แม้ว่าความรักตอนนี้ของ หนิง ปณิตา จะสั่นคลอน แต่เธอก็ยังประคองมาได้เรื่อย ๆ และบอกว่า กำลังอยู่ในช่วงแก้ไขความสัมพันธ์กับ จิน จรินทร์ ธรมมวัฒนะ สามี ซึ่งล่าสุด 30 มีนาคม 2566 หนิง ปณิตา ได้ออกมาพูดเรื่องดังกล่าวในรายการ แฉ
ทั้งนี้ หนิง ปณิตา ยืนยันถึงความรักกับจิน จรินทร์ ว่า คำตอบนี้ก็ยังเป็นคำตอบเดิมเหมือนกับวันที่ตนไปออกอีเวนต์วันนั้น คือเรายังเป็นครอบครัวเดียวกัน และยังอยู่บ้านเดียวกัน อย่าไปเสพติดภาพในโซเชียล ที่ลงภาพดี ๆ ครอบครัวทุกครอบครัวมีปัญหาหมด ไม่มีใครที่ไม่มีปัญหา แต่พอมีปัญหาก็ต้องแก้ แต่ทางแก้มันก็มีหลาย ๆ แบบ อย่างวัยรุ่นคือไปลุย ไปตีกันเลย ไปดูว่าเขาอยู่ด้วยกันไหม แต่วันนี้ เราต้องขอบคุณลูกที่ทำให้เรามีสติและใจเย็น การเลี้ยงลูกสมัยนี้ จะเลี้ยงด้วยคำพูดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเลี้ยงด้วยพฤติกรรมของเรา เราก็ทำไม่ได้ 100% แต่ต้องดีขึ้น
เราไม่รู้ว่าเราจะแก้ปัญหาได้ไหม แต่ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เราทำดีที่สุด ทำให้เราใจเย็น แทนที่จะโฟกัสกับมันและทำให้เราทุกข์ เราก็โฟกัสกับอย่างอื่น ไปทำงาน เป็นต้น
เมื่อถามว่า ครั้งนี้คือปัญหาเดิม ๆ (หนิงยิ้มแห้ง) ซึ่งหนิงบอกว่า ตนเป็นคนที่ชอบมีวันจบ ต้องเคลียร์ให้มันจบ เอาให้ชัด แต่บางเรื่องมันเคลียร์ไม่ได้ แต่ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็ปล่อย ทุกปัญหามีทางออกของมัน แต่จบแบบไหนเราไม่สามารถรู้ได้ วันนี้เราแก้ไม่ได้ เราก็อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวเวลาจะบอกเราเองว่าทางออกคืออะไร วันนี้เราเห็นแค่ทางตัน แล้วข้างหน้าคือมืดมาก เราไม่รู้ว่าจะเดินไปซ้ายหรือขวา เพราะมัน 50-50 ถ้าอย่างนั้นก็ยืนเฉย ๆ ดีกว่า รอให้แสงมีให้เห็นค่อยเดิน
เราเดินทางถึงช่วงอายุเลข 4 แล้ว แก่แล้วจะวิ่งตามก็คงไม่ได้ ผู้หญิงทุกคนมีหัวใจหมด เมื่อทำอะไรไม่ได้ มันคือความเคยชินที่ต้องยอมรับ ถ้าไม่ยอมรับ เราจะไม่มีทางได้เริ่มต้นคิดอะไรดี ๆ บางครั้งก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นเราจะหลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ ว่าเราสวย ทำงานเก่ง ไม่ต้องพึ่งพาใคร เป็นแม่ที่ดี
เมื่อเรารับรู้ปัญหาแรก ๆ คือไม่ใช่ดิ่ง เสียใจ หรือเศร้า แต่ตอนที่เรารู้สึกแย่จริง ๆ คือตอนต้องมาสัมภาษณ์นักข่าว ก่อนหน้านั้น 2 วัน และหลังจากนั้น 2 วัน เพราะบางทีด้วยภาพลักษณ์ของเราที่แรง แต่ตนแรงแบบยุติธรรม ชัดเจน ตนไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นก่อน นอกจากจะมีคนวิ่งมาขอความช่วยเหลือ แต่จบตรงที่สื่อเอาไปเขียนว่า เราไปเสือกเรื่องคนอื่น กลายเป็นสิ่งที่ทำดีและเป็นภาพติดลบ และด้วยความที่เราเป็นนางร้ายด้วย คนก็พุ่งเป้ามาที่เราคนเดียว ถ้าวันนี้ตนไม่มีลูก ลูกอ่านภาษาไทยไม่ออก ไม่มีโซเชียล ตนจะไม่แคร์อะไรเลย
แล้วสื่อนี้มีผลกระทบกับลูกของตน คือ น้องณิรินไปโรงเรียน แล้วเพื่อน ๆ เอาเรื่องที่คนเมาท์มาพูดกลางสระว่ายน้ำ ตอนแรกหนิงไม่รู้ แต่แล้วแม่ของเพื่อนณิรินมาเล่าให้ฟัง ทำให้หนิงไปถามณิรินว่า ทำไมไม่เล่าให้แม่ฟัง และน้องณิรินตอบว่า แม่ วัน ๆ แม่เครียดเยอะแล้ว ไหนจะงาน ไหนจะเรื่องส่วนตัว หนูไม่อยากเอาสิ่งที่หนูโดนไปกระทบแม่อีก (เสียงสั่น) เพราะหนูรู้ว่า ทั้งหมดที่ทำวันนี้ เพราะแม่ทำเพื่อหนู
ตนคิดว่า เด็กไม่มีเจตนาจะมาพูดหรอก แต่บางทีเด็กฟังพ่อแม่คุยกัน แล้วเอาไปพูด บางทีการเขียนข่าวเพื่อโหนเพื่อหาแสงให้ตัวเอง มันทำร้ายคนอื่น
นาทีที่ 41.40 น. เป็นต้นไป
