ฮาย Paper Planes เจอเรื่องหนักสุดในชีวิต เพลงดังแต่ไม่มีความสุข จนเป็นโรคแพนิก

          ฮาย Paper Planes เปิดใจเจอเรื่องหนักที่สุดในชีวิต เพลงดัง แต่กลับไม่มีความสุข ถึงขั้นกลายเป็นโรคแพนิก กลัวที่แคบ กลัวเครื่องบิน หนักจนต้องพบแพทย์
ฮาย Paper Planes

          เรียกว่าประสบความสำเร็จสุด ๆ จากเบื้องหลังสู่เบื้องหน้า ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ หรือ ฮาย Paper Planes ศิลปินที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ที่สร้างปรากฏการณ์ไวรัลอยู่บนโซเชียล ดังถล่มถลายขึ้นแท่นไอดอลขวัญใจวัยรุ่นฟันน้ำนม จากเพลง ทรงอย่างแบด ล่าสุด (15 มกราคม 2566) มาเปิดใจในรายการ WOODY FM ถึงกระแสความแรงตั้งตัวไม่ทัน จนทำให้ป่วยเป็นโรคแพนิก พร้อมเล่าถึงเรื่องความรักจากเพื่อนสู่แฟน
ฮาย Paper Planes

ปีที่ผ่านมาอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดคืออะไร ?

          ฮาย : ตอนที่วงมีเพลงฮิต ทุกคนคิดว่าผมน่าจะแฮปปี้ที่สุด แต่มันแลกด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างมาก็คือ มันทำให้ผมป่วยเป็นแพนิก ต้องบอกก่อนว่าผมทำงานเบื้องหลังจนค่อนข้างอยู่ตัว สามารถหาเงินได้แล้วก็มีปัจจัย 4 ที่โอเคแล้ว ตอนช่วงที่เพลงดังเหมือนกับว่าผมทำงานอยู่ที่บ้านซะจนเคยตัว รู้สึกว่ามันเป็นเซฟโซน ไม่ต้องไปเจอคนหลาย ๆ แบบ ต้องเดินทางในแบบที่เราไม่ชอบ คือผมเป็นคนกลัวเครื่องบิน และไม่ชอบอยู่ในที่ที่คนเยอะ แต่พอช่วงเพลงแรกเริ่มมา เพลงเสแสร้ง ผมต้องออกไปเจอคนค่อนข้างเยอะต้องเดินทางในแบบที่ไม่ชอบ เวลานอนค่อนข้างน้อย เลยทำให้เราอยู่ดี ๆ ป่วยเป็นแพนิก เราก็เริ่มกลัวที่แคบกลัวเครื่องบินแบบหนักขึ้นจนต้องพบแพทย์ ผมว่าอันนี้คือหนักสุดในปีที่ผ่านมา

 

เริ่มเป็นเมื่อปีที่แล้วเหรอครับ ?

          ฮาย : ใช่ครับ น่าจะประมาณช่วงเริ่มทัวร์ตอนซิงเกิลเสแสร้ง
ฮาย Paper Planes

ครั้งแรกตอนโรคแพนิกมาเป็นยังไง ?

          ฮาย : ตอนนั้นอยู่บนเครื่องบินแล้วก็ใจสั่นมาก ๆ เหงื่อไหล ชีพจรเต้นเร็ว แล้วก็ตัวสั่นครับ ตอนนั้นก็คิดว่าทำไมกลัวขนาดนั้น ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร  มันเริ่มหนักขึ้นเมื่อเราเข้าลิฟต์แล้วกลัวที่แคบมาก ๆ ก็เริ่มสังเกตตัวเองว่าใจเต้นเหงื่อออก ไปเล่นคอนเสริต์เจอคนเยอะ ๆ บางคนก็น่ารักบ้าง บางคนก็ไม่น่ารักบ้าง ก็เริ่มรู้สึกว่าจากวันที่เรายังทำงานเป็นเบื้องหลังที่อยู่ในเซฟโซน
 

          ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเริ่มเสียเซฟโซนไป รู้สึกว่าคนรอบข้างไว้ใจไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้น อันตรายอยู่รอบตัวไปหมด มีเหตุการณ์หนึ่งคือเรากำลังจะไปเล่นที่ผับหนึ่ง แล้วก็มีข่าวออกมาว่าผับนั้นไฟไหม้ เลยรู้สึกว่าทำไมเรามีเพลงฮิตออกมาเล่นแล้ว กลายเป็นว่ามีมุมที่ไม่มีความสุขเยอะเหมือนกันนะ ก็เลยคุยกับเพื่อนและไปปรึกษาคุณหมอ เขาก็ประเมินว่าเป็นโรคกลัวที่แคบและกว้างมาก ๆ ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 3-4 เดือนแล้วครับ
 

แล้วแพนิกยังมาไหมครับ ?

           ฮาย : ตอนนี้แพนิกช่วงแรก ๆ ไม่มา คุณหมอบอกว่ายามันช่วยเราได้แค่นิดเดียว นอกนั้นมันต้องเผชิญ เราต้องปรับ Mindset ของเรา ผมก็เลยเริ่ม ๆ ปรับ มาช่วงนี้ก็ดีขึ้นมากครับ ขึ้นลิฟต์ได้ ขึ้นเครื่องบินไม่ค่อยเป็นอะไรแล้ว จะมีบ้างตอนสภาพอากาศไม่ค่อยดี

มีความรักไหม ?

