กลายเป็นข่าวฮือฮาเลยทีเดียว หลังมีการเผยภาพในปัจจุบันของ อาทิตย์ ริว อดีตซุปตาร์สุดหล่อแห่งยุค 90 ที่เคยฝากผลงานไว้มากมายและโด่งดังเป็นพลุแตก แต่วันหนึ่งกลับดับวูบออกจากวงการเพราะมีเมียมีลูก ถูกมองว่าเป็นบ้า หันหลังให้วงการไป 15 ปี จนตอนนี้เจ้าตัวดูเปลี่ยนไปจนเกือบจำไม่ได้ เพราะเจอมรสุมชีวิตจนถึงขั้นเป็นคนไร้บ้าน
ล่าสุด (7 กุมภาพันธ์ 2566) บอย วันบันเทิง ก็ได้พา อาทิตย์ ริว มาเปิดใจในรายการ one Exclusive ทางช่อง one31 ซึ่ง อาทิตย์ ริว ก็เผยว่าได้มาออกรายวันนี้ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ดีใจที่มาเจอ ก่อนจะโดนยิ่งคำถามแรงว่า จากโด่งดังมาก ๆ แต่ต้องออกจากวงการเพราะมีลูก-เมีย
อาทิตย์ ริว ก็เล่าว่า ในยุคนั้น ยุค 90 ดาราศิลปินที่มีชื่อเสียงเขาจะไม่เปิดเผยตัวเองว่าเขามีอะไรอยู่ข้างหลัง เพราะฉะนั้นข่าวของแต่ละคนที่ออกมาแพลม ๆ บ้าง แล้วสื่อจับจ้องเอาไปเขียนขยายความก็กระทบต่อชื่อเสียงของคนคนนั้น ใครมีแฟนในยุคนั้นทำไม่ได้ ออกไปไหนก็ทำอะไรไม่ได้ เปิดเผยเรื่องนี้ก็ไม่ได้ มีแฟนก็ไม่ได้ แฟนคลับเขารู้สึกหวง พี่ริวอย่ามีแฟนนะ เขามีความรู้สึกว่าเขารักของเขา ในยุคนั้นผมก็เข้าใจแหละว่ายิ่งเราเล่นละครแนวนี้ แล้วยิ่งเป็นพระเอกเขาก็ดูนะ คนดูเขาก็ดูพระเอกกับนางเอก มีตัวร้าย แต่เราก็ต้องเป็นคนดีในเรื่อง ใคร ๆ ก็ชอบคนดีถูกไหม
อาทิตย์ ริว : มันเศร้ามาก เราอยากพาลูกเที่ยว เขาเป็นเด็กเราอยากพาเขาไปเที่ยว ไปดูโน้นนี่ พาไปเดินห้าง แต่เราพาไปไม่ได้ เขาไปก็ต้องไปกับแม่หรือใครก็ได้ที่ไม่ใช่เรา เพราะเรากลัวเป็นข่าว มีความรู้สึกกดดันมาก มีอยู่วันหนึ่งลูกเดินมา "ป๊า ๆ ไปทำอะไรในห้าง หนูเห็นรูปป๊าอยู่ที่ร้านเทป เป็นรูปป๊าเลย จำได้ป๊าหล่อ แล้วป๊าทำไมไปอยู่ในทีวี" คือลูกไม่รู้ว่าเราอาชีพอะไร เป็นดาราอยู่ในทีวี
ตอนนั้นผมปลีกตัวเข้าห้องน้ำเลย ร้องไห้ ทำไมเปิดเผยไม่ได้ ทำไม กูอยากพาลูกเที่ยว ลูกอยากเที่ยวกับกู ทำไมทำไม่ได้ (น้ำตาคลอ) ก็ไม่ไหวแล้ว สงสารลูก อยากพาลูกเดินห้าง ทำไงดี ถ้าอาร์เอสรู้ว่ามีลูกตายแน่เลย ละครกำลังพีคเลยตอนนั้น วัยร้ายเฟรชชี่ ภาค 2 จะปิดกล้องแล้ว ไม่อยากเล่นแล้วละคร อยากเลิกเล่นแล้ว ตอนนั้นเรตติ้งดีทำให้ถ่ายลากไปหลายตอน ไม่จบสักที มันยืดแล้วยืดอีก
คือผมถามเฮียเลยว่าเขียนบทให้ผมตายเลยได้ไหม เฮียเขาก็ถามทำไมล่ะ เป็นพระเอกดี ๆ ไม่ชอบ เราก็บอกว่า ผมไม่อยากเล่นแล้ว ไม่อยากเล่นภาคต่อ ๆ ไป และไม่อยากเล่นอะไรอีกแล้ว ผมเบื่อกับคำว่า "อาทิตย์ ริว" แล้ว ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ไม่กล้าพูดเรื่องลูก จนวันปิดกล้องมีงานเลี้ยง ผมก็ตัดสินใจเลยว่าต้องบอกเฮียแล้ว เราก็ขอโทษเฮียแล้วบอกว่าผมมีลูกแล้ว
บรรยากาศวันนั้นเฮียเขานิ่ง ก็บอกว่ามันจบแล้วริว ไม่ต้องเล่นแล้วละคร เราบอกว่า เรายังมีบ้านต้องผ่อน มีลูกต้องเลี้ยง เขาก็บอกว่ามันจบแล้ว ไม่ต้องพูด ก็เลยวางแก้วลงแล้วก้มกราบลาเฮีย แล้วขับรถออกจากงานเลี้ยง ตอนนั้นก็ร้องไห้ตลอดทางเลย เสียใจมาก รู้สึกว่าบางครั้งความจริงไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นเลย มาคิดว่าหรือชีวิตต้องอยู่ในโลกมายา
อาทิตย์ ริว : เพราะตอนนั้นก็คิดว่าเราเป็นอะไรก็ไม่ได้
ตอนนั้นแต่งงาน 2 ครั้ง มีลูก 3 คน แต่สิ่งหนึ่งที่ยังรู้สึกถึงตอนนี้คือการไม่ได้ทำหน้าที่พ่อและไม่ได้เจอลูกเลย ?
อาทิตย์ ริว : อยากจะบอกว่ามันอาจจะไม่ใช่การกีดกัน แต่มันมีความรู้สึกว่าริวก็ไปใช้ชีวิตของริวเถอะ ทางนี้ไม่ต้องห่วง ทางนี้ดูแลได้ ทางนี้โอเค แต่ริวอย่ามายุ่ง นั่นคือความเจ็บปวดของผมที่ผมไม่ได้อยู่กับลูก แล้วผมเป็นคนที่รักลูกมาก (ร้องไห้) ผมไม่อยากร้องไห้ ผมไม่ได้เจอลูกนานมาก ทุกครั้งพอพูดเรื่องลูกก็ (นิ่ง ร้องไห้) ผมได้แค่ส่องชีวิตเขาจากโซเชียล ได้แค่ดูอย่างนี้ มันทรมานมาก
ลูกชายคนเล็ก ผมไปเจอเขาตอนน้ำท่วม เขาอยู่ที่พัทยา ผมเป็นห่วงเขา ผมก็รีบขึ้นมาจากใต้ ตอนนั้นผมก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ด้วย ร่างกายก็ยังไม่ดีมาก แต่ห่วงลูกก็ตีรถขึ้นมาจากใต้ ผมก็ไปเจอลูก เขาก็ไม่เคยอยู่กับผมเลย ไม่เคยเจอด้วย ครั้งแรกในการเจอผมเขาอยากให้ผมป้อนข้าว ทั้ง ๆ ที่ปกติเขาจะกินเองเพราะโตแล้ว แต่เขาไม่ยอมกิน เพราะเขาอยากให้ผมป้อน (ร้องไห้) ผมไม่ได้ดูลูกเลย เขาต้องการสิ่งเหล่านี้จากผม ผมก็ป้อนไปร้องไห้ไป