คุณหญิงแมงมุม : นี่เป็นรายการแรกนะที่แมงมุมมาออก
ทำไมถึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ครับพี่ดอลล่าร์ ?
คุณหญิงแมงมุม : เราชอบเชียงใหม่อยู่แล้ว
เสธ.ดอลล่าร์ : เราชอบเชียงใหม่อยู่แล้ว แต่ว่าคือแมงมุมอยู่โรงพยาบาลมาหลายปีแล้วไงจ๊ะ ตั้งแต่ปี 2561 ที่เริ่มป่วย แล้วก็อยู่ยาวจริง ๆ ก็ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน 99% อยู่โรงพยาบาล เราก็เลยคิดว่าอยากให้เขาลองไปอยู่นอกโรงพยาบาล แล้วถ้ามีปัญหาค่อยไปหาหมอ ค่อยกลับไปฟอกไต เหมาะสมที่สุดก็คือเชียงใหม่ เพราะเขาชอบ ด้วยอากาศ อาหาร ธรรมชาติ อยู่ที่โรงพยาบาลมา 2 ปีกว่า พอมาอยู่ที่นี่หมอทางกรุงเทพฯ ก็ช่วยประสานหมอทางเชียงใหม่ แล้วก็ไปโรงพยาบาลในเมืองเพื่อไปฟอกไตอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ในเคสของแมงมุมไตมันพังก็ต้องเปลี่ยนทำ Transplant ปลูกถ่ายไต ซึ่งเราต้องรอการบริจาคจากสภากาชาด ในขณะรอการเปลี่ยนไตก็ต้องฟอกไต
เรารอมานานหรือยังครับพี่ดอลล่าร์ ?
เสธ.ดอลล่าร์ : 2 ปีแล้วครับ
ล่าสุดพี่ไปทำอะไรที่กรุงเทพฯ ครับ ?
เสธ.ดอลล่าร์ : คือตอนนั้นอาการไม่ดีก็มีการติดเชื้อ เพราะว่าเขาเป็นโรค SLE กินยากดภูมิเยอะมาก เพราะฉะนั้นการมีโอกาสติดเชื้อมันมีอยู่ตลอดเวลา แล้วมันอันตราย เขาเป็นตับอ่อนอักเสบเนื่องจากโรคของเขา ก็ปวดท้องมาก เข้าโรงพยาบาลที่เชียงใหม่ อยู่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่ 4-5 วันอาการไม่ดี เกล็ดเลือดก็ต่ำลงมาก พี่เลยพากลับกรุงเทพฯ เพื่อไปหาหมอทีมที่รักษามา 2 ปีกว่าแล้ว
ภาพที่ผมจำแมงมุมได้เลยก็คือเขามีความสุขในการทำละคร คิดถึงอะไรมากที่สุดเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ ?
คุณหญิงแมงมุม : มาก ทุกอย่างเลย แมงมุมสนุกกับการทำงาน มันสนุกเหมือนได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในสมองค่ะ จินตนาการเรา ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย
แมงมุมทำหลายอย่างมาก เริ่มตั้งแต่วัยรุ่นแล้วเขาก็มีความคิดสร้างสรรค์มาก ชอบออกแบบ ชอบดีไซน์ ทุกวันนี้ยังมีโอกาสใช้ความคิดสร้างสรรค์ไหม ?
คุณหญิงแมงมุม : กำลังจะมีโอกาสถ่ายมิวสิกวิดีโอ กำกับมิวสิกวิดีโอ เป็นรุ่นพี่วง The Keylookz เราก็มีโอกาสได้ฟังงานของเขาแล้ว แล้วก็สนิทกัน แล้วแมงมุมก็ชอบเพลงนี้มาก เขาบอกเราว่าถ่าย MV ให้หน่อยสิ แมงมุมก็บอกว่ามองไม่เห็นจะถ่ายได้ยังไง พี่ดอลล่าร์ก็ให้เราอธิบายในสิ่งที่อยู่ในสมองเราให้ DOP (ผู้กำกับภาพ) ก็เขาเคยทำงานกับแมงมุมแล้ว ก็เข้าใจกันง่ายค่ะ พี่ดอลล่าร์ก็จะเป็นตาของแมงมุม
จริง ๆ พี่ดอลล่าร์หางานให้เขากำกับก็ได้ แล้วเขาก็ถ่ายทอดให้พี่ เพราะพี่ดอลล่าร์ก็คุ้นชินกับรสนิยมของแมงมุมแล้ว ?
