มีกระแสข่าวรูปร่างเปลี่ยนไป ?
จิลล์ : ถ้าทางโซเชียลทุกคนน่ารักมาก มีแค่ส่วนเล็กน้อยมาก ๆ ตอนที่เราลงรูป เรารับได้แล้ว เราพร้อมที่จะออกมาพูดว่าเราเปลี่ยนไป เราอ้วนจริง เราไม่ได้ดูแลตัวเองจริง ๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการป่วย คอมเมนต์เล็ก ๆ ที่รับไม่ได้เกี่ยวกับคนที่รู้จักกันแล้วปฏิบัติกับเราแปลก ๆ มากกว่า เรารู้จักคนคนนี้มานานมาก ตอนผอมเขาคุยดี คุยง่าย แต่พอเปลี่ยนไปเริ่มคุยยาก ไม่อยากคุย มองเราอีกแบบหนึ่ง
เลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องอะไร ?
จิลล์ : เรื่องงานค่ะ เขาบอกต้องดูแลตัวเองนะ คำนี้มันทำให้รู้สาเหตุที่เขาเปลี่ยนไป เรื่องรูปลักษณ์ร่างกายของเรา
นอยด์ไหม ?
จิลล์ : ช่วงแรก ๆ นอยด์ค่ะ ไม่ออกไปเจอใครเลย ไม่ค่อยได้โทร. คุย หรือนัดสังสรรค์ จิลล์หายไปเลย เรากังวลและกลัวนิดหนึ่ง เพราะถ้าเราไปนั่งตรงนั้น เขาจะถามอัปเดตชีวิตเราแน่นอน เพราะอะไร ทำไม แล้วเราต้องนั่งตอบคำถามนั้น ทั้งที่เรายังไม่พร้อม
คำถามไหนที่ไม่อยากฟัง ?
จิลล์ : อ้วนแล้ว ไม่สวยแล้ว ใครจะเอาไปทำอะไร เราก็รู้สึก แต่ถ้ามันเป็นคาแรกเตอร์ที่ได้ เราก็พร้อมจะรับนะคะ เรารู้สึกว่าไม่เข้าใจเราเลยจริง ๆ เหรอ เราเปลี่ยนไป เพราะเราไม่ดูแลตัวเอง ยอมรับค่ะ แต่เราก็ยังอยากได้กำลังใจ
ตอนนี้โอเคแล้ว ?
จิลล์ : โอเคแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่ติดอะไรเลย อันล็อกตัวเองช่วงหลังโควิด ตอนแรกมันกลัว มันกังวลไปหมดทุกอย่าง ถ้ายังเป็นแบบนี้ เราจะเดินหน้าไม่ได้ อยู่ ๆ ก็คิดว่าพอแล้วแค่นี้ อะไรจะเกิดก็มา พร้อมรับมือ แล้วก็เปลี่ยนเลย
น้ำหนักเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบอะไรบ้าง ?
จิลล์ : เรื่องงานละครอย่างแรกเลย พูดง่าย ๆ ถ้าไม่ผอมไม่มีใครจ้างแน่นอน อันนี้เข้าใจเลยค่ะ เรื่องที่ 2 คือยังไงดี เราควรไปหาหมอจริงจังไหม ยังรู้สึกว่าไม่พร้อมอีก
เลิกดูแลตัวเองเพราะเป็นแพนิก ?
จิลล์ : เป็นเมื่อนานมาแล้ว ตอนไปนั่งเครื่องบิน แล้วเครื่องตกหลุมอากาศ วันนั้นสำหรับจิลล์มันรุนแรง ตอนนั้นเหงื่อแตก กังวลที่สุดในชีวิต เรายังไม่รู้ตอนนั้นคืออาการแพนิก หอบ ๆ ตัวชา หันมาบอกเพื่อน ไม่ไหวแล้ว ก็ค่อย ๆ พูดให้เราเคลียร์ หลังจากนั้นเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นอีก แต่ต่างเหตุการณ์ออกไป
กลัวขวดน้ำปลา ?
จิลล์ : มันเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้แพนิกเกิดขึ้น เราอาจจะไปนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เรารู้จักพี่หมอเจี๊ยบก็ปรึกษา เขาบอกให้ไปหาหมอเลย จิลล์เป็นแพนิก เราเป็นคนใจกล้า ไม่ค่อยกลัวอะไร แต่เป็นแบบนี้ได้ เราไม่ได้ไปรักษา เลือกฮีลตัวเอง อาการแพนิกมันเริ่มจากตอนที่จิลล์จะลงวงการ ไม่ได้จะลงวงการ แต่มันไม่มีงานมากกว่า เราโดนเปลี่ยนตัว ทำให้เรารู้สึกว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า หรือเพราะเราอ้วนขึ้นหรือเปล่า
แพนิกส่งผลให้น้ำหนักสวิง ?
จิลล์ : พอรู้ตัวว่าเป็นแพนิกเราไม่อยากทำอะไร เรากลัวจะแพนิกอีก จากเหตุการณ์ต่าง ๆ มันทำให้จิลล์เหมือนสติหลุดเราเลยฮีลตัวเองด้วยการกิน กินไม่ยั้งเลย เอนจอยมาก หลังจากกินก็รู้สึกผิด ตอนนี้อาการแพนิกเราอยู่กับมันได้ ไม่ได้หายสนิท ตั้งแต่ช่วงโควิด จิลล์รู้สึกว่าช่วงโควิดน่ากลัวกว่าแพนิกอีก ตั้งแต่นั้นจิลล์ไม่ป่วยอีกเลย
โดนถอดละคร คิดไหมว่าหมดยุคเรา ?