          ฮาย : ตอนนี้มีแฟนอยู่ครับ เป็นความรักที่ดี อยู่กันแบบเพื่อนเข้าใจกัน เพราะว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน ในตอนแรกจริง ๆ เขาไม่ชอบผมด้วยซ้ำด้วยลุคภายนอกเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยยิ้มเพราะว่ามีปัญหาชีวิตค่อนข้างเยอะในช่วงที่เราเหมือนกับว่าสร้างตัวเองครับ แล้วมันมีแต่เรื่องเครียด ๆ หน้าผมก็จะไม่ค่อยยิ้ม พอในวันที่เริ่มพร้อมทุกอย่าง ผมเป็นคนที่ยิ้มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว ซึ่งแฟนผมเขาไม่ค่อยชอบผมในตอนนั้นเหมือนขี้แอ็ค ไม่ค่อยเอาใคร แต่ว่า ณ วันหนึ่งเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงของเราทั้งเรื่องชีวิตทั้งเรื่อง Mindset ค่อย ๆ เติบโตขึ้นต่อสู่ดิ้นรน พัฒนาตัวเองเขาก็เริ่มชอบเราละลายอคติ
ฮาย Paper Planes

          ฮาย : ผมว่าเขาชอบมาก (หัวเราะ)

ตอนนี้เขาชอบคุณมากไหม ?

สิ่งที่พี่เองก็ยังตกใจเพลง ทรงอย่างแบด (Bad Boy) กลับกลายเป็นว่าเด็กร้องกันทั่วบ้านทั่วเมือง ปรากฏการณ์มันมายังไง ?

          ฮาย : ตอนแรก ๆ เริ่มจากเพลงเสแสร้งก่อนตอนนั้นเด็กเริ่มแต่งตัวตามแต่ว่าตอนนั้นมันยังไม่ชัดมาก พอมาเพลงทรงอย่างแบด เริ่มมีคลิปร้องเพลงกันออกมา ที่เห็นชัด ๆ เลยคือเป็นคลิปจากซาฟารีเวิลด์ก็คือเด็ก ๆ ร้องกันแบบดังระงม ผมหันไปคุยกับเพื่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครไปเปิดให้น้องเขาฟัง เริ่มมีคลิปแบบนี้ออกมาต่อ ๆ กันเรื่อย ๆ เริ่มไปร้องกันในโรงเรียน จนมาถึงน้องเสื้อฟ้า ๆ ที่จัดแบบมินิสเตจ แล้วนักข่าวก็เริ่มนำมาเขียนนั่นโน้นนี่ เราก็งงเพราะไม่ได้เป็นสิ่งที่เราแพลนไว้เลย ช็อกทำไรไม่ถูก ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ไงที่ค่ายก็งง จนไปเจอเด็ก ๆ ที่งานเริ่มมีคุณพ่อคุณแม่อุ้มมาดู ชีวิตผมเปลี่ยนไปแล้ว (ยิ้ม) แต่ก็สนุกมากขึ้นเพราะเราชอบเด็ก
ฮาย Paper Planes

รู้สึกว่าเราต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นไหม ?

          ฮาย : รู้สึกว่าเรานึกถึงหนังพวกซูเปอร์ฮีโร่ คือผมไม่ได้รู้สึกว่าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ แต่มันเปรียบเทียบได้ดีคือพอเมื่อเขามีพลังขึ้นมา จะมีภารกิจที่ต้องกู้โลกต่อสู้กับปีศาจ แต่ว่าในระหว่างทางนั้นพลังของเขามันมีผลเสียอยู่ อย่างเช่น การทำบ้านเมืองพัง การทำอะไรไปโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ การที่วันหนึ่งผมอยู่ ๆ มาเป็นหัวหน้าแก๊งเวลาเด็ก ๆ เขาชอบเรา บางเรื่องเด็กเขาซึมซับไปได้เร็วโดยที่เขาไม่ได้ตัดสิน หรือว่าเขาไม่ได้วิเคราะห์ อะไรที่มันสุ่มเสี่ยงหรืออธิบายไม่ได้ ณ ตอนนั้นเลยผมจะเลี่ยงก่อนแต่อะไรที่อธิบายได้ก็อธิบาย ผมว่าสุดท้ายแล้วเด็กแค่ต้องรู้ว่าอันไหนมีข้อดีหรือข้อเสีย แล้ววันหนึ่งเขาก็จะรับมันไปเอง แต่ที่สำคัญเขาต้องรู้ว่ามันมีผลยังไง เลยคิดว่าอาจจะต้องคิดเรื่องนี้กันมากขึ้น เพราะเด็ก ๆ ก็ติดตามเยอะมากขึ้น
           สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM, Facebook: Woody, YouTube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.

คลิกชมย้อนหลัง : WOODY
ฮาย Paper Planes

ฮาย Paper Planes

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฮาย Paper Planes เจอเรื่องหนักสุดในชีวิต เพลงดังแต่ไม่มีความสุข จนเป็นโรคแพนิก อัปเดตล่าสุด 16 มกราคม 2566 เวลา 14:24:08 11,064 อ่าน
TOP
x close