กลายเป็นประเด็นฮือฮาขึ้นมาทันที หลังจากที่อดีตนักแสดงสาวลูกครึ่ง เจมี่ บูเฮอร์ ออกมาโพสต์คลิปผ่านทาง TikTok เล่าสาเหตุที่เลิกเล่นละคร ทั้งที่มีหลายคนเรียกร้องให้กลับมารับงาน โดยได้แฉแบบสนั่นวงการเลยทีเดียวว่าถูกผู้ใหญ่ในวงการดิสเครดิต ใส่ร้ายให้เสียชื่อเสียง เพียงเพราะไม่พอใจที่ไปร่วมงานกับคนอื่น และยังถือสิทธิ์ว่าเป็นคนสร้างให้ เจมี่ บูเฮอร์ มีชื่อเสียง อีกทั้งยังตามทำร้ายกันถึงทุกวันนี้
อ่านข่าว : เจมี่ บูเฮอร์ แฉสนั่นวงการ !! เปิดเหตุเลิกเล่นละคร โดนผู้ใหญ่ในวงการหาว่าขายตัว ?
ล่าสุด (31 มกราคม 2566) โต๊ะหนูแหม่ม ได้มีการเชิญ เจมี่ บูเฮอร์ มาร่วมพูดคุยเปิดใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา ระบุว่า ช่วงที่หายไปจากวงการเกิน 10 ปี ตนไปทำธุรกิจ และตอนนี้ก็เป็นไลฟ์โค้ช ด้วยความที่เป็นคนชอบสนใจเรื่องของการสอนตั้งแต่อยู่ในกองถ่าย แล้วตอนนั้นก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร แต่ก็เข้าไปคุยให้คำปรึกษาในเรื่องของความรัก วันนั้นคนอาจจะมองว่าเผือก แต่วันนี้มันก็เป็นเหมือนการโค้ชคนอื่นมากกว่า
ส่วนเรื่องที่ออกมาเล่าสาเหตุเลิกเล่นละคร เจมี่ กล่าวว่า ตนพูดในพื้นที่โซเชียลตัวเอง ต้องเข้าใจว่าโลกโซเชียลกับทีวีมันสวนทางกัน อย่างทีวีต้องพูดอะไรที่มันค่อนข้างระมัดระวัง แต่พอโลกโซเชียลมันต้องเผ็ดนิดหนึ่งและต้องตรงไปตรงมา ซึ่งตนไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นไวรัลขนาดนี้ ส่วนตัวเราเป็นคนไม่ชอบดราม่าอะไรอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับคนที่ร่วมงานด้วย ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไวรัลเยอะขนาดนี้ ถ้ารู้จะแต่งตัวให้สวยเลย
สิ่งที่อยากจะสื่อในตอนนั้น มันเป็นความสงสัยที่คาใจมานาน ตนเป็นคนเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เยอะมาก เพราะก่อนหน้านั้นจะไลฟ์แล้วก็จะมีคำถามพวกนี้ออกมาเยอะมาก ซึ่งตนรู้สึกว่าไม่อยากพูด และไม่อยากจะโดนถามคำถามแบบนี้ มันเป็นคำถามที่ค่อนข้างสะเทือนใจมาก มันเป็นการทำร้ายความรู้สึกของตนอย่างรุนแรง ก็เลยตอบคอมเมนต์นั้นแค่ในโลกโซเชียลของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนถูกโยงเยอะมาก รู้สึกสงสาร หนิง ปณิตา มาก เพราะเจมี่รู้จักพี่หนิงอยู่แล้ว พี่หนิงเป็นพี่สาวที่น่ารักมาก สมัยเล่นละครพี่หนิงยังไม่ได้เป็นผู้จัดก็เป็นคนที่น่ารักมาก จึงอยากบอกทุกคนว่าอย่าไปตามหาเลย เพราะบริษัทนี้ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการแล้ว ตอนนี้คลิปนั้นถูกซ่อนเอาไว้แล้ว อยากให้มันจบไปดีกว่า
ตั้งแต่เกิดดราม่ามา เจมี่ไม่คิดว่ามันจะเป็นไวรัลขนาดนี้ พอมันเกิดเรื่องขึ้นมาแล้วตนอยู่กับเรื่องแบบนี้ ตนไม่สบายใจเลย หลายคนอาจจะคิดว่ากระแสมันมาที่ตนแล้ว น่าจะดีใจ แต่ยอมรับว่าเครียดอยู่ทุกวันจนนอนไม่หลับ มันเป็นอะไรที่มีคนได้รับผลกระทบเยอะมาก และตนก็กำลังรู้สึกเสียใจ ไม่สบายใจอยู่ จึงไปทำบุญและพยายามจะให้อภัยเขาให้เรื่องนี้มันจบไป
เมื่อถูกถามว่า บางกระแสบอกว่าเจมี่อยากกลับมาในวงการ เจมี่ ตอบว่า มันก็ต้องมีอยู่แล้วคำถามแบบนี้ ถ้าตนคิดว่าคลิปนี้จะกลับมาได้ จะตีผมฟาร่าเหมือนอย่างวันนี้ ตนก็เปิดรับงานเสมออยู่แล้ว ยินดีที่จะร่วมงานกับทุกท่าน ส่วนละครต้องดูความเหมาะสมด้วย ช่วงที่ออกไปก็เพราะว่าอยากพักผ่อน ซึ่งตนก็ไปปฏิบัติธรรมและอะไรหลาย ๆ อย่าง ได้ไปมีชีวิตอีกช่วงหนึ่งที่มันมีความหมายกับตัวเอง