เสธ.ดอลล่าร์ : ได้ พี่ก็คิดว่าได้ในระดับหนึ่ง
คุณหญิงแมงมุม : ชินมาก ช้อปปิ้งให้ทุกอย่าง เลือกเสื้อผ้าให้หมด
คุณรู้ไหมว่าแฟชั่นของคุณใน Instagram เป็นยังไง เปรี้ยวที่สุด ?
คุณหญิงแมงมุม : ไม่รู้ค่ะ
เสธ.ดอลล่าร์ : พี่ก็อธิบายให้เขาฟังนะ
มันสุดมาก คือทุกคนที่ดู Instagram เขาไม่ได้มองว่าคุณนั่งรถเข็นนะ เขามองแฟชั่น เวลาซื้อของพี่ดอลล่าร์จะบอกแมงมุมไหม ?
คุณหญิงแมงมุม : บอกค่ะ ให้จับ บอกสี บอกสไตล์
เสธ.ดอลล่าร์ : เขาก็จะถามทุกขั้นตอน เราต้องอธิบายทุกอย่างให้เขาฟังตั้งแต่ตอนจะเลือก เอามาแล้วก็อธิบายให้เขาฟัง ใส่แล้วก็อธิบายให้เขาฟัง
คุณหญิงแมงมุม : ว่าแมตช์กับอะไรค่ะ อย่างวันนี้แว่นตาพี่ดอลล่าร์เลือก
แมงมุมรู้ตัวไหมว่าคุณเดินทางเยอะมาก ?
คุณหญิงแมงมุม : ก็ไม่ได้ไปไหนนะ ส่วนใหญ่ที่ออกไปก็เป็นงานแต่งงานเพื่อนสนิท พอดีแต่งกันรวดเดียวเลย 3 คน ก็เลยดูว่าออกไปเยอะ แต่จริง ๆ แล้วอยู่โรงพยาบาลส่วนใหญ่
มันเป็นความสุขที่สุดไหมแมงมุมเรื่องการแต่งตัว ?
คุณหญิงแมงมุม : จริง ๆ แล้วทำงานมีความสุขที่สุด แมงมุมถึงยังมีอีกโปรเจกต์หนึ่ง ทำน้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มไก่หวานนะคะ ใช้ชื่อไก่ย่างเสือใหญ่ ขายตามฟู้ดแลนด์และซูเปอร์มาร์เกตต่าง ๆ
ได้มีโอกาสดู Wedding วิดีโอของทั้งคู่เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว พี่ดอลล่าร์จำได้ไหมในงานแต่งพี่พูดว่าอะไรเกี่ยวกับแมงมุม ?
เสธ.ดอลล่าร์ : จำได้ว่าเราพูดว่าจะดูแลเขาจนตาย
แล้วสิ่งที่ผ่านมาที่ทุกคนเห็นพี่ดูแลได้อย่างใช้คำว่าเยี่ยมยอดมาก เหมือนทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน ทุกวันนี้พี่ดอลล่าร์ตื่นมานึกถึงแต่แมงมุมเลยใช่ไหม ?
เสธ.ดอลล่าร์ : นึกถึงเขาเป็นอันดับ 1 จ้ะ แต่พี่ก็มีสิ่งอื่น ๆ ที่ต้องนึกถึงด้วย พี่ยังต้องทำงานอยู่ แต่แมงมุมก็มาเป็นอันดับ 1 สำหรับพี่
แบ่งเวลายังไงครับ ?
เสธ.ดอลล่าร์ : ยากเหมือนกันนะ แต่ทำได้ เรามีแค่ 24 ชั่วโมง เราก็อยู่กับเขาทั้งวันทั้งคืน แต่พี่ก็ทำได้ โดยที่มีทีมที่ค่อนข้างแข็งแรงช่วยบริหารงานไปด้วย แล้วก็เอาเวลาไปดูแมงมุม
หลายคนอาจไม่เคยทราบมาว่าแมงมุมเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ขณะที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล โดยหัวใจหยุดเต้นไปนาน 12 นาที ?
คุณหญิงแมงมุม : แมงมุมหัวใจวายไป 12 นาที
เมื่อไหร่ครับ ?
เสธ.ดอลล่าร์ : วันที่ 18 พฤศจิกายน เขาหัวใจวายไป 12 นาที ในโรงพยาบาลขณะฟอกไต แล้ววันนั้นเป็นความซวยที่พี่ไม่เคยไปไหนเลย แต่วันนั้นพี่ต้องไปธนาคาร คือเช้านั้นแมงมุมรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว หายใจไม่ค่อยออก พี่ก็เริ่มเตือนหมอบอกว่าให้มาดูหน่อยอาการไม่ค่อยดี หมอเขาก็โทร. สั่งว่าให้เปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจให้เป็นแบบ High Flow พี่ก็ดูสัญญาณชีพทั้งหมดเริ่มดีขึ้น พี่บอกแป๊บเดียวนะ เพราะพี่นัดธนาคารไว้ ขอครึ่งชั่วโมง พอทำธุรกรรมเสร็จก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่า แมงมุมหัวใจวาย หัวใจหยุดเต้น พี่ก็วิ่งขึ้นรถ ระหว่างทางจากสยามสแควร์กลับมาถึงโรงพยาบาลใช้เวลา 10 กว่านาที ขณะนั้นพี่โทร. กลับมา 3 ครั้ง จำได้ว่าครั้งแรกก็ 3 นาทีไม่มีชีพจร 6 นาทีไม่มีชีพจร 10 นาทียังไม่ถึง ก็ยังไม่มีชีพจร พี่ทำใจแล้ว มันเป็นไปไม่ได้แล้ว
พอถึงโรงพยาบาลนาทีที่ 11 เขาโทร. เข้ามาบอกชีพจรมาแล้ว พี่เหมือนถูกลอตเตอรี่ เขาโทร. มานาทีที่ 12 กว่าว่าหัวใจมาแล้ว พี่ก็วิ่งขึ้นไปถึงเขาประมาณนาทีที่ 13 กว่า โชคดีมาก ๆ ที่ หนึ่ง อยู่โรงพยาบาล หัวใจวายที่โรงพยาบาล เพราะฉะนั้นเครื่องไม้เครื่องมือมีพร้อม โชคดีข้อที่สอง คุณหมอที่ดูแลแมงมุมเมื่อเขาได้รับโทรศัพท์ว่าท่าทางไม่ดีแล้ว เขาก็กด Cord ในศัพท์ของโรงพยาบาลหมายความว่า Cord 3 หมายความว่าทุกคนต้องมารุมที่คนไข้คนนี้ ทุกคนก็วิ่งเข้ามารุมเตรียมเครื่องปั๊มหัวใจไว้ก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้น สิ่งที่สำคัญคือว่าปกติถ้าคนหัวใจวายเกิน 4 นาที สมองต้องตายละ ถึงจะฟื้นขึ้นมาก็เป็นผัก แต่เนื่องจากว่าเราอยู่ที่โรงพยาบาล นางพยาบาลก็ช่วยปั๊มหัวใจตั้งแต่วินาทีแรกที่หัวใจหยุดเต้น ทำให้ออกซิเจนขึ้นไปเลี้ยงสมองตลอดเวลา ก็เลยไม่มีความเสียหายถาวรกับสมอง
ตอนที่เกิดหัวใจวาย เล่าให้พี่วู้ดดี้ฟังหน่อยว่าตอนที่ไปเป็นยังไง แล้วตอนที่กลับมาเป็นยังไง ?
คุณหญิงแมงมุม : ตอนที่ไปไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ตื่นมาก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกัน มันเหมือนหลับมากกว่า ก็ยังบอกพี่ดอลล่าร์ว่าที่เขาบอกว่าเห็นแสงขาวเห็นอะไรยังงี้โกหกหมดเลย เราไม่เห็นอะไรสักอย่าง
เสธ.ดอลล่าร์ : คือเขาโคม่าไป 2 วัน เราก็อยู่ในความทุกข์มากไม่รู้ว่าเขาจะตื่นไหม ถ้าตื่นแล้วเขาจะเป็นยังไง ไม่มีใครตอบได้ หมอก็ตอบไม่ได้
คิดไหมว่าตอนนั้นเราจะสูญเสียภรรยา ?
เสธ.ดอลล่าร์ : คิด แต่พี่ก็ยังมีความหวังอยู่ เพราะเขาสู้
แมงมุมเอากำลังใจมาจากไหน เล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ ?
คุณหญิงแมงมุม : กำลังใจมาจากพี่ดอลล่าร์เยอะมาก ๆ จากครอบครัวเยอะมาก ๆ เพื่อน คือแมงมุมโชคดีที่คนรอบข้างสนับสนุน แล้วก็ทำให้แมงมุมรู้สึกอบอุ่น และก็ให้กำลังใจตลอดมา
หลายคนกลัวเรื่องการจากลา พี่ดอลล่าร์และแมงมุมกลัวไหม ?
เสธ.ดอลล่าร์ : ไม่กลัว พี่ว่ามันธรรมชาติ วันหนึ่งก็ต้องไป ในระหว่างที่เรายังมีชีวิตอยู่พี่คิดว่าเราควรที่จะซาบซึ้งหรือให้คุณค่าสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในแต่ละวัน แล้วก็ทำวันนั้นให้ดีที่สุด โดยที่ไม่ให้ใครคนอื่นเดือดร้อนนะจ๊ะ
คุณหญิงแมงมุม : ไม่ค่ะ แมงมุมคิดว่าใช้ชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว ตอนวัยรุ่นก็เที่ยวแบบสุด ตอนทำงานก็ทำอย่างสุดเหมือนกัน ทุกอย่างเหมือนเราผ่านมาอย่างแฮปปี้ ก็ไม่เสียดาย
แมงมุม พี่กำลังหยิบนาฬิกาสีทองที่มีคำว่า PDR แล้วทำไมพี่ดอลล่าร์ถึงสลักข้อความนี้ และนาฬิกานี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?
เสธ.ดอลล่าร์ : PDR คือ พัชร ดอลล่าร์ รัตตกุล พี่ชอบใช้นาฬิกาแบบนี้ เป็นนาฬิกาของพี่อยู่แล้ว แต่วันที่แมงมุมเขาหัวใจวายอยู่ในโคม่า พี่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะฟื้นไหม กลับมาเป็นยังไง มันว้าเหว่มาก พี่ไม่รู้จะทำยังไง ก็นั่งคอยอยู่ ICU 3-4 วัน พี่ก็เลยให้ลูกน้องไปสลักให้พี่ มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจว่า พี่เชื่อว่าเขาต้องกลับมาด้วยกำลังใจกำลังกาย แล้วก็รอยยิ้มที่พี่เคยเห็น ลูกน้องก็ไปทำมาแล้วก็เอากลับมาให้พี่
บอกเขาไหม ?
เสธ.ดอลล่าร์ : ไม่ได้บอก
คุณหญิงแมงมุม : แมงมุมไม่รู้เรื่องเลย สลักตรงไหนคะ
เสธ.ดอลล่าร์ : นาฬิกาที่พี่ชอบ สลักข้อความตรงด้านหลังว่า Waiting For When your come back with strangth and smile again (รอคอยที่เธอจะกลับมา พร้อมกับกำลังใจและยิ้มอีกครั้งหนึ่ง) เขาต้องกลับมาเดินได้ พี่มีความเชื่อมั่นนะ พี่เชื่อว่าภายในปีนึงเขาต้องเดินได้