จิลล์ : คิดอย่างนั้นนะคะ เพราะเราอายุก็มากขึ้น มากกว่าทุกคนที่เราแสดงด้วยกัน คิดว่าให้โอกาสเด็กใหม่แล้วกัน ไม่เป็นไร ปลอบใจตัวเอง แต่ในใจก็นึกเสียใจอยู่ แต่ปลอบใจตัวเองเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ทำให้เบื่อเล่นละคร ?
จิลล์ : ใช่ค่ะ ถอนตัวออกมาเลย พอดีละครติดต่อมา บอกว่าจิลล์ไม่เหมือนเดิมแล้วนะ จิลล์อ้วนขึ้น พี่ไหวเหรอ กลายเป็นว่าเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง
เลยไปทำเบื้องหลัง แล้วโดนดุ ?
จิลล์ : อยู่เบื้องหลังไม่ได้โดนดุมากขนาดนั้น เบื้องหน้าอะโดนด่า เบื้องหลังโดนดุ มันต่างกันค่ะ 2 แบบ เบื้องหลังมีความสุขมากกว่า ได้ผ่อนคลายสมองในเรื่องการแสดง เหมือนได้พัก
เคยโดนเทงาน ต้องควักเงินจ่ายเอง ?
จิลล์ : เรารับงานมาอยู่เบื้องหลังทำโปรดักชั่นเฮ้าส์ มีการคุยกันก่อนจะเซ็นสัญญา วันหนึ่งเขาเทตอนที่เริ่มงานไปแล้ว ชดใช้ไม่ได้เยอะมาก แต่ที่มันหมดตัว เพราะเราหวังว่าเงินก้อนนี้จะใช้ในการทำงานต่อไปมากกว่า มันไม่มีตรงนี้ซัพพอร์ต ก็เลยต้องบากหน้ายืม เราโดนมาหลายงานที่เป็นแบบนี้ เราก็กัดฟัน คนรอบข้างปลอบใจ เราไม่อยากทำให้คนอื่นเป็นห่วง เราเลยโอเคไปต่อ
หยิบยืมคนรอบข้าง ?
จิลล์ : หลักแสนค่ะ ยืมพี่ ๆ รอบตัวเลย ยืมจนอายเลยค่ะ มันต้องบากหน้าจริง ๆ จิลล์ไม่เคยขอความช่วยเหลือใครเลย จนมันถึงที่สุด
น้อยใจโชคชะตา ?
จิลล์ : กลายเป็นจิลล์มาคิดว่าหรือเป็นเพราะตัวเราเองทำตัวไม่ดีหรือเปล่า เราเล่นละครไม่ดีจนผู้ใหญ่ไม่ป้อนงานหรือเปล่า ได้แต่คิดในใจไม่อยากโทษคนอื่น จะโทษโชคชะตาอย่างเดียว ก็คิดว่ามันไม่แฟร์
มีคนขอนอนด้วย เสนอเงินให้ ?
จิลล์ : อันนี้ตลกมาก แต่ตอนแรกที่เจอไม่ตลกนะคะ มีอะไรแบบนี้เกิดกับเราได้ยังไง มีคนมาถามซื้อกางเกงใน ชุดชั้นใน ขอร่วมหลับนอน โดยใช้คำพูดว่าขึ้นงาน เสนอเงินให้หลักแสนกว่าถึงสองแสน 1 อาทิตย์ขอเจอ 3 ครั้ง เดี๋ยวเมียดุ ครั้งแรกก็ไม่ได้คุย พอมาแบบเดิมอีกรู้สึกมันเป็นแพตเทิร์น รุ่นพี่เราก็โดน เราก็คุย ทำไมทำแบบนี้ ชีวิตพี่ไม่มีคนรักเหรอ จนเขาทนคุยไม่ไหว เขาก็ส่งของลับมาให้จิลล์รัว ๆ เราก็รับรู้ว่าโรคจิต
เคยได้ยินเสียงปริศนา ?
จิลล์ : ทำงานถ่ายละครกลับไปแล้วเหนื่อยมาก จนไม่อาบน้ำทิ้งตัวลงนอนเลย กำลังจะหลับได้ยินเสียงคิกคักอยู่นอกห้อง เราคิดว่าน่าจะเป็นข้างห้อง แต่ได้ยินเสียงอีก ดังขึ้นกว่าเดิม สักพักมีเสียงร้องเพลงหนูมาลีมีลูกแมวเหมียว เสียงเด็กผู้หญิง เราก็คิดว่าเดี๋ยวพ่อแม่เขาคงเอาลูกเขาไปเข้านอนแหละ แล้วสักพักมาพูดข้างหูว่า "หนูรู้นะว่าพี่ได้ยิน" เราก็ลุกขึ้นมาเปิดไฟทั้งห้องเลย ไปส่องตาแมวที่ประตูไม่เห็นใครเลย เราก็ข่มใจนอน เปิดไฟทั้งห้องเลย
ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.15 - 14.15 น. ทางช่อง ONE31 หรือ Facebook Page : คุยแซ่บShow และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama