หลังนางเอกสาว พิ้งค์กี้ สาวิกา ได้เฮเพราะศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดี Forex-3D โดยศาลตีราคาประกัน 5 ล้านบาท อีกทั้งศาลยังอนุญาตให้ปลดกำไล EM เพื่อสะดวกรับงานแสดง และการเดินทางนั้น
ล่าสุด (2 กุมภาพันธ์ 2566) สาวพิ้งค์กี้ ก็ประเดิมออกงานหลังถูกปล่อยตัว โดยได้เดินทางมาร่วมงานบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง กุมาร ที่ศิวาลัยสถาน สวนลุมไนท์บาร์ซา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ได้ปรากฏตัวออกสื่อครั้งแรก และคัมแบ็กกลับมารับงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ซึ่งสาวพิ้งค์กี้ก็มาในลุคสุดสวย และส่งรอยยิ้มสดใสตลอดงาน
โดย สาวพิ้งค์กี้ ยังได้เปิดใจต่อหน้าสื่อเป็นครั้งแรกว่า ความรู้สึกวันนี้ก็ไม่ตื่นเต้นมาก เรียกว่าปรับตัวมาสักระยะหนึ่งแล้ว บรรยากาศยังเหมือนเดิม สื่อมวลชนยังน่ารักเหมือนเดิม สภาพจิตใจตอนนี้ เขาเรียกว่าไปปฏิบัติธรรมมา มุมมองของพี่หน่อยคิดว่าเราไปปฏิบัติธรรม แต่ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าปฏิบัติธรรมเพราะตัวกี้ก็คือตัวกี้แหละ เรียกว่าเป็นวัฏสงสารไปเรียนรู้ชีวิต แล้วก็ได้ไปพบเจออะไรบางอย่างในประสบการณ์สุดโต่ง ส่วนการวางแผนในการใช้ชีวิตหรือการทำงานต่อจากนี้ คือวันนี้ถือว่าเป็นการรวม เราไม่ได้ออกสื่อนานมาก ตั้งแต่เราถ่ายละครยังไม่ได้มีการมานัดเจอสื่อแล้วได้มาพูดคุยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็นานมากแล้ว ถือว่าวันนี้ก็พูดทีเดียวเลยแล้วกัน พูดให้หมด
และส่วนตัวไม่ได้กดดัน เพราะว่าเราก็คือคนทำงาน ตราบใดที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเป็น ก็เชื่อว่าความจริงมันเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว ต้องบอกว่าเราคือคนที่เป็นอย่างนี้ ทำงานมาตลอด จะพูดว่าเราไม่ใช่คนที่เบียดเบียนใครเพราะฉะนั้นบางทีชะตากรรมมันก็พัดพาสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในชีวิตเรา แต่ว่ามันอยู่มุมมองของการตั้งรับว่าเราจะตั้งรับและมองมัน แล้วก็หาเหลี่ยมของมันว่าเราจะมองมันยังไงให้เป็น ซึ่งวันนี้ก็ถือว่าชีวิตเราก็เหมือนละครเรื่องหนึ่ง
สำหรับเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย ถามว่ามีกังวลอะไรไหม คือเราก็ถูกกล่าวหา แล้วเราก็สู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อเราได้ถูกกล่าวหาเราก็ต้องสู้ แล้วเราก็รอความจริงกับสิ่งที่เป็นความยุติธรรม เราเชื่อว่ามันจะรอเราอยู่ปลายอุโมงค์ เราคิดว่ามันรออยู่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องแพนิกไม่ต้องตกใจ วันหนึ่งเดี๋ยวมันจะพิสูจน์เอง และมั่นใจในเรื่องคดี เราเชื่อในความเป็นตัวเองของตัวเอง แล้วศรัทธาในตัวเอง
สำหรับประเด็นของคุณแม่ ทางทนายส่วนตัวของสาวพิ้งค์กี้เผยว่า ในส่วนของคุณแม่ ทางเราก็รวบรวมพยานหลักฐานข้อมูลเพื่อที่จะเสนอต่อศาลเพื่อขอให้ปล่อยชั่วคราว คุณแม่ก็ไม่ได้เครียดอะไร ก็เหมือนคนทั่วไปถ้าไปอยู่ในสภาวะแบบนั้นมันไม่ใช่สภาวะปกติก็คงมีบ้าง แต่ในเรื่องความเครียดก็คงไม่เท่าไหร่
ขณะที่ สาวพิงค์กี้ ก็เผยถึงคุณแม่ว่า กำลังใจคุณแม่ดีมาก ส่งพลังไปให้แม่ เพราะตัวเราต้องเดินหน้าทำงานต่อ คุณแม่ก็เซนซิทีฟโมเมนต์ของคนแก่ ส่วนเราเป็นนักสู้มากกว่า ก็จะสู้ต่อไป ขอบคุณมากกับทุกกำลังใจ คนรอบข้างก็จะบอกเรา ต้องบอกว่าพอเรามาตรงนี้ เราเสพอะไรเยอะมากไม่ได้ มันไม่สามารถตามโซเชียลได้เลย เขาไปถึงไหนกันแล้ว ก็อาจจะดีเลย์นิดหนึ่ง ถ้าเกิดพูดช้าก็จะบอกว่าเราช้ากว่าเดิม ส่วนเรื่องให้กำลังใจตัวเองนั้นก็ช้า ๆ ค่อย ๆ เป็นค่อยไป ชีวิตก็เป็นแบบนี้ มุมมองของเราเท่านั้นที่จะช่วยเราให้เราตั้งรับกับเรื่องต่าง ๆ
และเรื่องบ้าน ก็ขายไปนานมากแล้ว จริง ๆ มีหลายข่าวเลยที่ขอเคลียร์เลย คือคุณแม่กับเรื่องการพนัน คุณแม่ไม่ได้เล่น ไม่มีการเล่นการพนันใด ๆ บ้านก็คือขายไปนานมากแล้ว และบ้านนั้นก็คือบ้านที่เราซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ ขายไปนานมาก จำระยะเวลาของไทม์ไลน์ไม่ได้ อยู่กับปัจจุบัน
ส่วนเรื่องคนวิจารณ์ถามว่ารับมือยังไง ก็ห้ามไม่ได้ มันเป็นธรรมชาติ ธรรมดา ไปห้ามให้เขาผายลมไม่ได้อะ มันเหมือนเราห้ามไม่ให้คนเรอไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่เขาระบายออกมา เราก็เคารพในมุมมองของแต่ละคน มันเป็นธรรมชาติ
สาวพิ้งค์กี้ ยังเผยถึงงานในวงการบันเทิงว่า จริง ๆ คนนี้ (คุณหน่อย) เขาไม่ใช่ผู้จัดการ แต่เขาจะคุยกับน้องที่ดูแลมากกว่าเราอีก เพราะฉะนั้นเขาจะรู้ ซึ่งคุณหน่อยก็เผยว่า จริง ๆ ก็มีเยอะ แต่ต้องปรึกษาคุณปิ๊กก่อนว่างานไหนเรารับได้มากน้อยขนาดไหน จริง ๆ น้องยังอยู่ในความดูแลอยู่ ตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 15 งานแล้ว
ถามว่าคดีมีผลกับการรับงานไหม ทนายเผยว่า ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีข้อจำกัดในการรับงานอะไร แต่อย่างที่พิ้งค์กี้บอก เราก็คุยกันเป็นระยะ อาจจะเพื่อความมั่นใจ ความสบายใจ ก็ปรึกษามา แต่ถามว่าเป็นอุปสรรคไหม แม้แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร เพราะศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาหรือตัดสิน ถ้าตามหลักกฎหมายสากลคือยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ส่วนในเรื่องที่จะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ก็เป็นเรื่องกระบวนการในศาล เป็นเรื่องหลักฐานกันต่อไป
และสำหรับผู้เสียหาย และส่วนของคุณพิ้งค์กี้ก็เป็นผู้ต้องหาและเป็นจำเลยที่ถูกฟ้อง แต่ทีนี้ก็อยากจะให้รอดูข้อเท็จจริง คือตรงนี้ถ้าเราจะพูดไปก่อนมันก็คงจะไม่เหมาะ หรือคงจะไปสะเทือนในเรื่องของการพิจารณาคดีของศาล ก็อยากให้ใช้วิจารณญาณในการรับฟัง หรือพิจารณาดูนิดหนึ่งว่ามีความเกี่ยวข้องแค่ไหน ยังไง
และประเด็นที่หลายคนพูดถึงก็เรื่อง กำไล EM ทนายก็เผยว่า อย่างที่บอกว่าบางทีข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อน ก็ขอความกรุณาศาล เพราะเราติดเรื่องของการจะมาถ่ายทำภาพยนตร์ แต่ว่าข้อมูลทางสื่อบางท่านอาจจะได้ไปคลาดเคลื่อนหรือไม่ครบถ้วนเดี๋ยวพอเสร็จแล้วก็กลับไป เราขอศาลไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ เพราะว่าโดยลักษณะตามกฎหรือตามอะไรต่าง ๆ มันไม่สามารถให้ปรากฏตัวกำไลได้ ระยะเวลาที่ถูกปล่อยตัวตรงนี้อยู่ที่เหตุผลความจำเป็นของแต่ละกรณีและสุดท้ายก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล
ด้านสาวพิ้งค์กี้ ก็เผยเพิ่มเติมว่า เป็นปกติเลย ถามว่าถอดเฉพาะเวลาที่ถ่ายงานไหม คือเดี๋ยวกลับไปใหม่ ไม่ต้องกังวล ขณะที่ คุณหน่อย ก็เผยด้วยว่า จนกว่าจะถ่ายทำภาพยนตร์กุมารเสร็จก็ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน