เจมส์ เล่า 10 ปีแห่งความทรมาน รอดจากเครื่องบินตก เห็นเมฆดำแล้วนรก รสน้ำในบึงกลับมา

          เจมส์ เรืองศักดิ์ เผย 10 ปีแห่งความทรมาน ภายหลังจากรอดปาฏิหาริย์ในเหตุการณ์เครื่องบินตกที่สุราษฎร์ธานีจนเป็นข่าวใหญ่ ยอมรับชีวิตหลังจากนั้นไม่ง่าย ขึ้นเครื่องบินแต่ละครั้ง กลัวมากทุกครั้ง ถ้าเห็นเมฆดำคือนรกมาเยือน !

          หากใครยังจำกันได้ เมื่อ 24 ปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ข่าวใหญ่ที่เมื่อปี พ.ศ. 2541 กับเหตุการณ์เครื่องบินของการบินไทย TG261 ที่มุ่งหน้าจากดอนเมืองไปที่สุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากเจอพายุดีเปรสชันอย่างหนัก นักบินพยายามเอาเครื่องลงจอดแต่ทำไม่ได้ จนครั้งสุดท้ายเครื่องยนต์ชะงัก เครื่องพุ่งและเสียการทรงตัวจนตกลงไปในป่ายาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 101 คน และบาดเจ็บ 45 คน โดยที่เจมส์ เรืองศักดิ์ ซึ่งในตอนนั้นเป็นนักร้องชื่อดังที่กำลังอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพ เป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จนได้ฉายาว่า เจมส์ กระดูกเหล็ก

          ทว่า 24 ปีผ่านไป เจมส์ได้ออกมาพูดถึงสิ่งที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในครั้งนี้ โดยที่เจมส์เขียนเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2565 ว่า หลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อ 24 ปี ก่อน เจมส์ต้องใช้เวลากว่า 10 ปีในความทรมานทุกครั้งที่นั่งเครื่องบิน ต้องพึ่งยา พึ่งธรรมะ หาความเชื่อต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเองดีขึ้น

          แม้ว่าเจมส์จะเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยของการบิน และเชื่อมั่นในการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินที่ปลอดภัยและอยู่ในใจเสมอ แต่ 10 ปีแรก ตนอยู่ด้วยความทรมานทุกครั้งที่นั่งเครื่องบิน โดยเหงื่อจะออกเต็ม 2 ฝ่ามือ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ หายใจไม่สะดวกทั้งที่บนเครื่องบินสะดวกสบาย เวลาอยู่บนเครื่องจะไม่คุยกับใคร จะต้องจ้องออกไปนอกหน้าต่าง ห้ามปิดหน้าต่าง และเจมส์ต้องนั่งติดหน้าต่างเสมอ จ้องเป็นชั่วโมงเวลาที่ต้องบิน ตาแทบไม่กะพริบ เพื่อให้ชัวร์ว่าข้างนอกปลอดภัยดี 

          และถ้ามองไปข้างนอกแล้วเห็นเมฆดำ หรือเกิดฟ้าฝนไม่ดีระหว่างที่นั่งบนเครื่อง นั่นคือนรกของเจมส์ คนอื่นอาจจะปกติแต่เจมส์จะรู้สึกแย่มาก ๆ เกินจะบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือ ภาพ กลิ่น รสชาติของน้ำในบึงวันนั้น มันจะกลับมาหมด หลายครั้งที่อยากร้องไห้บนเครื่องบิน แต่ด้วยความที่เป็นเจมส์ เรืองศักดิ์ ผู้ชายสูงเกือบ 2 เมตร และเป็นที่รู้จักของทุกคนบนนั้น ตนก็อาย ได้แต่อดทนต่อไป 

          10 ปีแรกคือความทรมาน 10 ปีต่อมาอาการดีขึ้น ดีวันดีคืน ด้วยความที่เข้าใจในชีวิต และได้เจอกับครูก้อย ภรรยา ที่อยู่เคียงข้างกันและให้กำลังใจ คอยบีบมือ ปลอบใจ โอบกอด เวลาที่มีอาการ จนทุกวันนี้เจมส์คิดว่าหายเกือบเป็นปกติ 97-98% ส่วนอีก 2% คือเมื่อเครื่องลดระดับลงอย่างรวดเร็วและนานเกิน 10 วินาที ซึ่งเจอแค่ครั้งเดียว

​​​​​​​          "ทุกวันนี้ชีวิตผมมีความสุขมากครับ ทุกอย่างมันเติมเต็มทุกบทบาทของชีวิต มันดีมากอย่างที่ไม่เคยดีขนาดนี้มาก่อน ทั้งข้างในคือความคิด และข้างนอกคือความสัมพันธ์ ครอบครัวและชีวิตความเป็นอยู่ …

          ผมบอกภรรยาเสมอว่า ทุกวันนี้ไม่รู้จะเอาเวลาไหนไปมีความทุกข์เพราะความสุขที่มีอยู่ตรงหน้าทุกวันนี้มันยังใช้ไม่ทันเลยจริง ๆ แต่ละวันอยากมีเวลาเพิ่มเพราะใช้ความสุขไม่ทันจริง ๆ หรืออาจเป็นเพราะผมเคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มาด้วยมั้ง ผมถึงรู้ซึ้งถึงคุณค่าของเวลาและการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขมากว่าปกติ ขออุทิศส่วนกุศลและรำลึกถึง 101 ชีวิตที่กลับไปไม่ถึงบ้านในวันนั้น"

          สุดท้ายแล้ว เจมส์ยืนยันว่า ที่มีคนลือว่าเจมส์ได้บินการบินไทยฟรีตลอดชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะทุกวันนี้เวลาบินการบินไทยก็ยังต้องจ่ายเงินเอง อย่างล่าสุดพาครอบครัวไปเที่ยวก็จ่ายเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก James Academy 
ภาพจาก Instagram jamesruangsak.co.th