหาความรู้เรื่องนี้ แต่เขาก็บอกว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ก็เป็นห่วงและซีเรียสอยู่ดี
ค่ารักษาสูงมาก ?
อะไรในตัวที่ทำให้เขารักขนาดนี้ เคยถามเขาไหม ?
ล่าสุดเกือบต้องผ่าตัดอีกรอบเพราะมะเร็ง ?
นก ศิขรินธาร : เดือนที่แล้วเครียดมาก เพิ่งผ่าตัดได้ 20 วัน ผ่าตัดส่องกล้อง คือด้วยความที่เขาชอบพาเราไปแสกนกรรม ล่าสุดก็ไปเจอต่อมน้ำเหลืองโต หมอก็บอกว่ามันเป็นจุดที่อันตราย อยู่ติดกับเส้นเลือดใหญ่ใต้ไต แล้วเขาก็ส่งเราไปตรวจหามะเร็ง ตอนนั้นอยู่ฮ่องกงเราก็เครียดมากเลย 1 อาทิตย์ ต้องฟังผล ไปฟังผลหมอบอกว่าคิดว่า 60% เป็นแล้วบอกต้องผ่าประมาน 20 ซม. กลางตัว เราก็ชอบใส่เสื้อเอวลอยด้วย ตอนนั้นก็บินกลับไทย เพราะที่นี่ผ่าตัดส่องกล้องได้ เราก็เลยต้องผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อก้อนนั้นมาตรวจ พอตรวจคุณหมอบอกไม่ใช่มะเร็ง มันติดเชื้อภายใน คือรอดตายมาอย่างหวุดหวิด ก็ถือว่าโชคดีอยู่ แต่ก่อนหน้านั้น 1 เดือน ก็เครียดมาก ตอนนี้ก็เลยต้องดูแลตัวของเราให้ดีที่สุด
ไรอัน : ร้องไห้กันทั้งคู่ กังวล
พอเจอเหตุการณ์แบบสวีตมากกว่าเดิมไหม ?
นก ศิขรินธาร : สวีตมากกว่าเดิม (จูบกับสามี) คือเราจะจูบกันตลอดเวลา